สปท.เสนอเพิกถอนสิทธิตลอดชีวิตผู้สมัครทุจริต ยันไม่มีข้อเสนอเซตซีโร่พรรคการเมือง

การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เพื่อพิจารณารายงานข้อเสนอ ของกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง เพื่อประกอบการจัดทำพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพื่อส่งให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)นายสมพงษ์ สระกวี กรรมาธิการ ยืนยันว่า ข้อเสนอของกรรมาธิการไม่มีการเสนอให้เซตซีโร่พรรคการเมืองพร้อมเปิดโอกาสให้สามารถตั้งพรรคได้อย่างเสรี และรัฐจะต้องอุดหนุนงบประมาณให้พรรคการเมือง เพื่อให้พรรคเป็นสถาบันทางการเมืองที่แท้จริง พร้อมเสนอว่า พรรคการเมืองต้องให้ความสำคัญเรื่องนโยบาย ที่ได้รับการเสนอและเห็นชอบจากมติที่ประชุมพรรค และพรรคการเมืองจะต้องรับผิดชอบการนำเสนอนโยบายที่ได้รับการวิเคราะห์ผลกระทบ ความคุ้มค่า และความเสี่ยง ไม่สร้างปัญหาต่อระบบการเงินการคลังของประเทศ พร้อมแยกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและผู้บริหารพรรคการเมืองออกจากกัน เพื่อให้มีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ และให้สมาชิกพรรคในเขตเลือกตั้งนั้นๆ เป็นผู้คัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งในแต่ละเขตโดยวิธีการเลือกตั้งขั้นต้น หรือ Primary Vote และหัวหน้าพรรคการเมือง และกรรมการบริหารพรรค จะต้องป้องกันไม่ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ไปกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง หากปรากฏว่า มีการกระทำผิด หัวหน้าพรรคการเมือง และกรรมการบริหารพรรค จะต้องแก้ไขทันที และแจ้งให้กกต. ทราบ ซึ่งหากเพิกเฉยจะถือว่ารู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย นอกจากนี้ ยังกำหนดบทลงโทษ แก่นักการเมือง และนายทุนพรรคการเมือง ที่นำเงินมาลงทุนในพรรคเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดตลอดจนลงโทษ ส.ส. และ ส.ว. ที่รับเงินจากกลุ่มนายทุน เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมห้ามผู้สมัครรับเลือกตั้ง นำเงินของคนอื่นมาใช้จ่ายในการเลือกตั้งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

สำหรับการยุบพรรคการเมือง จะกระทำมิได้เว้นแต่พรรคการเมืองกระทำผิด ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยและความมั่นคงของชาติ ส่วนมาตรการลงโทษนักธุรกิจการเมืองและนายทุนพรรคการเมือง กำหนดให้มีมาตรการที่รุนแรง มีโทษจำคุก 5-10 ปี ปรับ 20 ล้านบาท ไม่มีการรอลงอาญา และหากเป็นนิติบุคคลที่กระทำผิด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง. )จะต้องตรวจสอบกระแสการเงินหมุนเวียนในนิติบุคคลนั้นด้วย และหากผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัคร รับเงินที่มาจากการสนับสนุนที่ผิดกฎหมาย ให้มีโทษจำคุก 10 ปี โดยไม่มีการรอลงอาญา ปรับ 20 ล้านบาท และเพิกถอนสิทธิการรับสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิต 

และหากผู้สมัครรายใด ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต ให้กกต. วินิจฉัย และยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิผู้สมัครที่กระทำเช่นนั้นตลอดชีวิต

สมาชิก สปท. หลายคนเห็นว่า ยังไม่ควรอภิปราย และลงมติในวันนี้ เนื่องจากรายงานดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญต่อประเทศ ที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะหลายข้อเสนอยังขัดต่อร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านการประชามติ และสมาชิกหลายคนเพิ่งได้รับรายงานข้อเสนอดังกล่าวเมื่อช่วงเช้า จึงยังไม่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบก่อน ดังนั้นรายงานทั้ง 2 ฉบับ ของกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สมาชิกจะมีการอภิปรายร่วมกันอีกครั้ง ก่อนจะลงมติในวันพรุ่งนี้ ว่าสมควรจะส่งต่อไปให้ กรธ.และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณาต่อไปหรือไม่

ผู้สื่อข่าว: ปิยะธิดา เพชรดี