ความคืบหน้าการออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษกสำนักตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดพังงาได้เข้าตรวจค้นบ้านน.ส. วรรณา สวนสัน หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ในอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ตามทะเบียนราษฎร์ แต่ไม่พบตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด และจากการให้การของญาติระบุว่าน.ส.วรรณา ไม่ได้กลับบ้านมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งอาจเดินทางไปอาศัยอยู่กับสามีที่ประเทศตุรกี โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังสถานทูตไทยประจำประเทศตุรกี เพื่อตรวจสอบว่าน.ส. วรรณาอาศัยอยู่ในประเทศตุรกีจริงหรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบพบว่ามีการเดินทางออกไปจริง แต่ยังไม่ยืนยันว่าไปยังประเทศใดและใช้ช่องทางใดเข้าออก และอยากให้น.ส. วรรณาติดต่อเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อให้ข้อมูลโดยด่วน
โดยเจ้าหน้าที่จะขยายผลถึงการลักลอบนำบุคคลต่างด้าวเข้ามาประเทศไทย เนื่องจากการสืบสวนสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมเช่นนี้ด้วย และในเร็ว ๆ นี้ คาดว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอย่างแน่นอน แต่จะมีกี่รายและเกี่ยวข้องอย่างไรนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ พร้อมยืนยันว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงให้ความสำคัญในทุกประเด็น จนกว่าจะมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนมุ่งเน้นไปยังประเด็นใดประเด็นหนึ่ง
โดยพล.ต.ท ประวุฒิ ยังกล่าวอีกว่าขณะนี้ทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนการทำงานลับ หากข้อมูลไหนที่ไม่ได้นำมาเปิดเผยอย่าเชื่อ เพราะจะกระทบกับหลายประเทศ รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านด้วย และตอนนี้ได้มีการขอข้อมูลจากประเทศต่างๆ ในรายละเอียดยังไม่เปิดเผยไม่ได้ ภายในอาทิตย์สองอาทิตย์นี้จะยังไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้มากนัก เนื่องจากจะเป็นอันตรายกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน
ขณะที่มีคำสั่งย้ายตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 6 นาย ที่จังหวัดสระแก้ว พล.ต.ท. ประวุฒิ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าด่านตรวจคนเข้าเมืองที่จะงหวัดสระแก้ว มีการลักลอบนำบุคคลต่างด้าว เข้ามาในประเทศไทย ผ่านทางด่านดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง จึงพิจารณาได้ว่าเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อาจเกิดการละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ จึงมีคำสั่งให้นายตำรวจทั้ง 6 นายเข้ามาปฏิบัติงานที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั่วคราว ส่วนการโยกย้ายนายตำรวจทั้ง 18 นาย ในพื้นที่สน. มีนบุรี และหนองจอก นั้น เนื่องจากพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีแหล่งที่อยู่อาศัยของบุคคลต่างด้าว ที่ลักลอบเข้ามาประเทศไทยจำนวนมาก จึงแสดงให้เห็นถึงการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่ จึงนำมาซึ่งคำสั่งดังกล่าวเช่นกัน
นอกจากนี้พล.ต.ท. ประวุฒิ ยังได้เข้าร่วมประชุมกับผู้ประกอบการ สมาคมศูนย์การค้าไทย ที่ตึกดิออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ โดยพล.ต.ท ประวุฒิ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อขอความร่วมมือเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานการณ์ปัจจุบันและการใช้กล้องวงจรปิด ซึ่งจะช่วยป้องกันการก่อเหตุได้ โดยในปัจจุบันกล้องวงจรปิดแบบตรวจจับวัตถุต้องสงสัยจะสามารถทำงานได้เอง เมื่อตรวจพบวัตถุต้องสงสัยแล้วจะแจ้งเตือน และปัจจุบันมีราคาถูก มีประสิทธิภาพสูง ไม่ต้องใช้คนเฝ้า หากห้างสรรพสินค้านำกล้องชนิดนี้มาใช้จะช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ ส่วนในสถานที่สาธารณะ ทางตำรวจจะเป็นผู้ดูแลเอง
...ผสข.สมจิตร์ พูลสุข