บีบีซี รายงานอ้างแถลงการณ์ของสหภาพยุโรป (อียู) ว่า อียูได้นัดประชุมฉุกเฉินของรัฐมนตรีความมั่นคงภายในของอียูในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม ในวันที่ 14 กันยายนนี้ เพื่อหาทางแก้ไขวิกฤติการอพยพถิ่นฐานที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องความร่วมมือภายในกลุ่มฯ การปราบปรามขบวนการลักลอบค้ามนุษย์และนโยบายการส่งตัวผู้อพยพกลับ ก่อนหน้านี้ ออสเตรียได้เพิ่มการตรวจค้นรถบรรทุกใกล้เมืองนิคเกลสดอร์ฟทางตะวันออกของประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบบรรทุกผู้อพยพผ่านแดนเข้ามา หลังตำรวจออสเตรียค้นพบศพผู้อพยพซีเรีย 71 ศพ ในรถบรรทุกคันหนึ่งใกล้พรมแดนฮังการีเมื่อวันศุกร์ก่อน สร้างความตกตะลึงให้กับผู้คนทั่วทั้งยุโรป
มาตรการตรวจรถบรรทุกนี้ส่งผลให้การจราจรติดขัดยาวร่วม 30 กิโลเมตร บนถนนสายหลักๆของฮังการีที่มุ่งไปสู่ชายแดนของออสเตรีย แต่การตรวจค้นดังกล่าวกระทบต่อความตกลงเชงเกนของสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งตามปกติจะอนุญาตให้มีการเดินทางข้ามแดนไปโดยไม่มีข้อจำกัด ยกเว้นเหตุฉุกเฉินบางกรณีที่อนุญาตให้สมาชิกอียูสามารถจะคุมเข้มการข้ามแดนได้ นอกจากนั้น ปัญหานี้สร้างความตึงเครียดในกลุ่มอียูว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร โดยเฉพาะฝรั่งเศสได้วิจารณ์ฮังการีกรณีสร้างรั้วลวดหนามตลอดแนวพรมแดน 174 กิโลเมตร ที่ติดต่อกับเซอร์เบีย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อพยพข้ามแดนเข้าไป ระบุว่า ฮังการีละเมิดค่านิยมร่วมกันของยุโรป
นอกจากนั้นมีผู้อพยพหลายร้อยคนจมน้ำเสียชีวิตในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะพยายามจะเดินทางโดยเรือไปยังยุโรปจากลิเบีย โดยเมื่อเดือนก่อน มีผู้อพยพมากถึง 105,500 คน ข้ามแดนถึงยุโรป ด้านยูเอ็นระบุว่าปัญหาขัดแย้งที่ยืดเยื้อในซีเรียเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีผู้อพยพมากขึ้น
ทั้งนี้ กรีซ อิตาลีและฮังการี พยายามจะแก้ปัญหาผู้อพยพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เฉพาะจากซีเรีย แต่มาจากประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลาง และทวีปแอฟริกาด้วย
ทีมข่าวต่างประเทศ
CR:แฟ้มภาพ