*เร่งหาต้นตอข่าวลือกวาดล้างแรงงานเขมร/ล้มโครงการบริหารจัดการน้ำ3.5แสนลบ./เสียงข้างน้อยกสทช.แจงค้านจ่ายเงินRSแลกดูบอลโลก*

*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.

+++สารพัดข่าวลือผสมโรง คสช.กวาดจับ แรงงานต่างด้าว  แรงงานที่เดินทางกลับประเทศกัมพูชาเป็นกลุ่มที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางาน เมื่อมีข่าวว่าทหารจะจับ คนกลุ่มนี้จึงพากันกลับไปเพราะกลัว ยอมรับว่า การเดินทางกลับประเทศของแรงงานชาวกัมพูชาอาจกระทบต่อภาคธุรกิจในเรื่องการขาดแคลน ปัจจุบันมีแรงงานชาวกัมพูชาขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางานจำนวน 441,569 คน รัฐบาลกัมพูชาเรียกให้แรงงานกัมพูชาในไทยเดินทางกลับประเทศภายใน 3 วัน โดยบอกว่าไทยจะปิดด่านไม่ให้เข้าออกประเทศ ทำให้มีการทยอยเดินทางกลับเป็นจำนวนมาก

+++ข่าวดังกล่าวไปประจวบเหมาะกับเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศตั้งคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว (กนร.) นอกจากข่าวลือเรื่องนี้ ยังมีข่าวลือการสังหารแรงงานชาวกัมพูชาตามแนวชายแดนด้วย ทำให้ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เชื่อว่าองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) ตามแนวชายแดนตั้งใจปล่อยข่าวลือเพื่อสร้างความตื่นกลัวให้กับแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน และสร้างภาพลักษณ์น่าเกรงขามให้กับทหารไทยหลัง คสช.เข้าควบคุมการบริหารประเทศ

+++พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว กล่าวตลอด 1 สัปดาห์ โดยมียอดชาวกัมพูชาเดินทางกลับภูมิลำเนาถึง 35,000 คน

+++นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เตรียมเสนอให้มีการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวที่ยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์สัญชาติสามารถอยู่ในไทยได้อีก 1 ปี เนื่องจากใบอนุญาตการทำงานจะครบกำหนดในวันที่ 11 ส.ค.นี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับนโยบายของ คสช.เรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน  นอกจากนี้ การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะงานก่อสร้างที่มีการเคลื่อนย้ายงานไปตามที่ต่างๆ นายจ้างที่จะพาแรงงานออกนอกจังหวัดที่ได้รับอนุญาตต้องยื่นเรื่องขออนุญาตเคลื่อนย้ายแรงงานกับกรมการจัดหางาน แต่มีค่าธรรมเนียมครั้งละ 1,000 บาทต่อการเคลื่อนย้ายแรงงาน ซึ่งนายจ้างมองว่าเป็นการเพิ่มภาระ เพราะลักษณะของงานไม่ได้อยู่เพียงจังหวัดเดียว

+++อนุมัติ3 ล้านล้านบาท สำหรับ แผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของ ประเทศ นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนยุทธ ศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของ ประเทศ วงเงิน 3 ล้านล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างปี 2558-2565 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ แต่ขอให้ตัดโครงการรถไฟความเร็วสูงออกจากแผนไปก่อน เนื่องจากที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ใช่โครงการจำเป็นเร่งด่วน

+++ มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมกลับไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาแหล่งเงินทุนที่จะนำไปใช้ในการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า และนำกลับมาเสนออีกครั้งก่อนวันที่ 19 มิ.ย.นี้ ซึ่งแผนการใช้เงินต้องมีการระบุรายละเอียดการใช้เงินแต่ละปีชัดเจน

+++สำหรับโครงการที่นำเสนอส่วนใหญ่เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นด้านคมนาคมขนส่ง เช่น รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้า 10 สาย การปรับปรุงทางหลวงแผ่นดินของกรมทางหลวง (ทล.) ถนนลาดยางของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) และการก่อสร้างท่าเทียบเรือและการขุดลอกร่องน้ำ

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมการบริหารจัดการน้ำของ คสช. โดยมี ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำ 36 หน่วย พร้อมยกเลิกโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน เน้นการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม และทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงทรัพยากรน้ำได้อย่างเท่าเทียมกัน และต้องคำนึงถึงน้ำต้นทุน การจัดเก็บ ระบบส่งน้ำ การระบายน้ำ การพร่องน้ำ โดยให้น้อมนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานไว้ให้ ต้องไม่เป็นภาระกับประเทศในอนาคต มีการตรวจสอบโดยคณะกรรมการ ที่สำคัญ ประชาชนมีความพึงพอใจ และสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้อย่างแท้จริง 

+++09.30 น. พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา สบ10, พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ฯ ผช.ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.อดุลย์ฯ รอง ผบช.น. พร้อมหน่วยที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมและแถลงผลการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ กทม. ที่ห้องประชุมชั้น 4 กองบังคับการตำรวจจราจร ถ.วิภาวดีฯ

+++เวลา 13.00 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ครั้งที่1 อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องติดตามว่ากรรมการชุดนี้จะเปิดตัวเลขข้าวที่น่าสนใจแค่ไหน

+++นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในเดือนเม.ย.-พ.ค.เริ่มทรงตัว และไม่ลดลงเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งมีสัญญาณว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น แต่ภาคส่งออก ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญนั้น ยังไม่สามารถขยายตัวได้อย่างที่คาดหวังจากเศรษฐกิจโลกและคู่ค้าที่อ่อนแรง ทำให้คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี2557 ยังอยู่ในระดับไม่สูงนัก แต่จะไม่ปรับตัวลดลงอย่างที่เคยกังวล

+++ในช่วงค่ำวานนี้  นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้เปิดเผยเหตุผลคัดค้าน ต่อกรณีการสนับสนุนนำเงินจาก กองทุนวิจัยฯ ตามที่คณะกรรมการบริการกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ(กทปส.) ได้เสนอให้พิจารณากรอบวงเงิน 427 ล้านบาท(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อให้แก่ บริษัทอาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมแนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ ถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2014 เพื่อดำเนินการให้ประชาชนคนไทย รวมถึงคนพิการ ผู้รายได้น้อย คนด้อยโอกาส สามารถรับชมการแข่งขันบอลโลกรอบสุดท้าย รวม 64 นัด เนื่องจาก ความกังวลต่อความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ของกองทุนวิจัยฯ ตามเจตนารมณ์ของพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 รวมทั้งการพิจารณาครั้งนี้เป็นกระบวนการพิจารณาอย่างกะทันหัน ในระยะเวลาที่กระชั้นชิด โดยที่ยังไม่ได้มีการการประเมินผลกระทบอย่างรอบคอบรอบด้าน

++++เงินกองทุนเป็นเงินสาธารณะ ไม่ใช่เงินส่วนตัวเหมือนเงินในตู้เอทีเอ็มที่เราจะกดใช้เมื่อไหร่ก็ได้ มันจะต้องมีธรรมมาภิบาลความโปร่งใส  ส่วนในวันนี้  เวลา 14.30 ณ ชั้น 22 ตึกเอ็กซิมแบงก์ คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ ได้มีมติ เชิญตัวแทน อาร์เอส PSI และทรูวิชั่นส์   มาร่วมหาแนวทางเยียวยาผู้บริโภคที่ซื้อสิทธิไป ส่วนอาร์เอส นัดแถลงเยียวยาคนซื้อกล่อง 13.00 น.

+++นายบัวลำ โง๊ะบุดดา ผอ.โรงเรียนบ้านวังน้ำขาวชนูปถัมภ์ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ขับรถยนต์นเด็กนักเรียนโรงเรียนหนองบัวพิทยาคาร เสียชีวิต 4 ราย ยืนยันว่าไม่ได้ดื่มสุราหรือของมึนเมาแต่อย่างใดและไม่มีความเครียดตามที่เป็นข่าว  ด้าน ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเท่า รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฝ่ายพยาบาล โรงพยาบาลศรีนครินทร์ กล่าวว่า นายบัวลำได้เข้ามาทำการรักษาโรคลมชักเมื่อปี พ.ศ. 2541 เนื่องจากมีอาการชักเกร็ง คนไข้เข้ามารักษาครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่เนื่องจากยังมีอาการชักถึง 3 ครั้ง แพทย์ก็ได้เพิ่มยาให้อาการดีขึ้น และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการขับรถยนต์ไม่ควรที่จะขับรถยนต์ซึ่งคนไข้ก็ได้บอกว่าไม่ได้ขับรถเองมีคนขับรถให้ สำหรับผู้ที่มีอาการของโรคนี้คนไข้ทุกคนไม่สามารถควบคุมตนเองได้ฉะนั้นควรห้ามขับรถ

+++ขณะที่ นพ.ณรงค์  สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณ สุข เตรียมเสนอกรมการขนส่งทางบกในการพิจารณาเข้มงวดในการออกใบอนุญาตขับขี่รถแก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว 3 โรค ได้แก่ ลมชัก อัลไซเมอร์ และจิตเภท หากผู้ที่ป่วยในโรคดังกล่าวต้องได้รับการยืนยันจากแพทย์และมีใบรับรองว่าสามารถควบคุมโรคได้ดีและได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์และกินยาอย่างสม่ำเสมอจึงจะสามารถออกใบขับขี่ให้ได้

+++นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ในวันที่ 17 มิ.ย. เตรียมหารือกับทางแพทยสภา เพื่อนำข้อเสนอของแพทยสภามาร่วมพิจารณาในการยกร่างแก้ไขข้อบังคับใบรับรองมาตรฐานสุขภาพ (ใบรับรองแพทย์)ในการทำใบขับขี่รถยนต์ ปัจจุบันกฎหมายกำหนดโรคต้องห้ามในการขับขี่รถยนต์เพียง 5 โรค คือไม่เป็นโรคติดต่อเป็นที่รังเกียจ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไม่ติดสุรา ยาเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทซึ่งถือว่าไม่เพียงพอและไม่เกี่ยวข้องกับการขับรถและไม่สามารถป้องกันภัยในการขับรถ

+++แต่ข้อบังคับใหม่ที่แพทยสภาเสนอจะเป็นโรคที่เป็นอุปสรรค ต่อการขับรถโดยตรง ประกอบด้วย โรคระบบ ประสาท เช่น โรคลมชัก โรคกล้ามเนื้อลีบ อ่อนแรง ทั้งมือ เท้า ความพิการ โรคระบบการมองเห็น เช่นโรคตาบอดสี มองเห็นด้วยตาเพียงข้างเดียว โรคระบบการได้ยิน โรคหัวใจและโรคเรื้อรังอื่น ๆ ประวัติการผ่าตัดซึ่งแพทยสภาได้จัดทำแบบฟอร์มใบรับรองแพทย์ให้เพื่อให้แพทย์ตรวจตามที่กำหนด

+++หลังศาลพิพากษาจำคุก ยู่ยี่ เกวสต้า รามอส อายุ 41 ปี หรือยู่ยี่-อลิสา อินทุสมิต   ทั้งสิ้น 15 ปี 3 เดือน และปรับ 1.5 ล้านบาท แต่ต่อมา  ศาลได้พิเคราะห์ คำร้องขอปล่อยชั่วคราวนางชัชชญาหรือ “ยู่ยี่” อดีตนางแบบสาว พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 2 ล้านบาทแล้ว เห็นควรส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาเพื่อมีคำสั่งสั่งประกันต่อไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้นำตัวอดีตนางแบบสาวขึ้นรถเรือนจำ ไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง บางเขน