*ปิดซ่อมบำรุง แหล่งก๊าซธรรมชาติ ไทย-มาเลเซีย เป็นวันแรก กฟผ.-มาเลเซียส่งไฟฟ้าเพิ่ม แต่ขอความร่วมมือประหยัดไฟ*

13 มิถุนายน 2557, 09:44น.


วันนี้เป็นวันแรกที่แหล่งก๊าซธรรมชาติพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย หรือเจดีเอ ปิดซ่อมบำรุงเป็นเวลา 28 วันจนถึงวันที่ 10 กรกฎาคมนี้  ด้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยขอความร่วมมือประชาชน และอุตสาหกรรมช่วยกันประหยัดไฟฟ้า โดยเฉพาะในช่วงเวลา 18.30 น.-22.30 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด เพื่อให้มีไฟฟ้าใช้เพียงพอและต่อเนื่อง



พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะ หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า จากการติดตามแผนรับมือเจดีเอ กฟผ.สามารถส่งกระแสไฟฟ้าเพิ่มจากเดิม 500 เมกะวัตต์ เป็น 950 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้ามาเลเซีย (Tenaga Nasional Berhad : TNB) ส่งสัญญาณที่จะให้ความช่วยเหลือประเทศไทยที่จะป้อนไฟฟ้าเพิ่มเติมเข้าสู่ในช่วงระยะเวลาที่มีการปิดซ่อมดังกล่าว โดยเฉพาะช่วงเวลา 18.30-22.30 น. ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่มีความต้องการไฟฟ้าสูงสุด (พีค) โดยคาดพีคจะอยู่ที่ประมาณ 2,543 เมกกะวัตต์ ขณะที่เมื่อเจดีเอปิดซ่อมจะส่งผลทำให้โรงไฟฟ้าจะนะหยุดผลิต 710 เมกะวัตต์ กำลังผลิตในภาคใต้จะอยู่ที่ประมาณ 1,600 เมกะวัตต์ ดังนั้น จึงต้องส่งไฟฟ้าจากภาคกลางและรับจากมาเลเซียเพิ่มเติม



ในส่วนของการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ ล่าสุดเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎ์ธานี สามารถผลิตได้เพิ่มอีก 15 เมกะวัตต์ จากเดิม 225 เมกะวัตต์ เป็น 240 เมกกะวัตต์



ก่อนหน้านี้   นายวิถี สุพิทักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ได้กำชับกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในภาคใต้ให้ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในช่วง 18.30-22.30 น. ที่เป็นช่วงใช้ไฟฟ้ามากที่สุด เพื่อรับมือการปิดซ่อมเจดีเอ แต่มีโรงงานบางอุตสาหกรรมที่ไม่สามารถหยุดเครื่องจักรได้ และหากไฟฟ้าดับ จะได้รับความเสียหาย เช่น โรงอบไม้ถ้าหากไฟฟ้าดับไม้ที่อยู่จะได้รับความเสียหาย รวมทั้งยังมีอุตสาหกรรมห้องเย็นที่จำเป็นต้องเปิดเครื่องห้องเย็นทำงานตลอดเวลา และโรงงานยางบางส่วนที่ต้องเปิดเครื่องจักรกวนน้ำยางตลอดเวลา 

ข่าวทั้งหมด

X