*เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาระบุคนไทยยังขาดความรู้ เรื่องการนำพันธุ์ไม้ปลูกทนแทน*

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับเครือข่ายสิ่งแวดล้อม และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย จัดสัมมนาวิชาการเรื่อง "ECO Forest ป่าอุดม..สังคมยั่งยืน" เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์การปลูกป่านิเวศในประเทศไทย โดยวันนี้มีผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ และนักปฏิบัติ มาร่วมให้ความรู้และแบ่งปันข้อมูล ทั้งตัวแทนจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ,มูลนิธิชัยพัฒนา ,บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน ,สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และบริษัท ผลิตไฟฟ้า ราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด มหาชน

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาได้ปาฐกถาพิเศษ เรื่องความสำคัญ ของ Eco Forest ต้นทุนธรรมชาติ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การทำลายป่าไม้ มีอัตราสูงถึงร้อยละ3 ต่อปี ขณะที่อัตราการปลูกป่าฟื้นฟูยังทำได้ไม่ทัน รวมถึงคนไทยยังขาดความรู้เรื่องการนำพันธุ์ไม้มาปลูกทดแทนได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด เช่น การนำต้นไม้สูงไปปลูกละสายไฟ การนำพันธุ์ไม้สวยงามไปปลูกประดับบนทางหลวง การนำไม้สักที่มีค่าไปปลูกเป็นแนวกันปะทะที่เกาะกลางถนน หรือแม้แต่การนำพันธุ์ไม้ไปปลูกป่าทดแทนบางครั้งก็ไม่ได้มีการคิดให้รอบคอบว่าสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นได้ด้วยหรือไม่ ดังนั้นการสัมมนาในวันนี้ จะเป็นเวทีให้ฝ่ายวางโครงการ ฝ่ายวิชาการ และฝ่ายปฏิบัติ ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้กัน เพื่อนำไปพัฒนาผืนป่าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทำสำคัญในการเกิดภัยพิบัติธรรมชาติแต่ละครั้งทั้งแผ่นดินไหวและสึนามิ พื้นที่ที่ใกล้แนวป่าหรือต้นไม้ใหญ่มักจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ดังนั้นมนุษย์ควรรักษาสมดุลระหว่างความจำเป็นของการใช้ทรัพยากรป่าไม้ กับการปลูกต้นไม้ทดแทนให้เพียงพอและมีประสิทธิภาพ ตามหลักการหากต้องการฟื้นฟูธรรมชาติ ต้องเข้าใจธรรมชาติ 

ด้าน นายเอกชัย รัตนชัยวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ECO Forest หรือป่าเทียม เป็นแนวคิดของ ศ.ดร.อาคิระ มิยาวากิ ศาสตราจารย์เกียรติคุณแห่งมหาวิทยาลัยโยโกฮาม่า ซึ่งเป็นผู้พัฒนาผืนป่าทุกจังหวัดในประเทศญี่ปุ่น และได้ขยายรูปแบบมายังสถานศึกษาและหน่วยงานต่างๆในประเทศไทยตั้งแต่ปี2551 ใช้หลักการการปลูกป่าโดยศึกษาโครงสร้างของป่า เช่น เป็นป่าชายเลน หรือป่าบก จากนั้นใช้วิธีเพาะพันธุ์กล้า ก่อนนำไปปลูกบนเนินดินที่เตรียมไว้ เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุ ลดการตายของกล้าไม้ก่อนการเจริญเติบโตได้ถึงร้อยละ80