*ชี้ค้นหาMH370 ผิดจุด/กลุ่มติดอาวุธยึดโรงกลั่นน้ำมันในอิรัก/ผู้นำยูเครนยอมวางอาวุธ*

 *ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.

+++สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานว่า กว่า 100 วันนับตั้งแต่เที่ยวบินเอ็มเอช 370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ ที่บินมุ่งไปยังกรุงปักกิ่ง พร้อมคนบนเครื่อง 239 คนได้สูญหาย ขณะนี้ดูเหมือนว่าทีมค้นหาไม่ได้สำรวจในบริเวณที่มีแนวโน้มมากที่สุดว่าเครื่องบินตก บริษัทดาวเทียมอินมาแซตของอังกฤษได้เปิดเผยเรื่องนี้ต่อสำนักข่าวบีบีซีว่า จากการคำณวน จุดที่มีแนวโน้มที่สุดว่าเครื่องบินตกน่าจะอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของพื้นที่ค้นหาเดิมในมหาสมุทรอินเดีย

ในตอนแรก ทีมค้นหาตั้งใจจะไปค้นหาในบริเวณนั้น แต่ไม่ได้ไปหลังจากเรือโอเชียน ชีลด์ ของออสเตรเลีย สามารถรับสัญญาณที่สันนิษฐานว่าอาจจะส่งมาจากระบบทรานสปอนเดอร์ หรือระบบแจ้งตำแหน่งของเครื่องบิน ทีมค้นหาจึงลดพื้นที่ค้นหาให้แคบลง เพื่อให้ใกล้กับแหล่งรับสัญญาณให้มากที่สุด สำหรับการค้นหาเที่ยวบินเอ็มเอช 370 จะเริ่มต้นอีกครั้ง พร้อมกับอุปกรณ์ใหม่ๆ พร้อมทั้งจะมีการกำหนดแผนที่การค้นหาใหม่ โดยใช้ข้อมูลดาวเทียมล่าสุดเป็นเบาะแสสำคัญ

+++บีบีซี รายงานอ้างนายกาซิม อาตา โฆษกกองทัพอิรักว่า กองทัพฯสามารถขับไล่กลุ่มติดอาวุธชาวสุหนี่หัวรุนแรงหรือ ไอเอสไอเอส ออกจากโรงกลั่นน้ำมันในเมืองไบจิ โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ หลังการบุกยึดเมื่อช่วงกลางดึกของวันอังคาร แม้ว่าจะมีรายงานว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของโรงกลั่นน้ำมันตกอยู่ในความควบคุมของกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางทิศเหนือราว 210 กิโลเมตร ด้านกองทัพฯกล่าวว่า คนร้ายเสียชีวิต 40 คน แต่คำอ้างนี้ยังจะต้องมีการตรวจสอบอย่างเป็นกลางเช่นกัน ขณะเดียวกัน กองกำลังรัฐบาลได้เพิ่มการโจมตีทางอากาศยังที่มั่นกลุ่มติดอาวุธในที่ทุกแห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้มีการสู้รบในเมืองรามาดี ทางภาคตะวันตกของประเทศ

ด้านนายกรัฐมนตรีนูริ อัลมาลิกิ ได้แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ของอิรักว่า การรุกคืบของกลุ่มไอเอสไอเอส ถือเป็นปัญหาใหญ่ แต่วิกฤติเช่นนี้จะทำให้ประชาชนชาวอิรักแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ระบุว่าไม่มีชาวอิรักคนใดได้ประโยชน์จากปัญหาวิกฤติของชาติ ที่ผ่านมา นายมาลิกิถูกกล่าวหาว่าเข้าข้างกลุ่มมุสลิมชีอะห์ ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ

+++นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษเตือนว่า การเพิกเฉยต่อภัยคุกคามจากกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในตะวันออกกลางและบางพื้นที่ของทวีปแอฟริกาจะย้อนกลับมากระทบต่อความมั่นคงของอังกฤษ โดยเฉพาะพลเมืองสัญชาติอังกฤษ 400 คนที่เดินทางไปสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกลุ่มติดอาวุธไอซิลในซีเรียและอิรักในขณะนี้ นายคาเมรอนชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏรว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง หากคิดว่าปัญหาวิกฤติในอิรัก ไม่เกี่ยวข้องกับอังกฤษ เขายังได้เรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศต่างๆร่วมแก้ไขปัญหานี้ พร้อมทั้งวางมาตรการป้องกันไม่ให้กลุ่มติดอาวุธแพร่หลายมากยิ่งขึ้น นายคาเมรอนยังได้ประกาศให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมแก่อิรัก  นายคาเมรอน ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมของสภาความมั่นคงแห่งชาติในวันนี้ ได้ปฏิเสธเรื่องการแทรกแซงทหาร เพื่อสนับสนุนรัฐบาลนายกรัฐมนตรีนูริ อัลมาลิกิ หลังการบุกโจมตีของกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนท์ หรือไอเอสไอเอส

+++ราคาน้ำมันปิดผสมผสานวานนี้(18) ด้วยตลาดลอนดอนขยับขึ้นจากความรุนแรงที่ลุกลามในอิรัก สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 39 เซนต์ ปิดที่ 105.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ ปิดที่ 114.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++หลังจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปและยังไม่เร่งรัดกรอบเวลาที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 98.13 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,906.62 จุด

+++ราคาทองคำวทรงตัวในกรอบแคบๆ หลังเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้เช่นเดิม ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 0.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,272.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางการยูเครนทำการสอบสวนอย่างละเอียดสำหรับเหตุรุนแรงทั้งหมดที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของนักข่าว  ขณะที่ ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโกผู้นำยูเครน เสนอข้อตกลงให้ทหารของเขาหยุดยิงแต่เพียงฝ่ายเดียวเพื่อเปิดทางให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียยอมวางอาวุธโดยแผนสันติภาพจะทำให้เกิดผลในเวลาอันไม่ช้านี้  การประกาศของเขามีขึ้นหลังจากยกหูโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ปูติน ผู้นำรัสเซีย ซึ่งทั้ง2ผู้นำได้หารือกันเรื่องการแก้ปัญหาในภาคตะวันออกของยูเครนที่กลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียกำลังต่อสู้อยู่กับกองทัพรัฐบาลยูเครน

นายอาร์เซน อาวาคอฟรัฐมนตรีกิจการภายในของยูเครนกล่าวว่า เหตุระเบิดท่องส่งก๊าซในภาคกลางของยูเครนมีสาเหตุมาจากระเบิดโดยระเบิดถูกซุกซ่อนไว้ใต้เสาค้ำคอนกรีตที่ท่อส่งก๊าซอูเรนกอย-โปมารี-อุซโกรอดโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บในเหตุระเบิดครั้งนี้บริษัทยุโรปและรัสเซียแถลงว่าการส่งออกก๊าซไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดท่อส่งเมื่อวันอังคาร

+++นางไลซา อะลาเมีย เจ้าหน้าที่เขตปกครองตนเองมุสลิมมินดาเนา ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ประชาชนกว่า 35,000 คนไร้ที่อยู่อาศัยหลังฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใน 12 เทศบาลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มในจังหวัดมากินดาเนา นอกจากนั้น แม่น้ำริโอ แกรนด์ เดอ มินดาเนา แม่น้ำที่ยาวที่สุดของประเทศ เริ่มล้นตลิ่งมาตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน เนื่องจากฝนตกหนักมาโดยต่อเนื่อง

+++เว็บไซต์หนังสือพิมพ์จีน “ฉางไห่ เดลี” รายงานจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ว่า ตำรวจในมหานครเซี่ยงไฮ้ของจีน กำลังสืบสวนตามจับกุมตัวหนุ่มรายหนึ่ง ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายชายชราซึ่งเป็นขอทานบนรถไฟฟ้าเมืองเซี่ยงไฮ้สาย 1 เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ขณะเกิดเหตุนั้นมีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าถ่ายภาพเหตุการณ์ได้เกือบทั้งหมดและนำวิดีโอดังกล่าวมาเผยแพร่บนเว็บไซต์ “โยวกุ” เว็บไซต์แชร์วิดีโอชื่อดังของจีน โดยมียอดผู้เข้าชมแล้วกว่า 1 ล้านครั้ง

+++เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นที่หนุ่มคนดังกล่าวให้เงินกับขอทานชราเป็นมูลค่า 6 หยวน (ราว 30 บาท) จากนั้นเขาจึงขอเงินจำนวนดังกล่าวคืน แล้วด่าว่าขอทานว่า หาเงินได้มากกว่าเขา แล้วตบขอทานเข้าที่ศีรษะหลายครั้ง รวมทั้งถีบอย่างแรงด้วยอีกหนึ่งครั้ง ผู้คนในรถไฟฟ้าเริ่มร้องตะโกนเข้าห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มยังคงด่าว่าและตะโกนให้ขอทานก้มลงเก็บเงินที่อยู่บนพื้น พร้อมกล่าวว่า วันนี้เขาอารมณ์ไม่ดี อย่าพยายามทำให้เขาโกรธ แม้จีนจะมีกฎหมายห้ามขอทานขึ้นมาขอเงินบนรถไฟฟ้า แต่เขาก็ไม่ควรทำร้ายร่างกายผู้อื่นเช่นนี้

+++การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 20 บราซิล  เป็นการแข่งรอบแรก นัดที่ 2 ในคืนวันพฤหัสบดีนี้ 3 คู่  ขณะที่คู่เวลา 23:00 น. ทีมชาติโคลอมเบีย ลงเล่นในกลุ่ม ซี เจอกับ ทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ หากใครชนะด้จะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที

ต่อจากนั้นในเวลา 02.00 น. อังกฤษ เจอกับอุรุกวัย  ซึ่งทั้งสองทีมจะพลาดไม่ได้ เพราะถ้าแพ้จะตกรอบแรกค่อนข้างแน่นอน เนื่องจากแพ้มาจากเกมแรกทั้งคู่ ปิดท้ายที่คู่เวลา 05:00น.ทีมชาติญี่ปุ่น พบ ทีมชาติกรีซ ที่อารีน่า ดาส ดูนาส ซึ่งทั้งสองทีมต่างแพ้มาจากนัดแรก ทำให้เกมนี้จะต้องพลาดไม่ได้

+++ส่วนผลการแข่งขันเมื่อคืนนี้ ฮอลแลนด์ เขี่ยออสเตรเลียตกรอบแบบหืดจับ ชนะไป 3 : 2  ส่วนแชมป์เก่าสเปน ตกรอบหลังพ่ายชิลี 0:2 ส่วนคู่ที่ยังแข่งอยู่ในขณะนี้ โครเอเชีย ทำเกมทิ้งห่าง แคมเมอรูน 3:0