นายโมฮัมหมัด ยูนุส ผู้อำนวยการแผนกคดีอาญา กระทรวงสิ่งแวดล้อมของอินโดนีเซีย กล่าวว่า พนักงานสอบสวนของอินโดนีเซียอยู่ระหว่างการสอบสวนบริษัทแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ และอีกกว่า 200 บริษัทที่ทำธุรกิจเพาะปลูกและการป่าไม้ ฐานทำให้เกิดไฟป่าบนเกาะสุมาตราและกาลีมันตันของอินโดนีเซีย ทำให้ควันหนาทึบลอยปกคลุมทั่วทั้งภูมิภาคนี้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ระดับมาตรฐานมลพิษเพิ่มสู่ระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ
ที่ผ่านมา ทางการอินโดนีเซียได้ทำการสอบสวนบริษัท 27 แห่งและสอบปากคำของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุไฟป่าอีกราว 140 คน นอกจากนี้ ทางการอินโดนีเซียสั่งพักใบอนุญาตประกอบธุรกิจของบริษัท 4 แห่งของอินโดนีเซีย หลังพบว่าที่ดินบนเกาะสุมาตราของบริษัทดังกล่าวมีการเผาป่า ส่งผลให้เกิดปัญหาหมอกควัน บริษัทดังกล่าวรวมถึงบริษัทพีที เท็มพิไร พีเอเอ็ม รีซอสเซส และบริษัทวาริงกิน แอ็กโร จายา ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเพาะปลูกพืชปาล์มน้ำมันในจังหวัดเซาท์ สุมาตรา ส่วนอีก 2 บริษัทอยู่ในจังหวัดริเอา คือ บริษัทพีที ฮูตานี โซลาเรสตารี และบริษัทพีที ริเอา ลังกัม อินติ ฮิบริโด ซึ่งเป็นบริษัทการป่าไม้
ขณะเดียวกัน ฝนตกช่วยลดผลกระทบจากหมอกควันให้กับชาวบ้านในจังหวัดริเอา จุดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ด้านสำนักงานบรรเทาอุบัติภัยของอินโดนีเซียระบุว่าคุณภาพอากาศและทัศนะวิสัยเริ่มดีขึ้นโดยลำดับ ขณะที่จำนวนจุดที่มีการเผาป่าลดลงมากเช่นกัน โรงเรียนบางแห่งเริ่มเปิดการเรียนการสอนตามปกติ/15.27 น.