นายกฯย้ำดูแลคนไทยในตุรกี ปท.อาเซียนดูแลปัญหาทะเลจีนใต้ได้

หลังกลับจากประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป หรือ อาเซ็ม ครั้งที่ 11 ที่ประเทศมองโกเลีย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุมได้มีการแสดงความยินดีกับการครบรอบ 20 ปี การประชุมอาเซ็ม นอกจากนี้ที่ประชุมยังพูดถึงการดำเนินการ เพื่อสร้างความเจริญเติบโตของอาเซ็ม ที่จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 21 ที่จะต้องดำเนินต่อไปในอนาคต พร้อมทั้งหารือถึงการหามาตรการป้องกันภัยจากการก่อการร้าย ภัยทางเทคโนโลยี ประเด็นความขัดแย้งต่างๆ และปัญหาการค้ามนุษย์ การทำประมงผิดกฎหมาย หรือ ไอยู ตลอดจนปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ขณะเดียวกันตนเองได้มีโอกาสชี้แจงถึงสถานการณ์ในประเทศไทยที่ขณะนี้ยังมีความเสถียรภาพ และกำลังจะมีการทำประชามติ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะพิจารณาให้ผ่านหรือไม่ผ่าน ขั้นตอนดังกล่าวเป็นขั้นแรกของการนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตย โดยหลายประเทศก็ได้แสดงความเป็นห่วง และให้กำลังใจ ให้การดำเนินการครั้งนี้สำเร็จ
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในระหว่างการประชุมได้มีรายงานของสถานการณ์ในประเทศไทยตลอดเวลาให้ตนเองได้รับทราบ จึงถามกลับไปว่า แท้จริงแล้วนักการเมืองต้องการอะไร ไม่ใช่นำข้อมูลมาบิดเบือนจนประชาชนเข้าใจผิด และการประชุมครั้งนี้ เจ้าภาพได้มอบม้า สายพันธุ์มองโกเลียแก่ผู้นำประเทศที่เข้าร่วมประชุม โดยนายนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ม้าดังกล่าวตนเองได้ตั้งชื่อว่า มูน ซึ่งมีความหมายตรงกับนามสกุลของตนเอง แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถนำม้ากลับมาในประเทศไทยได้ แต่หากนำกลับมาได้ก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะม้าเป็นสายพันธุ์ดี สามารถนำมาเพาะพันธุ์ได้

ส่วนกรณีการพยายามทำรัฐประหารในประเทศตุรกีนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทราบถึงสถานการณ์ พร้อมทั้งได้แสดงความเสียใจถึงผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องภายในของประเทศตุรกี จึงได้แต่ให้กำลังใจเท่านั้น ส่วนคนที่อาศัยอยู่ในตุรกี ได้ให้สถานทูตไทยในตุรกีดูแลแล้ว และยังไม่จำเป็นต้องอพยพคนไทยกลับประเทศ แต่หากบุคคลใดมีความประสงค์ที่จะกลับ ทางการไทยก็พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา

ส่วนในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนนั้น จะมีการพูดคุยในเรื่องคำตัดสินของศาลโลก ในประเด็นทะเลจีนใต้หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัญหานี้เป็นเรื่องของบางประเทศที่ยังมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งก็ได้รับยืนยันว่าจะมีวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา อะไรที่ทำให้เกิดความร่วมมือกันได้ก็ต้องดำเนินการก่อน พร้อมขออย่าเปรียบประเทศอาเซียนกับประเทศตะวันตก เนื่องจากในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน