ปธ.กก.สอบข้อเท็จจริงการตายธวัชชัย ขอข้อมูลเพิ่ม พฐ.พบDNA บุคคลอื่นในถุงเท้า

การประชุมคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีกรเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดินจังหวัดภูเก็ตและพังงา นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางตรวจสอบข้อเท็จจริง เปิดเผยหลังการประชุมครั้งแรก ว่า คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่ในการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตและมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ และจะขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อมูลจากทางพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำข้อมูลมาวางแนวทางการดำเนินการ คาดว่าจะได้ข้อมูลครบในช่วงต้นสัปดาห์หน้า

หากข้อมูลไม่ครบถ้วน อาจจะมีการเชิญพยานทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และครอบครัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยจะใช้เวลาในการตรวจสอบ 15 วัน ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะทำรายงานถึงปลัดกระทรวงยุติธรรม และหากพบว่ามีเจ้าหน้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะส่งเรื่องให้กับต้นสังกัดดำเนินการ ส่วนกรณีการชันสูตรศพนายธวัชชัยรอบที่สอง ยังไม่สามารถกำหนดเวลาได้ ต้องรอข้อมูลจากทุกฝ่ายให้โอกาสครบถ้วน ยืนยันว่า การตรวจสอบของคณะกรรมการในครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีของพนักงานสอบสวน ยอมรับว่าเวลาดำเนินการ 15 วันนั้น เป็นระยะเวลาที่สั้น แต่ก็เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ทัน

ส่วนกรณีที่ดีเอสไอ จะเชิญน้องชายของนายธวัชชัย เข้าร่วมตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บริเวณห้องควบคุมผู้ต้องหาในวันพรุ่งนี้ คณะกรรมการได้เตรียมประสานเพื่อขอเข้าร่วมตรวจสอบด้วย

ส่วนการตรวจสอบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของนายธวัชชัย พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง หรือ พฐ. ยอมรับผลตรวจดีเอ็นเอในถุงเท้าซึ่งเป็นหลักฐานที่พบในห้องควบคุมผู้ต้องหาของดีเอสไอที่นายธวัชชัย ใช้ผูกคอตัวเองจนเสียชีวิตว่ามีดีเอ็นเอ ของผู้เสียชีวิตติดอยู่ที่ถุงเท้าอย่างชัดเจน ทำให้เชื่อว่าเป็นถุงเท้าของผู้เสียชีวิต แต่ในถุงเท้ายังคงพบมีดีเอ็นเอของบุคคลอื่นด้วย อยู่ระหว่างการประมวลผลและเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของบุคคลที่แกะถุงเท้าและเจ้าหน้าที่ที่ควบคุม เพราะก็มีความเป็นไปได้ที่ดีเอ็นเออาจะติดภายในหลักฐานดังกล่าวคาดว่าจะทราบผลในเร็วๆนี้ 

ส่วนการจำลองเหตุการณ์ของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานครั้งล่าสุด โดยการนำถุงเท้าชนิดที่ใกล้เคียงกับที่พบในที่เกิดเหตุมาทดสอบ ยืนยันว่าสามารถเกี่ยวกับบานพับประตูที่รับน้ำหนักของการของการผูกคอได้ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นการผูกคอตัวเสียชีวิตหรือมีบุคคลอื่นทำให้เสียชีวิต ซึ่งหากเป็นการผูกคอด้วยตัวเองจะไม่มีร่องรอยหรือบาดแผลภายนอก แต่หากถูกเป็นฝีมือบุคคลอื่นกระทำจะต้องมีร่องรอยการต่อสู้และขัดขืนทำให้เกิดบาดแผล ส่วนร่องรอยการถูกรัดที่บริเวณลำคอมีขนาดเล็กกว่าความหนาของถุงเท้า จากการจำลองเหตุการณ์เป็นไปได้ว่าถุงมีความยืดยุ่นจากการรับน้ำหนัก นอกจากนี้ ได้มีการจำลองการตกจากที่สูงจนเป็นเหตุให้ตับแตกได้หรือไม่ ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์ทั้งหมดจะนำต้องนำมารวบรวมประกอบกัน ก่อนสรุปส่งให้พนักงานสอบสวน แต่ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถสรุปหรือให้น้ำหนักไปในทางใดทางหนึ่งได้