สหรัฐฯยืนกรานไม่เกี่ยวข้องกับความพยายามก่อรัฐประหารในตุรกี

พล.อ.โจเซฟ โวเทล ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ซึ่งรับผิดชอบภูมิภาคตะวันออกกลาง ออกถ้อยแถลงยืนกรานว่า สหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามก่อรัฐประหารในตุรกี ตุรกีถือเป็นหุ้นส่วนพิเศษสำคัญในภูมิภาคมาเป็นเวลานาน ทั้งยังให้ความร่วมมือในการทำงานด้วยดี และหวังว่า ตุรกีจะยังเป็นหุ้นส่วนในการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม( IS) ถ้อยแถลงของ พล.อ.โวเทล มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป เออร์โดแกน ของตุรกี กล่าวหาว่า พล.อ.โวเทล อยู่ข้างเดียวกับผู้วางแผนก่อรัฐประหาร แทนที่จะขอบคุณตุรกีที่สามารถปราบปรามความพยายามก่อรัฐประหารได้ ทั้งนี้ ข้อกล่าวหาของผู้นำตุรกีแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจ พล.อ.โวเทลที่แสดงความคิดเห็นก่อนหน้านี้ว่า ความพยายามก่อรัฐประหารในตุรกีและการกวาดจับกุมทหารยศนายพลจำนวนหลายสิบคนสามารถส่งผลกระทบต่อความร่วมมือทางการทหารระหว่างสหรัฐฯ กับตุรกีได้ เนื่องจากการสูญเสียผู้แทนเจรจาคนสำคัญทางการทหารของตุรกี ซึ่งปัจจุบันถูกจับกุมด้วยข้อกล่าวหาอยู่เบื้องหลังความพยายามก่อรัฐประหาร

อย่างไรก็ดี โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ แถลงยืนยันว่า ประธานาธิบดีเออร์โดแกนเป็นพันธมิตรใกล้ชิดสหรัฐฯ ทั้งสองประเทศต่างทำงานร่วมกันในประเด็นสำคัญระหว่างประเทศมาแล้วมากมาย อาทิ การปราบปรามกลุ่ม IS โดยใช้ฐานทัพอินเซอร์ลิคเป็นฐานบัญชาการสำคัญในการปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับตุรกีที่อ่อนไหวอยู่ก่อนแล้วได้ตึงเครียดมากขึ้น หลังพบว่าฐานทัพอินเซอร์ลิคกลายเป็นฐานบัญชาการสำคัญของกลุ่มวางแผนก่อรัฐประหารและต่อมา พล.อ.เบคีร์ เออร์คาน วาน ซึ่งเป็นผู้บัญชาการฐานทัพแห่งนี้ ก็ถูกจับกุม

ทีมต่างประเทศ