กรธ.เร่งแก้รธน.ตามคำถามพ่วง/สปท.เสนอแนะกม.ลูก/กรมชลฯประเมินน้ำพอใช้ฤดูแล้ง

10 สิงหาคม 2559, 20:32น.


+++นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ร่องฝนเข้าไทยล่าช้าไปช่วงปลายเดือน ส.ค.มีแนวโน้มพายุเข้าไทย 2 ลูก จากที่เคยคาดไว้จะเข้ากลางเดือนนี้ แต่ตอนนี้ร่องฝนยังอยู่ประเทศจีน โดยกรมชลประทาน ประเมินว่าปริมาณน้ำ 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย และเขื่อนป่าสัก มีปริมาณน้ำใช้การได้รวม 9 พันล้านลบ.ม. ซึ่งถือว่ามีใช้อย่างพอเพียงในฤดูแล้งหน้า ที่จะสิ้นสุดฤดูฝนในวันที่ 1 พ.ย. สรุปภาพรวมทั้งประเทศสูงกว่าร้อยละ1 โดยมีปริมาณน้ำเข้าสะสม เขื่อนภาคเหนือ มีน้ำใช้การมากกว่าปี2558 ภาคอีสาน เขื่อนอุบลรัตน์ ใกล้เคียงปีที่แล้ว ส่วนเขื่อนวชิราลงกรณ์ เขื่อนศรีนครินทร์ ในภาคตะวันตก น้อยกว่าปีที่แล้ว ภาคใต้ เขื่อนบางลาง เขื่อนเขาสก (รัชประภา) น้อยกว่าเนื่องจากฝนต้นฤดูน้อย



+++เมื่อช่วงเย็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงขอบคุณประชาชนพร้อมชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการหลังการทำประชามติผ่านทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่องและวิทยุทั่วประเทศ ในวันที่ 11 ส.ค. คาดว่าเวลาในเวลาใกล้เคียงกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะแถลงชี้แจงถึงรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการตามโรดแมปเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ภายหลังร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติอีกครั้ง



+++รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึง การดำเนินงานของ กรธ.หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.)แถลงผลประชามติอย่างเป็นทางการ ว่า กรธ. ต้องเริ่มนับ 1 โดยต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามคำถามพ่วง ภายใน 30 วัน และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาอีก 30 วัน ซึ่งหากเห็นว่าสอดคล้องต่อเจตนารมณ์ของประชาชน ก็จะส่งให้ นายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าภายใน 30 วัน จะเพียงพอ รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าวถึง การเชิญนักวิชาการหรือตัวแทนของพรรคการเมือง เพื่อหารือเรื่องกฎหมายลูก  ส่วนตัวเชื่อว่า ต้องมีเพื่อหารือและพูดคุยกัน ซึ่งมั่นใจว่าทันการเลือกตั้งในปี 2560 อย่างแน่นอน



+++นายสมพงษ์ สระกวี  สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง  สปท. กล่าวถึง กรณีการจัดทำข้อเสนอแนะกฎหมายลูก 4 ฉบับ เพื่อเสนอต่อกรธ.ว่าในส่วนข้อเสนอแนะร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่เป็นประธานคณะทำงาน ได้พิจารณาเนื้อหาที่จะเสนอต่อกรธ.เสร็จแล้ว  มีสาระสำคัญตามรายงานการปฏิรูประบบพรรคการเมือง ที่สปท.เคยให้ความเห็นชอบไป คือการเสนอให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน ปราศจากการถูกครอบงำจากนายทุนพรรค  เช่น การให้สมาชิกพรรคต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีแก่พรรค  การห้ามยุบพรรคการเมือง ยกเว้นทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย หรือความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง  การให้สมาชิกพรรคแต่ละพื้นที่มีส่วนร่วมคัดเลือกผู้สมัครส.ส. การกำหนดตัวผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น รัฐมนตรี เลขานุการ หรือที่ปรึกษารัฐมนตรี ต้องให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมคัดเลือก ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค 



+++พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ หลังร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติว่า ขั้นตอนทุกอย่างต้องดำเนินการ หลังจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ โดยมีระยะเวลา 120 วัน ในการร่างกฎหมาย จะดำเนินการก่อนไม่ได้ จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ชาติภายใน 1 ปี ส่วนใครจะเป็นประธาน คงต้องรอความชัดเจน ยืนยันว่าร่างยุทธศาสตร์ชาติทุกฝ่ายจะมีส่วนร่วม เพราะผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)  สปท. รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)และสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เข้ามาร่วมให้ความเห็นด้วย



+++หุ้นไทย ปิดตลาดที่ 1,548.13 จุด ลดลง 0.08จุด มูลค่าการซื้อขาย 67,742.59 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยได้รับรู้ข่าวดีต่างๆไปหมดแล้วโดยเฉพาะในด้านของรัฐธรรมนูญผ่านประชามติหรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางต่างๆ ดังนั้นจำเป็นต้องรอปัจจัยใหม่ๆ น่าจะเป็นปัจจัยต่างประเทศมากกว่าในประเทศ เช่นเรื่องของราคาน้ำมันและตัวเลขเศรษฐกิจประเทศต่างๆ



+++ดัชนีนิเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยน ปิดลบ 29.85 จุด ปิดที่ 16,735.12 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.3 บ่งชี้ว่า ภาคการค้าส่ง มีแนวโน้มที่จะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เพิ่มขึ้น 26.82 จุด  ปิดที่ 22,492.43 จุด



+++ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า วุฒิสภาบราซิล ลงมติด้วยคะแนน 59 ต่อ 21 เสียง เห็นชอบข้อเสนอให้มีการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีดิลมา รุสเซฟฟ์ออกจากตำแหน่ง หลังถูกพักการปฏิบัติหน้าที่ไว้ชั่วคราว กรณีที่นางรุสเซฟฟ์ ถูกกล่าวหาว่าขาดความรับผิดชอบกรณีการจัดทำงบประมาณ โดยใช้เงินสินเชื่อจากธนาคารของรัฐชดเชยการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลคาดว่า วุฒิสภาจะเริ่มต้นการไต่สวนถอดถอนออกจากตำแหน่งช่วงปลายเดือน หลังปิดพิธีแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในเมืองริโอเดอจาเนโร



+++ส่วนสถานการณ์ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก นายมาริโอ อันดราดา หัวหน้าโฆษกคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงอยู่ระหว่างการสอบสวนว่า รถบัสคันหนึ่งที่บริการรับส่งนักข่าวระหว่างสนามแข่งขันถูกยิงเมื่อค่ำวานนี้จริงหรือไม่ เนื่องจากตรวจสอบพบว่า กระจกรถแตก 2 บาน ผู้บาดเจ็บ 3 คน จากทั้งหมด 12 คน ถูกเศษกระจกบาด เจ้าหน้าที่บราซิล ยังไม่ทราบว่ามีการยิงหรือเป็นการใช้ก้อนหินขว้างใส่รถบัสรับส่งนักข่าว เหตุเกิดขณะรถแล่นระหว่างสนามกีฬาฮอกกี้ไปยังศูนย์ข่าวหลักของเมืองในย่านบารา ดา ติชูกา ทหารจะเพิ่มการลาดตระเวนบริเวณสนามจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกให้มากขึ้น



 



 

ข่าวทั้งหมด

X