สรุปข่าว 19.35น.
+++พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. นำภาพรอยร้าวของปูนบางส่วนในอุทยานราชภักดิ์มาแสดง ว่า ไม่มีสาระอะไรเป็นพิเศษ เป็นเรื่องเล็กน้อย เป็นเรื่องของตัวปูน ที่ไม่ใช่ฐานราก หากผลการตรวจสอบออกมา จะมีผลต่อการตัดสินใจ ต่อตำแหน่งหรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ขอรอฟังผลการตรวจสอบว่าจะเป็นอย่างไร แต่น่าจะไม่มีผลต่อการตัดสินใจอะไร เพราะที่ผ่านมามีแต่ความตั้งใจในการทำหน้าที่ ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ต้องรอฟังผลที่จะออกมา สิ้นปีนี้ อุทยานราชภักดิ์จะจัดกิจกรรมพิเศษ คือ การการสวดมนต์ข้ามปี ถือว่าเป็นงานมงคล เป็นสิริมงคลของคนในพื้นที่ และของประเทศ นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก
+++ในวันพรุ่งนี้ ศาลปกครองกลาง นัดไต่สวนคดีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้นายวัฒนา เตียงกูล ทนายความพรรคเพื่อไทย เป็นผู้รับมอบอำนาจ ฟ้องคดีอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กับพวกรวม 2 คน ต่อศาลปกครองกลาง ในคดีพิพาทเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทาง นายบรรเจิด สิงคะเนติ คณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.นิด้า และอดีต คตส. กล่าวถึงกรณีนายทักษิณมอบอำนาจทนายความฟ้องกระทรวงการต่างประเทศดังกล่าวว่า หากเป็นคดีทางปกครองสามารถมอบหมายตัวแทนฟ้องร้องคดีแทนได้ เพราะคดีทางปกครอง วัตถุแห่งคดีคือการพิสูจน์การกระทำว่าการยกเลิกหนังสือเดินทางชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งแตกต่างจากคดีอาญาและคดีแพ่ง ที่นายทักษิณไม่สามารถมอบหมายให้ใครมาฟ้องศาลได้เพราะขัดต่อหลักสุจริต ที่ต้องมาศาลด้วยมือสะอาด ที่เมื่อตัวเองไม่ได้ประโยชน์ก็หนีคดี แต่หากต้องการประโยชน์ก็กลับมาพึ่งพาศาล สำหรับการยกเลิกหนังสือเดินทางของนายทักษิณว่า ด้วยฝ่ายความมั่นคงได้เสนอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องภายในอำนาจหน้าที่ เกี่ยวกับเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้พิจารณาเห็นว่า ถ้อยคำให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณมีเนื้อหาบางส่วนที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยหรือชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย เข้าข่ายที่จะยกเลิกหนังสือเดินทางตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ
+++พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงการดูแลสถานการณ์ช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) จะร่วมกับตำรวจ ฝ่ายปกครองและกำลังประชาชนดูแลประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 โดยจะตั้งจุดตรวจร่วมและจุดบริการประชาชนบริเวณหน้าค่ายทหาร และเส้นทางคมนาคมที่สำคัญทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่ 25 ธันวาคมจนหมดห้วงเทศกาล โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์หรือรถตู้สาธารณะ หากตรวจพบ เจ้าหน้าที่อาจจะพิจารณาขอควบคุมรถเอาไว้ก่อนตามความจำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ส่วนผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ ถ้าพบอาจจะต้องพักใบอนุญาตขับขี่
+++นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการประเมินการทำงานของรัฐบาลในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ถือว่ารัฐบาลสอบผ่าน ภายใต้โจทย์การทำงานที่ยาก เพราะต้องเผชิญปัญหาจากเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่เศรษฐกิจกรีซและจีนที่ชะลอตัว ปัญหาการก่อการร้าย และปัญหาระหว่างตุรกีกับรัสเซีย ที่กระทบต่อเนื่องไปถึงภาคการส่งออกของไทย และยังมีปัญหาภัยแล้ง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แต่รัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ กระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้คาดว่าในปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3% จึงให้คะแนนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ 7 คะแนนจากเต็ม 10 คะแนน ส่วนปี 59 คาดว่า การขับเคลื่อนเม็ดเงินการลงทุนผ่านโครงการเมกะโปรเจกต์ และเม็ดเงินจากการลงทุน 4G จะสร้างมูลค่ากลับมาหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในระยะยาวได้เกิน 2 เท่าตัว หรือประมาณ 400,000 ล้านบาท รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ร้อยละ 3.5 แต่ปัญหาที่จะต้องเร่งแก้ไข คือ การเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน หลังจากยังกังวลว่าเศรษฐกิจยังไม่ดีตามที่คาดไว้ และการหามาตรการดูแลราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
นายสุชาติ สินรัตน์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ อยู่ระหว่างเชิญผู้ประกอบการภาคขนส่ง ทั้งผู้ผลิตสินค้ากลุ่มยางรถยนต์ และสมาคมโลจิสติกส์ เข้ามาหารือเกี่ยวกับค่าขนส่งสินค้าและต้นทุนราคาสินค้าสัปดาห์หน้า หลังจากราคาน้ำมันปรับลดลงมากฉุดให้ราคาสินค้าในกลุ่มโภคภัณฑ์ เช่น ยางพาราลดลงตามไปด้วย โดยกรมการค้าภายในจะขอความร่วมมือให้มีการปรับลดราคาสินค้าและบริการ ตามราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับตัวลดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลต่อค่าขนส่งให้ลดลงร้อยละ 12.5 เชื่อว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยินดีให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่กรมการค้าภายในได้คุมเข้มการจำหน่ายสินค้าให้เป็นไปตามราคาแนะนำทั้งในสถานีบริการน้ำมัน สถานีรถไฟ และจุดแวะพักรถต่าง ๆ หากประชาชนพบเห็นการปรับขึ้นราคาสินค้าที่ไม่เป็นธรรมสามารถโทรแจ้งได้ที่สายด่วน 1569กรมการค้าภายใน
+++ความเป็นห่วงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า สั่งการให้กระทรวงคมนาคม เร่งแก้ไขลดอุบัติเหตุทางถนนให้เสร็จใน ปี 60 สั่งให้กรมการขนส่งทางบก นำระบบเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย มาบังคับให้รถโดยสารสาธารณะ รถบรรทุกทุกคัน ต้องติดตั้งจีพีเอส เพื่อช่วยกำกับติดตามตำแหน่งรถโดยสาร พฤติกรรมคนขับ ไม่ให้ขับรถเร็วเกินกำหนด เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิต รวมถึงให้บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการขับขี่อย่างเข้มงวด และกวดขันลงโทษทางวินัยผู้ทำความผิดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่รถโดยประมาท ต้องลงโทษให้เข็ดหลาบ ต่อไปรถใหม่ ที่จะมาจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก จะต้องติดจีพีเอส ก่อนที่จะออกใบอนุญาต ส่วนรถเก่าที่จะมาขอต่อทะเบียนนั้น ก็ต้องติดตั้งจีพีเอสก่อน จึงจะต่อใบอนุญาตให้ หากผู้ประกอบการมีปัญหาเรื่องเงินทุนในการติดตั้ง นายกฯได้สั่งให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แล้ว
+++น.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) แถลงภายหลังการประชุมวิปสนช.ว่า ในวันศุกร์ที่ 25 ธ.ค.ที่ประชุมสนช.จะพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)รวบรวมความเห็นคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะเปิดให้สมาชิกได้อภิปรายเสนอแนะแนวทางเกี่ยวการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งประเด็นหลักๆคือ ที่มา ส.ส.และส.ว. ที่มานายกรัฐมนตรี ระบบเลือกตั้ง แต่ในบางประเด็นที่กรธ.มีข้อยุติแล้วก็จะไม่มีการอภิปราย
+++พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ได้สั่งการตำรวจทุก สน.รวมถึงกองบังคับการตำรวจจราจรทั่วกรุงเทพฯ นำโครงการล้างใบสั่งปรับ 100 บาท ไปดำเนินการ เพื่อคืนความสุขให้ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยข้อหาที่ไม่มีฐานปรับขั้นต่ำตามกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการกระทำผิดเล็กน้อย เช่น ไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่พกใบขับขี่ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ให้ปรับทุกข้อหาในราคาเดียว 100 บาท ส่วนข้อหาที่มีฐานปรับขั้นต่ำ ก็ให้ปรับในอัตราต่ำที่สุด มีผลตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2559
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,261.66 จุด ลดลง 2.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,938.47 ล้านบาท
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบ29.32 จุด ที่ระดับ 18,886.70 จุด หลังจากที่ตลาดเคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทาง ขณะที่นักลงทุนยังขาดแรงจูงใจในการเข้าซื้อขาย หลังจากที่ได้ซึมซับผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางสหรัฐที่มีขึ้นไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น38.34 จุด ที่ 21,830.02 จุดรับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นจีนที่ปิดบวก หลังจากที่มีรายงานว่าจีนเตรียมออกมาตรการเพิ่มเติมในปีหน้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
+++การคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2015 ของ “เพีย วูรร์ทซบาค” สาวงามจากฟิลปปินส์ หลังเจอพิธีกรประกาศมอบมงกุฎให้ผิดคน งานนี้เจ้าตัวยอมรับยังไม่มีโอกาสได้คุยกับรองอันดับ 1 “มิสโคลอมเบีย” เพีย ยอมรับว่า หลังจากที่เธอได้สวมมงกุฎแล้ว เธอเห็นว่า อเรียดนา กูร์เตียเรซ ร้องไห้หนักมากอยากเข้าไปปลอบแต่มีคนรายล้อมเธออยู่เยอะ ขณะเดียวกันทางด้านมิสโคลอมเบียที่โดนถอดมงกุฎไปต่อหน้าต่อตาหลังได้ครอบครองเพียงแค่ไม่กี่นาที ก็ได้รับกำลังใจอย่างท่วมท้นจากชาวโคลอมเบีย, ประธานาธิบดีโคลอมเบีย, เพื่อนๆและครอบครัว รวมถึง ผู้หวังจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ 2016 อย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ด้วย ที่บอกว่า ผมจะให้พวกเธอขึ้นครองตำแหน่งร่วมกันเลย” อดีตเจ้าของการจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สแสดงความเห็น “เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับมิสโคลอมเบียเป็นเรื่องที่สะเทือนใจมาก การให้เธอสวมมงกุฎ2นาทีแล้วมาพรากมันไปจากเธอ ผมคิดว่า...คุณทำร้ายจิตใจคนทั้งประเทศเธอไปหมดแล้ว