*ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์จำคุกอดีตผู้บริหาร BBC6ปี8เดือน ร่วมกันชดใช้เงินกว่า9พันล้านบาท

16 ธันวาคม 2558, 12:03น.


ศาลแพ่งอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 และธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี ร่วมกัน เป็นโจทก์ฟ้องนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บีบีซี, นายจิตตสร ปราโมช ณ อยุธยา อดีตรองผู้อำนวยการ สำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่, ม.ร.ว.ดำรงเดช ดิศกุล อดีต ผู้บริหารอาวุโส สำนักบริหารเงินและวิเทศกิจ และ ม.ร.ว.หญิงสุภาณี สารสิน หรือ ดิศกุล อดีตรองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บีบีซี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ กรณี จำเลยทั้งสี่และนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษา กก.ผจก.ใหญ่ บีบีซี ร่วมกันวางแผนอนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุนของบีบีซี โดยไม่ตรวจสอบประวัติฐานะของบริษัทผู้เข้ามาจองซื้อหุ้น จำนวน 260 ล้านหุ้นให้กับบริษัท ออลบิ ยูเอสเอ อิงค์ และบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เครดิต โบรคเกอร์เรจ โฮลดิ้ง อิงค์ ที่มีนาย ราเกซ ที่ปรึกษา กก.ผจก.ใหญ่ บีบีซี เป็นผู้รับมอบอำนาจการซื้อขายหุ้น แล้วบริษัทนำหุ้น 90 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินจำนวน 23,170,731.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 570 ล้านบาทไปขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยพิพากษา ยืน ตามศาลอุทธรณ์ โดย จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ซึ่งการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างวาระกัน ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ม.313 ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำคุก 5 กระทงๆ ละ 10 ปี รวม 50 ปี แต่คงให้จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 20 ปี และให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากศาลอาญากรุงเทพใต้ที่พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 ในข้อหายักยอกทรัพย์ด้วย



ส่วนจำเลยที่ 2-4 ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ม.308 ที่เป็นบทหนักสุด จำคุกคนละ 6 ปี 8 เดือน และปรับคนละ 666,666.66 บาท รวมทั้งให้จำเลยที่ 1 คืนเงินบีบีซี จำนวน 167,090,118.28 ดอลลาร์สหรัฐ หากใช้เป็นเงินบาทให้คำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินปัจจุบัน โดยให้จำเลยที่ 2-4 ร่วมชดใช้เงินกับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 85,733,882.04 ดอลลาร์สหรัฐ หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการยึดทรัพย์สิน  โดยในวันนี้ศาลแพ่งอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดียักยอกทรัพย์  บีบีซี อีก 2 คดีด้วย  สำหรับนายเกริกเกียรติ เมื่อปี พ.ศ. 2555 ด้วยโรคมะเร็ง

ข่าวทั้งหมด

X