+++การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ กระทรวงการคลัง เสนอมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ให้พิจารณา คือ การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้ เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในระหว่างวันที่ 25-31 ธ.ค. 2558 จากผู้ประกอบกิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ไม่รวมถึงการซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ น้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ โดยผู้มีเงินได้ต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าหรือรับบริการเป็นใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร
+++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ใน 2-3 วันนี้จะมีมาตรการกระตุ้นการบริโภคออกมาเพิ่มเติม และปีหน้าจะมีการปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาลดลงจากที่เก็บสูงสุดร้อยละ 35 และเพิ่มการลดหย่อนให้มากขึ้น ผลจากมาตรการต่างๆ และการลงทุนที่ออกมา ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและขยายตัวต่อเนื่อง มั่นใจว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะดีกว่าปีนี้
+++นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่ระหว่างวันที่ 14-20 ธ.ค. จำนวน 1,200 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลปีใหม่สูงกว่า 1 แสน 25,014 ล้านบาท ซึ่งเป็นเม็ดเงินที่สูงสุดในรอบ 10 ปี ขยายตัวร้อยละ 6.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมูลค่าการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ประชาชน ร้อยละ 72.9 จะเดินทางท่องเที่ยว และอีกร้อยละ 26.9 เดินทางกลับบ้าน ส่วนใหญ่ยังคงท่องเที่ยวในประเทศ คิดเป็นเงินที่ใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวเฉลี่ย 12,332 บาทต่อคน
+++ของขวัญปีใหม่ ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบให้ และเปิดตัวแล้วเมื่อวานนี้ คือ เพลง เพราะเธอคือประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้เขียนเนื้อเพลงขึ้นมาเอง กองดุริยางค์ทหารบก เรียบเรียงเนื้อร้อง และขับร้องโดย จ.ส.ท.พงศธร พอจิต ที่เคยขับร้องเพลง คืนความสุขให้ประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว เป็นความตั้งใจของตัวเอง ปีละครั้งที่เขียนและเรียบเรียงออกมา ส่งให้คนไปเรียบเรียงเพิ่ม เพื่อความเพราะขึ้น ถือเป็นของขวัญส่วนตัวที่มอบให้ประชาชน
+++ติดตามการแถลงผลงานรัฐบาลครบรอบ 1 ปี ตั้งแต่เวลา 08.30น. นำโดยนายกรัฐมนตรี และการแถลงของรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 6 คน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การแถลงนโยบาย ต้องการสร้างความเข้าใจ ว่ารัฐบาลสร้างความเชื่อมโยอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มาเป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) จนมาเป็นรัฐบาล มี คณะรัฐมนตรี(ครม.) 2 คณะ และเวลาที่เหลืออยู่ประมาณ 1 ปี 6 เดือน จะทำอะไรต่อจากที่ได้ทำมาแล้วบ้างในระยะแรก ตรงนี้เป็นการปฏิรูประยะที่หนึ่ง ซึ่งจะต้องเกิดความชัดเจน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงผลงานรัฐบาลว่า เรื่องชอบมากที่สุดคือความมั่นคง สร้างความสงบเรียบร้อยให้สังคม ไม่ให้มีการประท้วง ทะเลาะเบาะแว้ง ไม่ใช้อาวุธ
+++ส่วนช่วงบ่าย มีการจัดนิทรรศการ เวลา 13.00 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เยี่ยมชมบูธนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานรัฐบาล รอบ 1 ปี ณ บริเวณเต็นท์จัดงาน (ถนนด้านนอกประตู 1-2 ) ทำเนียบรัฐบาล
+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องการสร้างการรับรู้ใหม่ ดูปัญหาเชิงโครงสร้าง รัฐบาลพยายามจะวางพื้นฐาน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เสนอให้จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ตอนแรกพรรคเพื่อไทยไม่เคยเสนอแบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ไม่เป็นนายกรัฐมนตรี ให้กับนักการเมืองที่ไหนทั้งสิ้น กลับไปเลี้ยงหลานดีกว่า หลานคนอื่น ลูกของน้องชายมีเยอะ เสียเวลาเปล่า ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมาให้ตัวเองมีอำนาจสั่ง
+++ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยังไม่มีการพูดคุยกัน และไม่มีแนวคิดดังกล่าว ขณะเดียวกันยังไม่ได้พูดคุยกับนายปรีชา ความเห็นที่ออกมาเป็นความเห็นส่วนตัว
+++การตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ จ. ประจวบคีรีขันธ์ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เชื่อมั่นว่า คณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงกลาโหม จะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น รวมทั้งเรื่องรอยร้าวที่นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.)นำข้อมูลพื้นคอนกรีตร้าวเสนอต่อ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขอให้รอผลจากคณะกรรมการ ไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย และรอฟังผลอยู่เหมือนกัน ผลสรุปจากคณะกรรมการตรวจสอบ ไม่มีผลต่อการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ยังมีความมั่นใจว่าสิ่งที่ทำมีความตั้งใจดี ขณะที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กำลังตรวจสอบอยู่ เป็นการทำงานคู่ขนานกันไป
+++หลังจากแกนนำกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยศึกษา และคณะ รวม 11 คน ที่เดินทางโดยรถไฟจากสถานีรถไฟบางกอกน้อย ไปยังอุทยาน ราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวไว้ได้ที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม จากนั้นฝ่ายกฎหมายคสช.เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 11 คน ในข้อหามั่วสุมหรือชุมนุมเกิน 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานสอบสวน สารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี ออกหมายเรียกบุคคลทั้ง 11 คน แต่ไม่มาพร้อมยื่นหนังสือขอเลื่อนเข้าให้ปากคำไปเป็นวันที่ 9 มกราคม 2559 หลังจากเจ้าพนักงานสอบสวน สารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี รับเรื่อง และได้มีดุลพินิจไม่อนุญาตให้บุคคลทั้ง 11 คน เลื่อนการเข้าพบได้ และได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้บุคคลทั้ง 11 คน พบในวันที่ 29 ธันวาคมนี้ เวลา 09.00 น. แต่หากทั้ง 11 คน ยังเพิกเฉยไม่ไปให้ปากคำตามวันและเวลานัดหมาย ก็จะรวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ เพื่ออนุมัติออกหมายจับ
+++ศาลปกครองกลาง นัดไต่สวนคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องอธิบดีกรมการกงสุล ที่มีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทาง 2 ฉบับ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า หลักเกณฑ์การยกเลิกหนังสือเดินทาง มีระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ซึ่งอธิบดีกรมการกงสุล พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีนี้เข้าข่ายตามระเบียบ สามารถดำเนินการได้ จึงมีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทาง ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องการเมือง เนื่องจากก่อนที่จะมีการยกเลิกหนังสือเดินทางมีข่าวว่านายทักษิณไปให้สัมภาษณ์ลักษณะกระทบต่อความมั่นคง จึงทำเรื่องมาที่กระทรวงการต่างประเทศให้ยกเลิก
+++พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้กำลังหารือกับฝ่ายกฎหมายในเรื่องของรถเก่า จะต้องติดตั้งเครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ ได้หรือไม่ อาทิ จีพีเอส เพราะถ้าเกิดความเสียหาย อย่างกรณีอุบัติเหตุรถทัวร์ชาวมาเลเซีย แหกโค้งตกเขาที่ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เสียชีวิต 13 ศพ และบาดเจ็บจำนวนมาก ควรหรือไม่ จะอ้างอะไรไม่ได้ทั้งนั้นไม่คุ้มค่า เสียทุกอย่าง เสียใจมากกับเหตุการณ์ดังกล่าว กรมการขนส่งทางบก ที่จะอนุมัติรถใหม่จะต้องมีการตรวจสอบเครื่องมืออย่างครบถ้วน ส่วนผู้ประกอบการจะรับคนขับก็ต้องตรวจสอบให้รอบคอบ จากนั้นจะมาดูถึงเรื่องการยึดใบขับขี่หากขับรถไม่ปลอดภัย หรือเกิดอุบัติเหตุ และเมาแล้วต้องไม่ขับ
+++พล.ต.ต.พงษ์สักก์ เชื้อสมบูรณ์ รอง ผบช.ภาค 5 เปิดเผยว่า สำหรับคนขับรถทัวร์นายสมพร บัวหลวง อายุ 58 ปี ตำรวจได้อายัดตัวไว้แล้วทราบว่าทางขนส่งเชียงใหม่ คาดโทษขั้นสูงสุดเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ หลังพบพฤติกรรมเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี แหกด่านมาถึง 2 ด่านก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุด้วย และยอมรับว่าขับมาด้วยความเร็วมีปัญหาเบรกแตกและเข้าเกียร์ไม่ได้จนเกิดเสียหลักพุ่งลงข้างทาง เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิตและทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ให้พนักงานสอบสวนประสานกับขนส่งเช็กประวัติของ หจก.วีระพันธ์แอนด์ทราแวล จำกัด พบว่า หจก.วีระพันธ์แอนด์ทราแวล เป็นบริษัทเดียวกับที่เคยเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์บุญมีผู้สูงอายุใน จ.ลำพูน จ.ลำปาง เมื่อปี 2556 อยู่ในข่ายกรมการขนส่งทางบกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตเดินรถ
CR:กู้ภัยสิงห์เหนือ