ทั้งนี้ประธานาธิบดียืนยันมาตลอดว่าไม่ได้กระทำความผิด ทั้งกล่าวหาว่ากลุ่มฝ่ายค้านพยายามโค่นอำนาจของนาง ซึ่งเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แต่กลุ่มฝ่ายค้านก็มีการรณรงค์มาเป็นเวลานาน เพื่อให้ได้เสียงมากกว่า 2ใน3 ของสภาหรือมากกว่า 342 เสียงจากทั้งหมด 513 เสียงเพื่อให้สามารถยื่นเรื่องต่อไปยังชั้นวุฒิสภา โดยในการอภิปราย แกนนำฝ่ายค้านเรียกร้องให้สมาชิกตัดสินใจว่า จะให้บราซิลเดินหน้าไปในทิศทางใด
ในชั้นการพิจารณาของวุฒิสภา ประธานาธิบดีจะต้องพักการทำงาน และให้รองประธานาธิบดีมิเชล เทเมอร์ ทำหน้าที่รักษาการแทนไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ในปี 2561 โดยในการลงมติ ก็จะใช้เสียง 2ใน3 หรือ 54เสียงจาก 81 เสียงลงมติว่าจะให้ประธานาธิบดีรุสเซฟฟ์พ้นจากตำแหน่งภายในเวลา 180 วันหรือ 6 เดือนหรือไม่
..