รง.ในคุมาโมโตะระงับการผลิต/เอกวาดอร์เสียชีวิตกว่า350แล้ว/ศาลจีนมีอำนาจสั่งประหารผตห.คดีสินบน*

19 เมษายน 2559, 06:21น.


แผ่นดินไหวที่เกาะคิวชูตั้งแต่สัปดาห์ก่อน มีการยืนยันผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 42 ศพ กับมีผู้บาดเจ็บสาหัสประมาณ 190 คน โดยยังมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นอีกมากกว่า 400 ครั้งในจังหวัดคุมาโมะโตะและส่วนอื่นๆ ของเกาะคิวชู นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหาย 9 คนที่หมู่บ้านมินามิเอโสะ จังหวัดคุมาโมะโตะ



ทั้งนี้ คุมาโมะโตะเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญและเป็นที่ตั้งสถานีปฏิบัติการพลังงานนิวเคลียร์เพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่น ผลจากแผ่นดินไหวทำให้โตโยต้าระงับการผลิตในโรงงานทั่วประเทศ ส่วนโซนี่ระงับการผลิตในโรงงานอุปกรณ์อิมเมจ เซนเซอร์ในคุมาโมะโตะ ขณะที่ฮอนด้าประกาศระงับการผลิตในโรงงานจักรยานยนต์ทางใต้ของญี่ปุ่นจนถึงวันศุกร์



แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ในพื้นที่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตอนกลางของเอกวาดอร์เมื่อบ่ายวันเสาร์ พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 350 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 2,527 คน โดยพื้นที่ที่เสียหายมากที่สุดอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ซึ่งรวมถึงเมืองเปเดอร์นาเลส ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว เสียหายทั้งเมืองพบผู้เสียชีวิตมากถึง 91 ศพ ประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรีย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว 6 จังหวัด



ส่วนที่อุรุกวัยมีพายุฝนและน้ำท่วมหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 ศพและอีกมากกว่า 2,000 คนต้องไปย้ายไปอยู่ในที่พักชั่วคราว ในเมืองโดโลเรสทางภาคตะวันตกของประเทศ



สภาผู้แทนราษฎรบราซิลเห็นชอบกระบวนการถอดถอนหรืออิมพีซเมนต์ ประธานาธิบดี ดิลมา รุสเซฟ ในคดีทุจริตด้วยคะแนน 367 ต่อ 137 เสียง ซึ่งมากกว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกสภาทั้งหมด 513 คน ซึ่งหลังจากนี้ คือการพิจารณาของวุฒิสภาที่ต้องการมติเห็นชอบ 2 ใน 3 เพื่อเริ่มกระบวนการพิจารณาคดี ภายใน 1 เดือน



ทั้งนี้ผู้นำบราซิลถูกกล่าวหาว่าตกแต่งตัวเลขในบัญชีรายจ่ายของรัฐบาล เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 เมื่อปี 2557 แต่ประธานาธิบดีอ้างว่าเป็นขั้นตอนปกติที่ทำกันในทุกรัฐบาล และไม่ได้ทำผิดกฎหมาย



หากวุฒิสภามีมติเสียงข้างมาก ประธานาธิบดีจะต้องพักงานเป็นเวลา 180 วัน โดยให้รองประธานาธิบดีทำหน้าที่รักษาการแทน และหากวุฒิสภามีมติ 2 ใน 3 หรือจำนวน 54 จาก 81 เสียง ประธานาธิบดีจะพ้นจากตำแหน่งและถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 8 ปี



นางอองซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐเมียนมาร์ เปิดเผยว่า รัฐบาลใหม่ที่นำโดยพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี จะเริ่มต้นสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ตั้งแต่เทศกาลปีใหม่ท้องถิ่นที่เพิ่งผ่านไป ซึ่งจะเน้นไปที่การสร้างความปรองดองในชาติและสันติสุขภายในประเทศ ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และรักษาระบบประชาธิปไตย



ไอเอชเอส บริษัทวิจัยของสหรัฐเผยรายได้ของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ลดลงราวร้อยละ 30 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีรายได้ราว 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่เคยมีรายได้ในช่วงกลางปีที่ผ่านมาเดือนละ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้การผลิตน้ำมันก็ลดลงเ จำนวนประชาชนที่อยู่ใต้การควบคุมของไอเอสก็ลดลง โดยรายได้ราวร้อยละ 50 ของกลุ่มไอเอสมาจากการเก็บภาษีและการริบทรัพย์ และอีกร้อยละ 43 มาจากการขายน้ำมัน



กระทรวงกลาโหมจีนเปิดเผยว่า เครื่องบินลำเลียงลงจอดที่เกาะเหนือแนวปะการังไฟรี ครอส ในหมู่เกาะสแปรตลี พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนระหว่างเวียดนามและฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ของจีน และเพื่อนำชาวจีนที่ป่วยไปรับการรักษา แต่ถือเป็นการลงจอดครั้งแรกของเครื่องบินกองทัพจีนในหมู่เกาะแห่งนี้



ศาลสูงและสำนักงานอัยการจีน ระบุว่าผู้ที่กระทำความผิดคดีรับสินบนหรือยักยอกในวงเงินตั้งแต่ 3 ล้านหยวน (ประมาณ 16 ล้านบาท) อาจถูกลงโทษขั้นสูงสุดคือประหารชีวิต หากการกระทำนั้นก่อผลกระทบทางสังคมร้ายแรง และก่อความสูญเสียอย่างมีนัยสำคัญต่อผลประโยชน์แห่งรัฐ และประชาชน โดยโทษประหารชีวิตยังเป็นทางเลือกหนึ่งของศาล เพื่อลงโทษผู้กระทำความผิดฐานทุจริต



ที่ฮ่องกง มีผู้ชุมนุมกว่า 1,000 คนที่สนามบินเช็กแลปก๊อก เพื่อประท้วงผู้นำเขตฮ่องกงที่ใช้อำนาจละเมิดกฎความปลอดภัยของสนามบิน โดยกลุ่มผู้ประท้วงเป็นนักบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่อง และกลุ่มนักเคลื่อนไหว ที่ไม่พอใจ กรณีที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อน ซึ่งลูกสาวอายุ 23 ปีของนายเหลียง เจิ้น-อิง หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตฮ่องกง ลืมกระเป๋าถือไว้นอกเขตหวงห้ามภายในสนามบิน นายเหลียงจึงโทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าที่ฝ่ายในของสนามบิน เพื่อให้ช่วยหากระเป๋า แล้วนำไปในให้ในเขตหวงห้าม ซึ่งนายเหลียงยอมรับว่าโทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าที่สนามบินจริง แต่ไม่ได้กดดันแต่อย่างใด แต่ผู้ประท้วง ระบุว่า เป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นภัยต่อความปลอดภัยด้านการบิน



หน่วยงานการค้าสิงคโปร์รายงานว่าการส่งออกในเดือนมีนาคมลดลงร้อยละ 15.6 เมื่อเดือนมีนาคมเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังเป็นสถิติลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี หรือนับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ซึ่งการส่งออกลดลงไปร้อยละ 30.6 โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนธนาคารกลางสิงคโปร์ประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สนับสนุนการส่งออก ในช่วงที่นักวิเคราะห์เตือนว่าเศรษฐกิจอาจถดถอย



..

ข่าวทั้งหมด

X