สนช.เห็นชอบวาระ3ร่างพรบ.ประกอบกิจการอัจย์ เอกฉันท์

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้มีก่รพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการฮัจย์ โดยนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ ประธานคณะกรรมมาธิการ ระบุว่า  เนื่องจากปัจจุบัน มีชาวมุสลิมให้ความสนใจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นจำนวนมาก จึงควรให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่มีหน่วยราชการอยู่ภูมิภาค ใกล้ชิดประชาชนทำหน้าที่ส่งเสริมกิจการฮัจย์แทนกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เพื่อความเป็นเอกภาพในการทำงาน เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ดูแลเป็นหน่วยงานที่ดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ยังได้ปรับปรุงองค์ประกอบ คุณสมบัติของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์ ให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ พร้อมให้เพิ่มปลัดกระทรวงวัฒนธรรมเข้าไปเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ

โดยสมาชิกสนช. เช่น นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ และรายสมชายแสวงการ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการเพิ่มปลัดกระทรวงวัฒนธรรมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ นายสมคิดได้ชี้แจงว่า เนื่องจากปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้มีความรู้และดำเนินการศาสนาโดยตรงและมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

โดยที่ประชุมมติเห็นชอบด้วยมติเอกฉันท์ 161 วาระ3 ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการฮัจย์ เป็นกฎหมาย หลังมีการแก้ไข เพิ่มองค์ประกอบคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยโดยตำแหน่ง จาก 10 คน เป็น 11 คน  และกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงกำหนดให้อธิบดีกรมการปกครองเป็นเลขาธิการคณะกรรมการ