เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกู้ภัยจีนเร่งค้นหาผู้สูญหาย 91 คนจากเหตุดินถล่มในเขตนิคมอุตสาหกรรมเฮงไถ้หยู เมืองเสิ่นเจิ้น ทางใต้ของจีน ทำให้อาคารมากกว่า 30 หลังทรุดตัวหรือได้รับความเสียหาย โดยมีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่จากประมาณ 1,200 คนเป็นมากกว่า 2,900 คน ร่วมด้วยรถตักดินอีก 78 คัน เนื่องจากพื้นที่ที่ถูกดินถล่มมีพื้นที่มากกว่า 380,000 ตารางเมตรเท่ากับสนามฟุตบอล 60 สนาม และบางจุดมีกองดินสูงถึง 10 เมตร
ปิโตรไชนา ผู้ผลิตก๊าซและน้ำมันรายใหญ่สุดของจีน ระบุว่า ท่อส่งก๊าซความยาว 400 เมตรแตกร้าว และเริ่มการซ่อมแซมทันที
กระทรวงที่ดินและทรัพยากรของจีน แจ้งผลสอบสวนเบื้องต้นผ่านทางเว็บไซต์ว่า สาเหตุเกิดจากภูเขากองขยะจากการก่อสร้างที่มีความสูงเท่ากับอาคาร 20 ชั้น ซึ่งเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์มีฝนตกหนัก ทำให้เกิดการพังทลาย โดยบริษัทที่จัดการภูเขาขยะเคยได้รับคำสั่งให้ปิดและปรับปรุงความปลอดภัยตั้งแต่ในเดือนกรกฎาคมและยื่นขอใบอนุญาตใหม่ ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่เคยร้องเรียนไปยังทางการหลายครั้งว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะยังมีรถบรรทุกที่ขนขยะไปทิ้ง และกองดินก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ตำรวจเบลเยียมควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 คนจากการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในกรุงบรัสเซลส์ ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีกรุงปารีสของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน และนำตัวไปรายงานตัวต่อผู้พิพากษาเพื่อพิจารณาว่าจะต้องถูกควบคุมตัวต่อไปหรือไม่
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ประกาศเตือนพลเมืองรัสเซียที่อยู่ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในอินโดนีเซีย ให้เพิ่มความระมัดระวังว่าอาจจะตกเป็นเป้าหมายของผู้ก่อการร้าย โดยขอให้อยู่แต่เฉพาะในพื้นที่ของโรงแรม หรือสถานที่พักที่มีการรักษาความปลอดภัย รวมถึงขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในแหล่งที่เป็นที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
รัฐบาลจีนมีคำสั่งแต่งตั้งนายหลิว เย่วจิน เป็นผู้บังคับการคณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายคนแรกของจีน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ก่อการร้าย และกลุ่มหัวรุนแรงมากขึ้น
ด้านนายฌ็อง-อีฟส์ เลอ ดรีอองรัฐมนตรีกลาโหมของฝรั่งเศส เดินทางไปยังกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย เพื่อหารือเรื่องแนวทางการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสในซีเรีย ร่วมกับนายเซอร์ไก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซีย เบื้องต้นทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะร่วมมือกันโจมตีกลุ่มไอเอส รวมถึงแลกเปลี่ยนด้านข่าวกรองระหว่างกัน
รัฐบาลอินโดนีเซียและออสเตรเลีย บรรลุข้อตกลงด้านความมั่นคง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการต่อสู้กับการก่อการร้ายไอเอส โดยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซียและออสเตรเลีย บรรลุข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคง ในการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองเพื่อต่อสู้กับขบวนการก่อการร้าย ซึ่งสืบเนื่องมาจากเหตุกลุ่มก่อการร้ายบนเกาะชวาของอินโดนีเซีย เมื่อวันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 5 คน พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นสารเคมี อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงธงสัญลักษณ์กลุ่มไอเอสด้วย
กลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียูยังมีความขัดแย้งกันสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ผู้ลี้ภัย ล่าสุดคือทางการฮังการีตำหนินายกรัฐมนตรีแวร์เนอร์ เฟย์มานน์ แห่งออสเตรีย ที่ไม่ให้ความร่วมมือตามนโยบายแก้ไขวิกฤตผู้ลี้ภัย และทางการฮังการีเรียกร้องให้คว่ำบาตรและลดงบประมาณช่วยเหลือ
นายแฟรงก์-วอลเตอร์ สเตนไมเออร์ รัฐมนตรีการต่างประเทศเยอรมนี กล่าวว่าการละเลยความร่วมมือในฐานะชาติสมาชิกอียูซึ่งมีพันธะผูกพันทางกฎหมาย ถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และอาจต้องใช้มาตรการจริงจังจัดการกับประเทศที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยกล่องดำของเครื่องบินทิ้งระเบิดซู-24 ที่ถูกกองทัพตุรกียิงตกในซีเรีย เพื่อหวังว่าจะช่วยยืนยันว่า ไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าของตุรกี แต่ล่าสุดคณะสืบสวนยอมรับว่าไม่สามารถกู้ข้อมูลจากกล่องดำ เพราะได้รับความเสียหายอย่างหนักภายในกล่อง นายเซอร์เก ไบเนตอฟ รองผู้บัญชาการความปลอดภัยด้านการบินของกองทัพอากาศรัสเซียกล่าวว่า ไมโครชิพ 13 จาก 16 อันของกล่องบันทึกข้อมูลการบินพังโดยสิ้นเชิง ส่วนที่เหลือก็ได้รับความเสียหาย เนื่องจากความรุนแรงของขีปนาวุธ และการที่เครื่องบินดิ่งลงกระแทกพื้น ตัดขาดสายพ่วงที่เชื่อมกล่องดำกับอุปกรณ์เอวิโอนิกส์ของเครื่องบิน
ส่วนเรื่องปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งอียูมีคำเตือนไต้หวัน ก็ทำให้กรมประมงของไต้หวันเตรียมแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มบทลงโทษและเพิ่มการตรวจสอบเจ้าพนักงานให้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน ทั้งนี้ อียูให้ใบเหลืองไต้หวัน เพื่อเตือนว่า ไต้หวันมีความเสี่ยงที่จะถูกระบุว่าเป็นประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย เพราะกำหนดโทษปรับสำหรับการทำประมงผิดกฎหมายน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับการกำหนดโทษปรับของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยอาจพิจารณาบทลงโทษทางการค้าในการนำเข้าสินค้าประมงจากไต้หวัน
ผู้พิพากษาอินเดีย มีตัดสินให้ประหารชีวิตผู้ต้องหา 7 คนที่ก่อเหตุข่มขืนและฆาตกรรมหญิงชาวเนปาลอายุ 28 ปีอย่างทารุณในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนผู้ต้องหาคนที่ 8 เป็นผู้เยาว์และต้องขึ้นศาลเยาวชน ส่วนผู้ต้องหาคนที่ 9 ฆ่าตัวตายหลังจากถูกจับกุมตัวไม่นาน
คดีนี้หญิงชาวเนปาลอายุ 28 ปีเดินทางมายังอินเดียเพียงไม่กี่เดือนก่อนเกิดเหตุและอาศัยอยู่กับพี่สาว เพื่อรับการรักษาโรคซึมเศร้าที่โรงพยาบาลในรัฐหรยาณา ทางเหนือของอินเดีย ก่อนที่เธอจะหายตัวไป จากนั้น 3 วันต่อมา มีผู้พบศพของเธอในทุ่งแห่งหนึ่ง และผลการชันสูตรพบว่าเธอถูกข่มขืนอย่างทารุณ ซึ่งแพทย์ผู้ชันสูตรศพระบุว่า เขาไม่เคยพบเจอคดีที่โหดร้ายเช่นนี้มาก่อนตลอดชีวิตการทำงาน 29 ปีของเขา ผู้พิพากษาระบุว่า การลงโทษประหารชีวิตผู้ต้องหาทั้ง 7 คนไม่ได้เป็นเพียงการทำหน้าที่ของตุลาการ แต่ยังหมายถึงการเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ได้ยิงเสียงคร่ำครวญของเหยื่อผู้เสียชีวิต และคำตัดสินครั้งนี้คือการส่งสัญญาณอย่างรุนแรงที่มีความจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน
คำตัดสินนี้ ยังมีขึ้นในวันเดียวกันกับการที่ศาลฎีกาปฏิเสธคำอุทธรณ์ของคณะกรรมการเพื่อสตรีกรุงนิวเดลี ที่คัดค้านการปล่อยตัวนักโทษที่อายุน้อยที่สุดใน 6 คนที่ก่อเหตุข่มขืนนักศึกษาวัย 23 ปีบนรถบัสเมื่อปลายปี 2555
ราคามันในตลาดลอนดอนลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีเนื่องจากความกังวลอุปทานล้นตลาด น้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 51 เซนต์ ปิดที่ 36.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียตหรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 34.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 123.07 จุด หรือร้อยละ 0.72 ปิดที่ 17.251.62 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.60 จุด หรือร้อยละ 0.78 ปิดที่ 2,021.15 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 45.84 จุด หรือร้อยละ 0.93 ปิดที่ 4,968.92 จุด
*-*