*สรุปข่าว 19.35น*
+++การรณรงค์ให้ประชนออกไปใช้สิทธิ์ลงประชามติวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ของหน่วยทหารในพื้นที่ต่างๆพ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่จะสร้างความวุ่นวายในการทำประชามติ ซึ่งคสช.ดูแลทุกเรื่อง ทั้งอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติสามารถทำงานได้ ให้ประชาชนรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของตนเอง รวมถึงดูแลป้องกันไม่ให้มีการกระทำการใดๆที่จะส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดในการทำประชามติ โดยใช้วิธีการติดตามข้อมูลข่าวสาร และพฤติกรรมของทุกกลุ่ม หากประชาชนพบการเคลื่อนไหว หรือ สงสัยว่ากลุ่มบุคคลใดอาจจะก่อความวุ่นวาย ยุยงปลุกปั่น หรือ บิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้หลายช่องทาง ทั้งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ ศูนย์ดำรงธรรม
+++ในส่วนของกรุงเทพมหานคร นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้จัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง กำหนดหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะมีการปรับเปลี่ยนเป็นบางจุดเพื่อให้เกิดความเหมาะสมซึ่งจะอยู่ไม่ไกลจากสถานที่เลือกตั้งเดิม โดยกรุงเทพมหานครมีผู้มีสิทธิจำนวนทั้งสิ้น 4,483,075 คน จัดหน่วยออกเสียงทั้งหมด 6,745 หน่วย แบ่งเป็นหน่วยที่เป็นอาคาร 3,244 หน่วยและหน่วยที่เป็นเต็นท์ 3,501 หน่วย ซึ่งในแต่ละหน่วยจะมีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประมาณ 800 คน ขณะนี้ได้ทยอยติดประกาศผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งในเขตและนอกเขตจังหวัดที่สำนักงานเขตทุกแห่งทั้ง 50 เขตพื้นที่ของกรุงเทพมหานครแล้ว ประชาชนสามารถไปตรวจสอบรายชื่อของตนเองได้ หรือตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หากพบว่ามีรายละเอียดที่ไม่ถูกต้องสามารถแจ้งเพิ่ม-ถอนชื่อได้ถึงวันที่ 27 ก.ค.นี้
+++กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมจัดให้มีการดีเบตร่างรัฐธรรมนูญ ผ่านสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า ล่าสุด กรธ.ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญให้เข้าร่วม โดยวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ จะมีการประชุมกรธ.หลังจากผ่านช่วงวันหยุดยาว หากได้รับหนังสือเชิญก็จะหยิบยกเข้าหารือในที่ประชุมวันดังกล่าว ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า หากเวทีถกแถลงร่างรัฐธรรรมนูญ เป็นลักษณะแลกเปลี่ยนความเห็นกันแบบนี้รับได้ไม่มีปัญหา อีกทั้งพิธีกรต้องมีความเป็นกลาง แต่ถ้าต้องขึ้นโพเดี่ยมแลกหมัดกันอย่างเอาเป็นเอาตายคงไม่เหมาะ ส่วนกรธ.มีความมั่นใจหรือไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติ เพราะเริ่มมีการพูดถึงทางออกหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน นายอมร ยอมรับว่า จนถึงเวลานี้มีความเป็นไปได้ทั้งสองทาง คือผ่านกับไม่ผ่าน แม้ผลสำรวจความคิดเห็นจะออกมาว่าประชาชนจะรับมากกว่าไม่รับ แต่ประชาชนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะลงประชามติในแนวทางใดยังมีอีกถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากทำให้คาดเดายากว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
+++กรณีฉีกบัญชีรายชื่อ ที่จ.กำแพงเพชร พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า เบื้องต้น จากการสืบสวนพบว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงประชามติที่ฉีกขาด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง เกิดจากความซุกซนของเด็กหญิง 2 คนอายุเพียง 8 ขวบไปวิ่งเล่นกันที่บริเวณกระดานติดรายชื่อ จากรูปคดีได้ทำการสืบสวนอย่างครบถ้วนแล้วพบว่าเด็กไม่ทราบว่ามีความสำคัญอย่างไร ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานบุคคลทั้งผู้ใหญ่และเด็ก พยานวัตถุ ภาพจากกล้องวงจรปิด และจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบผลของคดีนี้ต่อไป โดยผู้กระทำความผิดยังเป็นเด็กที่ก่อเหตุโดยไม่มีความเจตนาและอายุยังไม่ถึง 10 ขวบตามที่ก็หมายกำหนด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีไปตามกฎหมายแม้จะมีความผิดแต่เด็กก็ไม่ต้องรับโทษตามที่กฎหมายกำหนด
+++นายประลอง ดำรงค์ไทย รองอธิบดีกรมป่าไม้ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมป่าไม้ ได้ชี้แจงกรณีที่มีข่าวตามสื่อโซเชียลระบุว่า จะมีการตัดไม้สักบริเวณเหนือเขื่อนแม่กวง จ.เชียงใหม่ ( บริเวณถ้ำหินย้อยเป็นโครงการพระราชดำริ เพื่อจะไปประกอบการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ โดยอ้างเป็นคำสั่งผู้ใหญ่ลงมา ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. มีโทรศัพท์สายตรงมายัง พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า ขอให้ยุติการตัดไม้สักเพื่อมาสร้างรัฐสภา และหาวิธีการฟื้นฟูและร่วมกับชุมชนในการอนุรักษ์ป่าไม้ในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อนำกลับมาเป็นพื้นที่ป่าสงวนฯ ตามนโยบายเพิ่มพื้นที่ป่าของรัฐบาลเพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับประเทศชาติ โดยกรมป่าไม้มีคำสั่งให้หยุดการใช้ไม้ในพื้นที่แล้ว ส่วนจะหาไม้มาจากไหนนั้น เป็นหน้าที่ของผู้รับเหมา ซึ่งจะสั่งซื้อมาจากต่างประเทศ หรือจะสั่งซื้อกับ อ.อ.ป.ก็ได้ขึ้นอยู่กับการตกลงในอนาคต
+++มีการเปิดรับบริจาคเงินจำนวน 10 ล้านเพื่อซื้อที่ดินด้านข้างพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก เขตบางรัก กรุงเทพ ฯ ซึ่งมีราคาเต็ม 40 ล้านบาท โดย ร.ศ. วราพร สุรวดี ประธานกรรมการมูลนิธิอินสาท-สอาง วัย 80 ปี นำเงินส่วนตัวมัดจำแล้ว 30 ล้านบาท มีกำหนดชำระส่วนที่เหลือ 10 ล้านบาทภายใน 2 กันยายนนี้ หลังจากพื้นที่ด้านข้างพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ ได้ถูกขายต่อจากเจ้าของเดิม ซึ่งเจ้าของใหม่กำลังเริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารสูง 8 ชั้น โดยได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ก่อนหน้านี้ ร.ศ. วราพร เห็นว่าหากตึกดังกล่าวสร้างแล้วเสร็จ จะบดบังทัศนัยภาพของพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวลงอย่างสิ้นเชิง รวมถึงห่วงว่าจะส่งผลกับโครงสร้างของอาคารพิพิธภัณฑ์ซึ่งมีหลายหลัง อีกทั้งเป็นอาคารอนุรักษ์อีกด้วย จึงตัดสินใจทำจดหมายถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อร้องขอให้ซื้อที่ดินดังกล่าว แต่ไม่เป็นผล ร.ศ.วราพรจึงเจรจากับเจ้าของที่ดินใหม่ เพื่อขอซื้อด้วยตนเอง โดยนำเงินส่วนตัวจ่ายไป 30 ล้านบาท คงเหลืออีก 10 ล้านบาทซึ่งต้องขอระดมทุนจากประชาชนทั่วไป ร.ศ. สุรวดี จึงเปิดรับบริจาค รายละ 100 บาท หรือตามกำลังความสามารถ
+++กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ได้ออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์โจมตีบนรถไฟในเยอรมนี ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย
เหตุการณ์โจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่นของเยอรมนี เมื่อผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันวัย 17 ปี ได้ใช้มีดและขวานทำร้ายผู้โดยสารบนรถไฟ ในเมืองวูร์ซเบิร์ก ก่อนที่คนร้ายจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต แถลงการณ์ของกลุ่มไอเอสระบุว่า ผู้ก่อเหตุเป็นสมาชิกของกลุ่ม และทำการโจมตีดังกล่าวตามคำเรียกร้องของทางกลุ่มที่ได้ขอให้เหล่าสมาชิกโจมตีประเทศที่เป็นพันธมิตรของกลุ่มต่อต้านไอเอส ก่อนหน้าที่ทางกลุ่มไอเอสจะออกมาอ้างตัวนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเยอรมนีได้เปิดเผยว่า พบธงของกลุ่มไอเอสในห้องโดยสารของผู้ก่อเหตุ
+++มติคณะผู้พิพากษาศาลสูงฟิลิปปินส์ 11 ต่อ 4 เสียง ยกฟ้องนางกลอเรีย อาร์โรโย อดีตประธานาธิบดี วัย 69 ปี ข้อหายักยอกเงินหลวง 366 ล้านเปโซ (ประมาณ 273 ล้านบาท) จากกองทุนการกุศลของสำนักงานสลากฯ เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ พร้อมสั่งปล่อยตัวนางอาร์โรโยทันที หลังถูกกักบริเวณในโรงพยาบาลนานถึง 5 ปี อดีตประธานาธิบดีอาร์โรโย ครบวาระดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 เมื่อปี 2553 แต่หลังจากนั้น 1 ปี ได้ถูกจับกุมข้อหาโกงการเลือกตั้งและยักยอกเงิน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต เคยเสนอให้นิรโทษกรรม แต่นางอาร์โรโยปฏิเสธ ยืนยันต่อสู้คดีในชั้นศาล
+++สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นในหลายท้องที่ของรัฐคุชราตทางภาคตะวันตกของประเทศ หลังมีกระแสข่าวว่า ชาย 7 คนจากวรรณะจัณฑาล ชนชั้นที่มีวรรณะต่ำสุดของอินเดียพยายามจะกินยาพิษฆ่าตัวตาย ประท้วงกรณีมีคลิปวีดีโอที่มีการเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตแสดงให้เห็นว่าชายชาวจัณฑาล 4 คน ซึ่งทำอาชีพย้อมผ้าในชุมชนของพวกเขาถูกรุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัสเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยผู้ก่อเหตุทำร้ายคือกลุ่มชายฉกรรจ์ชาวฮินดู 8 คนที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มผู้ปกป้องวัว เหตุเกิดขณะที่กลุ่มผู้ถูกทำร้ายพยายามจะแล่เนื้อวัวที่ตายแล้วตัวหนึ่ง สำหรับชาวฮินดูส่วนใหญ่บูชาสักการะวัวในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมีกฎระเบียบเรื่องการฆ่าวัวในหลายรัฐของอินเดีย ตำรวจกล่าวว่าคนที่ปรากฏในคลิปทั้ง 8 คนขณะนี้ถูกจับกุมเพื่อสอบสวนต่อไป
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ค่าดัชนีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนในช่วงก่อนหน้านี้ ปิดตลาดลดลง 129.98 จุด หรือ 0.60% ปิดวันนี้ที่ 21,673.20 จุด
ชาวเกาะคานารี สเปน ร่วมประท้วงปัญหาการท่องเที่ยวเชิงปริมาณ
...
รัสเซียยึดเรือบรรทุกน้ำมันกรีกหลังออกจากท่าเรือเอสโตเนีย
...
เอฟบีไอเผยเหตุระเบิดที่คลินิกในปาล์มสปริงส์ เป็นก่อการร้าย
...
ข่าวทั้งหมด
