*ปธ.กรธ.รับมอบข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงร่างรธน.จากสนช.และกลุ่มอดีตสปช.*

การรับฟังข้อเสนอแนะต่อร่างรัฐธรรมนูญในวันสุดท้าย ยังคงมีการส่งข้อเสนอแนะต่อ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. อย่างต่อเนื่อง นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ได้ยื่นความเห็นประกอบการปรับแก้รัฐธรรมนูญของ สนช.ต่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ซึ่งความเห็นของสนช. เสนอแนะให้ปรับปรุงเนื้อหาเกี่ยวกับโครงสร้างทางการเมือง การปรับปรุงเรื่องสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และสิทธิมนุษยชนที่ยังขาดหายไปในร่างรัฐธรรมนูญ จึงควรปรับปรุงเพื่อให้รัฐธรรมนูญมีความเป็นสากลมากขึ้น

ด้านนายมีชัย กล่าวว่าขณะนี้ได้เริ่มประมวลความเห็นต่างๆที่เสนอมาแล้วตามรายมาตราซึ่งการปรับแก้จะต้องยึดสาระสำคัญของเนื้อหา แต่จะไม่ถึงขั้นต้องทำให้ กรธ. ร่างใหม่ เพราะเสมือนเป็นการฆ่าตัวตาย  ส่วนระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมที่จะมีการทบทวนการใช้บัตรใบเดียวหรือไม่ นายมีชัยระบุว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา และต้องดูว่าหากแก้แล้วจะต้องล้มร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญรอบที่ 2 นี้ จะไม่มีการบัญญัติเพิ่มองค์กรที่มีปัญหาอย่าง คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.)

ด้านความเห็นของสภาพัฒนาการเมืองแห่งชาติเกี่ยวกับการเพิ่มอำนาจให้ศาลรัฐธรรมนูญ นายมีชัยกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นความเห็นดังกล่าวซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากจะต้องดูว่าอำนาจเดิมในการตีความมาตรา 7 นั้นก็เป็นของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนความเห็นของพรรคการเมืองที่ส่งเข้ามานั้น ขณะนี้มีเพียงจากพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น

นอกจากนี้กลุ่มอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นำโดยนายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์ ได้ยื่นข้อเสนอปละความเห็นประกอบการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับเบื้องต้น ต่อนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกกรธ. โดยระบุว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้รัฐเป็นใหญ่ พื้นที่การตรวจสอบการทำงานของรัฐของประชาชนมีเพียงการลงคะแนนเลือกตั้ง อีกทั้งในร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 60 ที่ระบุว่ารัฐมีหน้าที่ดำเนินการเรื่องต่างๆ แต่หากรัฐไม่ดำเนินการ ประชาชนไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องรัฐ จึงควรให้พื้นที่ประชาชนมากกว่านี้   พร้อมแสดงความเป็นห่วงในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ไม่มีการรับรองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับอื่นมีการรับรองไว้ และกังวลการเปลี่ยนสิทธิของประชาชนเป็นหน้าที่ของรัฐก็ไม่เป็นการตอบโจทย์เพราะการกำหนดให้เป็นหน้าที่รัฐนั้นก็ไม่ก่อให้เกิดเป็นสิทธิของประชาชนและควรเพิ่มมาตรการในการป้องกันและปรายปรามการทุจริตให้ชัดเจน เช่นการให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแสดงบัญชีการยื่นภาษีย้อนหลัง 3 ปี