หลังที่มีการนับคะแนนการลงประชามติไปแล้วกว่าครึ่ง และในขณะนี้ส่วนใหญ่ประชาชนเห็นชอบทั้งร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 1 กล่าวว่า จาก จากผลคะแนนดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนต้องการเห็นการเดินหน้าประเทศ และกลไกการปฏิรูปประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากนับคะแนนแล้วเสร็จและผลคะแนนยังคงเป็นเช่นนี้ สนช. และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อ จนกว่าจะมีรัฐสภาชุดใหม่ รวมไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ก็จะต้องสืบทอดภาระกิจในการปฏิรูปประเทศต่อไป
นายสุรชัยยังกล่าวอีกว่า เชื่อว่าสถานการณ์หลังจากนี้ จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเดินหน้าไปตามโรดเมพที่ตั้งไว้ ขณะเดียวกันมั่นใจว่า ต่างชาติจะเชื่อมั่นในประเทศไทยมากขึ้นเนื่องจากเห็นความพยายามของไทยในเข้าสู่ประชาธิปไตย
ส่วนมีบางส่วนระบุว่าการทำประชามติในครั้งนี้ขาดความชอบธรรมและลิดรอนสิทธิในการแสดงความเห็นของประชาชน นายสุรชัย ระบุว่า การทำประชามติ เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย อีกทั้ง ไม่ได้มีการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นเพียงแต่มีกฎหมายไม่ให้บิดเบือนเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าผลการลงประชามติจะเป็นอย่างไรก็ขอให้เคารพเสียงที่ออกมาจากประชาชน
ขณะที่ท่าทีของพรรคการเมืองที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ผลที่ออกมากลับสวนทางกันนั้น นายสุรชัยระบุว่าสะท้อนให้เห็นเช่นเดียวกันว่าประชาชนมีเสรีภาพในการตัดสินใจ และประชาชนไม่ได้เห็นด้วยทุกอย่างกับพรรคการเมือง ส่วนบรรยากาศหลังจากนี้จะมีการเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมหรือไม่ เชื่อว่า คงมีการเปิดโอกาสให้ทุกอย่างผ่อนคลายมากขึ้น ขณะเดียวกัน ฝ่ายการเมืองควรให้ความร่วมมือในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศด้วย
ขั้นตอนหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่ต้องไปดำเนินการเพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวกับคำถามพ่วงลงไปในร่างรัฐธรรมนูญและส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ หากตีความแล้วไม่ขัดก็จะส่งให้นายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้า หลังจากนั้นกรธ.จะทำกฎหมายลูก 10 ฉบับ ภายในระยะเวลา 240 วัน และดำเนินการตัดการเลือกตั้งตามโรดเมพ