มท.1ส่งไม้ต่อปลัดกระทรวงมหาดไทย แจ้งความเอาผิดกรณีไฟประดับกทม.

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกครั้งถึงการดำเนินการตามมติคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ที่ให้ตรวจสอบโครงการอุโมงค์ไฟส่งเสริมการท่องเที่ยงของกทม. ช่วงต้นปี 2559 โดยใช้งบประมาณ 39 ล้านบาทว่า ในส่วนที่สตง. มีมติให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น ได้มอบหมายให้นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปดำเนินการตามที่เสนอมาแล้ว  ซึ่งยังไม่ได้ติดตามเรื่องว่านายกฤษฎาดำเนินการแจ้งความแล้วหรือไม่ เมื่อถามว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีวาระดำรงตำแหน่งอีกไม่กี่เดือน ต้องกำหนดระยะเวลาดำเนินการหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เรื่องวาระการดำรงตำแหน่งของผู้ว่าฯกทม.ไม่น่าจะมีผลต่อการดำเนินคดี เพราะตามข้อกฎหมายคงมีผลผูกพันต่อไป หากเรื่องไปถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็จะมีผลผูกพันทางกฎหมายต่อไป แม้ว่าจะเกษียณไปแล้วหรือไม่ก็ตาม

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการใช้งบประมานที่ไม่โปร่งใสของกทม.ว่า  ทุกอย่างมีขั้นตอนอยู่แล้ว ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของกระทรวงมหาดไทย ยังไม่จำเป็นต้องให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) แต่หากมีข้อมูลก็จะเข้ากระบวนการ ซึ่งยังไม่ใช้มาตรา 44  ในการปลด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.แต่อย่างใด  

สำหรับการปรับปรุง รถโดยสารสาธารณะ นายกรัฐมนตรี  กล่าวอีกว่าขณะนี้ รัฐบาลกำลังปรับปรุงรถโดยสารสาธารณะที่มีในระบบกว่า 4 พันคัน โดยจะนำรถเก่ามาปรับสภาพใหม่ พร้อมติดตั้งระบบจีพีเอส และกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัย รวมถึงการซื้อรถเมล์ NGV ตามแผนงานเดิม ชดเชยรถที่เก่ามากๆ การนำรถไฟฟ้า เอามาทดลองใช้ และระบบไฮบริด ที่จะเป็นทางเลือกใหม่ที่ดี ซึ่งในอนาคตหวังจะพัฒนาให้ประชาชนได้ใช้ระบบขนส่งมวลชนทั้งหมดโดยใช้บัตรอิเล็กทรอนิคเพียงใบเดียว ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดิน

แฟ้มภาพ