คสช.พอใจผลประชามติ/กกต.สรุปภาพรวม/ริโอเกมส์*

08 สิงหาคม 2559, 12:30น.


พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงผลการออกเสียงประชามติว่า ส่วนตัวพอใจผลการลงประชามติเพราะจะทำให้รัฐบาลสามารถเดินหน้าตามแผนการทำงานที่วางไว้ได้ โดยขั้นตอนหลังจากนี้คือการทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เพื่อเตรียมเลือกตั้งต่อไป



นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า การประชุม กกต. วันนี้จะมีการพิจารณาผลสรุปภาพรวม รวมถึงปัญหาการจัดทำการออกเสียงประชามติทั้งหมด รวมถึงปัญหาการฉีกบัตร ที่พบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ เนื่องจากเข้าใจว่าบัตรออกเสียงมี 2 ประเด็นคำถาม จึงต้องฉีกแยกเป็น 2 ส่วน ซึ่งเรื่องนี้ทาง กกต. จะนำมาเป็นกรณีศึกษา อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งทั่วไป เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะใช้บัตรเพียงใบเดียว และกกต. จะออกแบบบัตรโดยไม่ให้มีรอยประอีก เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด ส่วนการประกาศผลอย่างเป็นทางการคาดว่าจะมีขึ้นภายในวันพุธที่ 10 สิงหาคมนี้



ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ มีร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน สปท. ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ซึ่งเริ่มต้นขึ้นด้วยการที่ประธาน สปท. แสดงความยินดีกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และประเด็นคำถามพ่วงที่ผ่านความเห็นชอบของประชาชนทั่วประเทศ และขอให้สมาชิกร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน ตลอดจนให้ความร่วมมือกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช .) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และ คณะรัฐมนตรี (ครม.)  ทั้งกล่าวว่า การปฏิรูปประเทศไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ และขอให้สมาชิก สปท.ร่วมเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์การปฏิรูปประเทศร่วมกับ คสช. จึงขอเป็นตัวแทนเพื่อขอบคุณพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ และขอสัญญาว่าพวกเราจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง



จากผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญคำถามพ่วง สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง 1,279 คน กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 55.43 เชื่อว่าการเมืองไทยหลังการลงประชามติจะเหมือนเดิม เพราะยังมีปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย การเมืองเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ มีให้เห็นทุกยุคทุกสมัย ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 81.24 เชื่อว่าพรรคการเมืองจะได้รับผบกระทบจากการลงประชามติครั้งนี้



ส่วนสื่อต่างชาติ ติดตามการลงประชามติครั้งนี้เช่นกัน และมีความเห็นว่าเป็นบททดสอบความนิยมต่อรัฐบาล ที่สามารถสร้างเสถียรภาพและยุติความรุนแรง



ส่วนสถานการณ์ชายแดนใต้ ภายหลังการทำประชามติ เกิดเหตุลอบวางเพลิงโรงงานสามดาว พาราวู๊ด ตั้งอยู่ที่ 117 ริมถนนสาย 410 สายยะลา-เบตง หมู่ที่ 4 บ้านเจาะบันตัง อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยจุดที่เกิดไฟไหม้เป็นโกดังเก็บไม้ยางที่แปรรูปที่เข้าโรงอบแห้ง เพื่อรอส่งไปจำหน่ายโดยรถดับเพลิงและรถตำรวจที่จะเข้าไปดับไฟถูกตะปูเรือใบ ทำให้รถได้รับความเสียหายทั้ง 2 คัน



นอกจากนี้ ยังมีเหตุวางเพลิงอีกหลายจุดในจังหวัดยะลา ได้แก่วงจรปิดที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้า ริมถนนสายยะลา-ราทัน ที่บ้านเฆาะ หมู่ที่ 1 ต.โกตาบารู อ.รามัน เผายางรถยนต์บนถนนสายโกตาบารู-ท่าเรือ บ้านจาลง หมู่ที่ 4 ต.โกตาบารู อ.รามัน เผาเสาโทรศัพท์และเสาไฟฟ้าบริเวณหน้าปั้ม ปตท.ริมถนน 410 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง และยังมีการลอบเผายางรถยนต์บนถนนอีกหลายจุด เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นการก่อกวนหลังจากการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา



ส่วนกรณีของ นายปิยรัฐ จงเทพ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เจตนาฉีกบัตรออกเสียงประชามติ ขณะเดินทางมาใช้สิทธิ์ที่หน่วยออกเสียงสำนักงานเขตบางนา  พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.บางนา ได้แจ้งข้อหากับนายปิยรัฐ 4 ข้อหา คือ ความผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติ 2 ข้อหา ได้แก่ ฉีกทำลายบัตร และรบกวนขัดขวางการลงประชามติ กับความผิดตามคดีอาญาอีก 2 ข้อหา คือ ฉีกทำลายเอกสารทางราชการ และทำให้เสียทรัพย์ แต่เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ทั้งยังให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงอนุญาตให้ประกันตัวไปเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ ตำรวจยังดำเนินคดีกับผู้ถ่ายคลิป และผู้ติดตามอีก 1 คน เนื่องจากเข้าข่ายจงใจกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติ ข้อหา รบกวนขัดขวางการลงประชามติ ทั้งนี้ ได้มีการแจ้งข้อหากับทั้งสองคนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน



ส่วนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค 2016 หรือริโอเกมส์ ที่นครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ไทยมีเหรียญเพิ่มขึ้น 1 เหรียญทองแดงจากยกน้ำหนักโดย สินธุ์เพชร กรวยทอง กีฬายกน้ำหนัก



มวยสากลสมัครเล่น อำนาจ รื่นเริง นักชกรุ่น 60 กก. และ สายลม อาดี นักชกรุ่น 69  ผ่านเข้ารอบ16 คน



ทีมเทเบิลเทนนิสของไทยนักกีฬาไทยทั้ง 3 คนตกรอบหมดแล้วโดยนันทนา คำวงศ์ ลงแข่งขันโอลิมปิกเป็นครั้งที่ 5 ตกรอบ 3 พ่าย ฮาน หยิง มือวางอันดับ 5 ของรายการจากเยอรมัน 0-4 เกม



ส่วนนักกีฬาน้องใหม่อีก 2 คนก็ตกรอบ 2



ท่ามกลางการแสดงความยินดีในความสำเร็จของสินธุ์เพชร กรวยทอง ที่คว้าเหรียญทองแดงการแข่งขันยกน้ำหนักรุ่น 56 กก. แต่ก็มีเรื่องเศร้าเกิดขึ้นเมื่อคุณยายสุบิน คงทัพ วัย 82 ปี ซึ่งเป็นยายที่เลี้ยงสินธุ์เพชร มาตั้งแต่เด็ก เสียชีวิตขณะที่รับชมสินธุ์เพชร ยกเหล็กในท่าสแนตซ์ครั้งที่ 2 อยู่ที่บ้านคุ้มโนนระเวียงสามัคคี ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ โดยคุณยายสุบินเป็นลมช็อค หมดสติไป ทำให้ญาติพี่น้องต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล อ. ชุมพลบุรี ในทันที แต่แพทย์ระบุว่า คุณยายเสียชีวิตแล้ว โดยมีสาเหตุเนื่องจากอาการหัวใจขาดเลือด



*-*



รีไรท์ อรพรรณ   สวัสดีผล

ข่าวทั้งหมด

X