หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เปิดเผยว่า ในที่ประชุมได้ขอบคุณนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพราะถือว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นของประชาชน ซึ่งการลงประชามติก็เป็นไปตามหลักสากล รวมไปถึงมีผู้มาใช้สิทธิ์เกินกว่าร้อยละ 50 จึงขออย่านำไปบิดเบือนว่ารัฐธรรมนูญดังกล่าวเป็นรัฐธรรมนูญทหาร พร้อมขอบคุณประชาชนทั่วประเทศโดยเฉพาะพื้นทีภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งไม่ว่าจะรับหรือไม่รับ ตนเองก็รักประชาชนเสมอ ซึ่งหลังจากการทำประชามติมองว่าทุกอย่างดีขึ้นทั้งการค้าลงทุน และขออย่าเอาความเห็นต่างมาขยายความ โดยขอให้เห็นความตั้งใจประชาชนในเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตย
หลังจากนี้จะแถลงถึงดำเนินการต่อไปให้ทั้งไทยและต่างประเทศภายหลังจากคณะกรรมการการเลือก (กกต.) รายงานผลการลงประชามติอย่างเป็นทางการ ซึ่งขั้นตอนจะต้องมีก่รตัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งยืนยันว่า จะเดินหน้าตามโรดเมพและเลือกตั้งในปี 2560
ส่วนการที่สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป มองว่าการลงประชามติของไทยขาดความชอบธรรม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการลงประชามติของไทยเป็นไปตามหลักสากลทุกอย่าง นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่ายังไม่มีแนวคิดในการยุบพรรคการเมืองหรือเซตซีโร่ รวมไปถึงยังไม่พิจารณาปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมในระหว่างนี้ ซึ่ง ในระหว่างนี้คาดหวังถึงการเมืองดีขึ้น มีนักการเมืองที่มีธรรมาภิบาล ไปสู่การปฏิรูปประเทศ
นายกรัฐมนตรียังปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าในรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกได้ หากมีการทามจะรับตำแหน่งหรือไม่ พร้อมระบุด้วยว่า อย่าไปกลัวผีที่มองไม่เห็น
ส่วนกรณีที่มีการเปิดเผยข้อมูลการกินหัวคิวจากโครงการประชารัฐ ที่อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช นายกรัฐมตรีระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้รายงานและสั่งการไปแล้วให้มีการสอบสวนในเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนก็รับทราบแล้วถ้าผิดก็ลงโทษ ทั้งทางวินัยและอาญา เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย ระเบียบวินัยของข้าราชการมีอยู่อย่างชัดเจนแล้ว ความจริงเรื่องของการทุจริตไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องลงโทษสถานหนักไม่มีการละเว้น