*รรท. ผบ.ตร.สั่งติดตาม ผู้ต้องหา คดีหมิ่นเบื้องสูง

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงการปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นสถาบันนั้น มีการตั้งคณะทำงานของตร.เป็นหนึ่งในชุดทำงาน มีหน่วยงานตรวจสอบการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีอยู่ และมีคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องนี้ เป็นความเร่งด่วนระดับสูงสุดของตร.ที่ต้องตรวจสอบผู้ที่ละเมิด หากพบว่ามีความผิดต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบตามขั้นตอนก่อนดำเนินการสั่งปิด อย่างตรงไปตรงมาและชัดเจน คนที่หนีคดีก็พยายามสืบสวนหาตัว กรณีนายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ มีข้อมูลว่าหลบหนีออกนอกประเทศ การติดตามจับกุมระหว่างประเทศมีการประสานอย่างต่อเนื่อง เป็นขั้นตอนที่เร่งดำเนินการอยู่แล้ว

ส่วนคสช.มีคำสั่งเข้มงวดเรื่องบ่อนการพนัน อบายมุข สลากกินรวบ หรือหวยใต้ดิน ทั่วประเทศว่า อะไรที่เป็นอบายมุข ผิดกฎหมายทั้งหมดก็ต้องเคร่งครัด ซึ่งเป็นนโยบายของตร.อยู่แล้ว ซึ่งมีหนังสือกำชับ มีมาตรการปฏิบัติกับผู้ที่ละเลยอยู่แล้ว กรณีล่าสุดการจับบ่อนพนันที่จ.ชลบุรี ก็ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงหากบกพร่องผู้รับผิดชอบต้องรับการพิจารณาโทษทัณฑ์ ทั้งนี้ยังไม่มีแนวคิดตั้งชุดเฉพาะกิจของตร.ลงไปปราบปรามจับกุม แต่ทั้งนี้หากท้องที่ละเลย ตร.ก็มีหน่วยตรวจสอบอยู่แล้ว ระบบของตร.มีการตรวจสอบ ถ่วงดุลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามงานพวกนี้ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ล่วงละเมิด ให้เวลาหามาตรการการดำเนินการอย่างรอบคอบ แต่หากละเลยไม่เอาใจใส่ มีหน่วยส่วนกลางหรือหน่วยอื่นไปจับกุมได้ จะพิจารณาข้อบกพร่องหัวหน้าสถานีและผู้รับผิดชอบอย่างเด็ดขาด

ส่วนโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับผู้บัญชาการและผู้กำกับการ จำนวน 16 นาย เป็นไปตามความเหมาะสม ไม่เกี่ยวข้องกับความใกล้ชิดของกลุ่มอำนาจ ยืนยันว่า ทุกคนไม่ได้มีความผิดหรือบกพร่องในหน้าที่ แต่เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาความสงบเรียบร้อยและการสร้างความสามัคคีในพื้นที่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการโยกย้ายครั้งนี้ ซึ่งไม่มีการหารือ หรือรับคำสั่งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่เป็นอำนาจการพิจารณาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยตรง