ตร.เตรียมทำประวัติรุ่นพี่มีพฤติกรรมยุยงนักศึกษารุ่นน้องก่อเหตุวิวาท

ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ออกมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนนักศึกษา ซึ่งในวันนี้ มีการจัดกิจกรรมเชี้แจงต่อผู้ปกครอง และนักเรียน นักศึกษาที่วิทยาลัยเทคโนโลยีมีนบุรีโปรีเทคนิค (มีนโปร) โดยมีพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.), พล.ต.ต.ดร. ชัยพร พานิชอัตรา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 และดร. ชาญเวช บุญประเดิม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา-เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมกิจกรรมด้วย   

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ในพื้นที่สน.มีนบุรี นักศึกษาบางคนของสถานศึกษาแห่งนี้ เคยก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับสถาบันคู่อริบ่อยครั้ง แม้ผู้อำนวยการ ครู อาจารย์จะมีการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการร่วมพูดคุย แนะนำ และทำความเข้าใจ ส่วนตัวเชื่อว่าเยาวชนที่ก่อเหตุไม่ได้มีพื้นฐานจิตใจชั่วร้าย แต่ทำไปเพราะเป็นธรรมเนียมจากรุ่นพี่ สู่รุ่นน้อง การแก้ไขปัญหาจึงต้องเริ่มที่ต้นเหตุและไม่อยากให้เยาวชนหมดอนาคต เพราะนักศึกษาอาชีวะ คือเป็นเยาวชนที่จะเป็นแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติให้ก้าวหน้า ทั้งนี้ พล.ต.ท. ศานิตย์ เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาเด็กนักเรียนนักศึกษาทะเลาะวิวาทได้ ไม่เฉพาะสถาบันอาชีวะศึกษาเท่านั้น แต่รวมไปถึงโรงเรียนมัธยม ซึ่งได้สั่งให้ผู้บังคับการในแต่ละพื้นที่ ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจต่อไป โดยแนวทางการแก้ไขปัญหา จะต้องมีการทำประวัติของรุ่นพี่ที่ศึกษาจบไปแล้ว แต่มีพฤติกรรมเข้าข่ายยุยงส่งเสริมให้มีการทะเลาะวิวาท ถ้าหากพบว่ามีการทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นรุ่นพี่ที่ถูกบันทึกประวัติไว้ จะต้องวางเงินประกัน 20,000 บาท และจะต้องเข้าไปอบรมกับทางเจ้าหน้าที่ทหารด้วย โดยในเดือนนี้ ตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ปกครอง ที่เข้าข่ายยุยงส่งเสริมให้เกิดการทะเลาะวิวาทไปแล้วหลายราย โดยมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้พล.ต.ท. ศานิตย์ ยังกล่าวถึงกรณีการปล้นบ้าน นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ที่อยู่ในเขตคลองสามวา กทม. โดยปล้นทรัพย์สินไปมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ขณะนี้กำลังตรวจสอบรายละเอียด และตรวจสอบลายนิ้วมือผู้ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องไปแล้วหลายราย แต่ยังไม่ตรงกับลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุ โดยกรณีนี้อาจจะเป็นการจ้างวานให้ก่อเหตุ และอาจมีการปล้นมานานแล้ว แต่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเพิ่งมาทราบ เพราะไม่ได้อยู่บ้านที่นี่ จึงได้มาแจ้งความเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา

..

ผสข.สมจิตร์ พูลสุข