นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึง แนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณดีขึ้น แต่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ ( จีดีพี) จะโตไม่สูงมาก แต่จะไม่ปรับตัวลดลงมากกว่านี้ เนื่องจากเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจล่าสุดมีทิศทางทรงตัวและดีขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนจะยังไม่กลับมาเป็นปกติ เพราะภาระหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ส่วนภาคการคลัง สามารถขับเคลื่อนได้แล้วจากการจัดทำงบประมาณปี 2558 ที่คาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ทันวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งเร็วกว่าคาด แต่ผลต่อภาคเศรษฐกิจจะเต็มที่ในปี 2558 เช่นเดียวกับภาคการลงทุนที่เอกชนยังรอความชัดเจนจากการเดินหน้าทำโรดแมพของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะทำให้กลับมาฟื้นตัวเต็มที่ในปีหน้า
ส่วนการส่งออกปีนี้ แม้จะไม่ใช่เป็นตัวหลักของเศรษฐกิจปีนี้ แต่ยังขยายตัวได้โดยต้องติดตามตัวเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าที่จะฟื้นตัวเต็มที่ในปีหน้า คาดว่า การส่งออกจะกลับมาเป็นตัวขับเคลื่อนหลักอีกครั้ง ซึ่งจากปัจจัยทั้งหมดที่เปลี่ยนแปลงทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ต้องพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ จากเดิมมองว่าจีดีพีปีนี้โตต่ำกว่าร้อยละ 2.7 ควบคู่การพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายด้วย โดยยืนยันอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 2 เหมาะสมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และอยู่ในระดับที่ต่ำแล้ว ผู้ว่าการธปท.ย้ำว่า การจัดทำนโยบายด้านเศรษฐกิจมีความสำคัญโดยนโยบายที่ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต้องเป็นนโยบายที่สมเหตุสมผล เพราะที่ผ่านมีนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่สมเหตุสมผล เช่น นโยบายรับจำนำข้าวที่สูงเกินกว่าราคาตลาด และโครงการรถยนต์คันแรกที่บิดเบือนกลไกตลาด การทบทวนราคาพลังงานให้มีความเหมาะสม