+++พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงการสอบสวนผู้ต้องหาคดีระเบิดแยกราชประสงค์ หลังการจับกุมตัวได้เมื่อวันเสาร์ว่า ผู้ต้องหายอมเอ่ยชื่อบุคคลที่ร่วมขบวนการก่อเหตุแล้ว 2-3 คน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้บงการใหญ่ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าเป็นบุคคลใด หรือกลุ่มใดบ้าง เพราะเป็นห่วงจะเสียรูปคดี
+++น.ส.วรรณา หรือ นางไมซาเลาะห์ สวนสัน อายุ 27 ปี ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ออกหมายจับ พร้อมกับชายชาวต่างชาติ ที่อาศัยในห้องพักที่หอพักย่านมีนบุรี น.ส.วรรณาเป็นผู้ทำสัญญาเช่าห้องไว้ให้ ในข้อกล่าวหาครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ต.อ.ธรัฐชา ถมปัดม์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกำลังทหารกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 ค่ายรัตนรังสรรค์ จังหวัดระนอง เดินทางเข้าตรวจค้นบ้าน หมู่ที่ 6 ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา ซึ่งเป็นที่อยู่ของน.ส.วรรณา ญาติยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น แต่ไม่พบตัว ญาติผู้ใกล้ชิด น.ส.วรรณา คนหนึ่งแจ้งว่า น.ส.วรรณา ไม่ได้กลับบ้านมานานกว่า 3 เดือนแล้ว และล่าสุดญาติได้ติดต่อโซเชียลมีเดีย และพูดคุยกับ น.ส.วรรณา จนทราบว่าขณะนี้พักอาศัยอยู่ที่ประเทศตุรกี โดยยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ และได้ติดต่อกับตำรวจกองปราบปรามแล้วและจะรีบเดินทางกลับมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว นายอิบรอเหม คมขำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 กล่าวว่า น.ส.วรรณา ได้เรียนหนังสือและทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนจะพบรักกับชาวตุรกีและเดินทางกลับมาจัดพิธีแต่งงานที่บ้านประมาณหนึ่งปี ปัจจุบันมีลูกด้วยกัน 1 คน และได้กลับมาบ้านในช่วงเทศกาลถือศีลอด
+++ความคืบหน้าการสอบสวนคดีฟอกเงินจากการปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับบริษัท กฤษดามหานคร นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวว่า คดีดังกล่าวถูกส่งให้ดีเอสไอสอบสวน เมื่อปี 2550 ตามมติคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ปี 2550 โดยมติดังกล่าวให้ดีเอสไอรับคดีไว้สอบสวนเฉพาะประเด็นความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินที่ได้มาจากการอนุมัติปล่อยกู้เท่านั้น ไม่ได้รับสอบสวนในข้อหารับของโจร นอกจากนี้ ในสำนวนคดีไม่ได้กล่าวหาบุคคลใด ทั้งนี้ เมื่อรับคดีไว้สอบสวนสำนวนคดีได้ถูกจ่ายไปให้กับพ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษสอบสวน โดยมีการสอบปากคำและสอบพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงการประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิด แต่ปรากฏว่ามีการปรับการบริหารงานใหม่ของดีเอสไอ ทำให้สำนวนถูกจ่ายมาให้กับสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ซึ่งรับผิดชอบคดีฟอกเงิน ขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างขอคัดสำเนาคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีฟอกเงิน โดยจะมีการเชื่อมโยงและขยายผลถึงผู้ที่นำเงินจากการปล่อยกู้ไปใช้ประโยชน์ จะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวในวันที่ 7 กันยายน คาดว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำผิดได้ภายใน 1 เดือน
+++การเตรียมการลงมติร่างรัฐธรรมนูญในที่ประชุมสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในวันที่ 6 ก.ย. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่าน สปช. หรือไม่ ผ่านประชามติหรือไม่ ในส่วนตัวรับได้ทั้งนั้น จะรับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่อยากให้คิดให้ดีว่าใครได้ใครเสีย คิดให้ลึกซึ้งจะตอบตัวเองได้ หลายอย่างกมธ.แก้ให้ตามข้อเรียกร้อง นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า อยากให้ประชาชนตัดสินเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นของประชาชนที่จะยอมให้ใช้หรือไม่ การดูร่างรัฐธรรมนูญอย่าไปดูทีละชิ้น ให้ดูภาพรวม ให้ดูว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้แก้ปัญหาบ้านเมืองได้หรือไม่สิทธิเสรีภาพของพลเมืองก้าวหน้าขึ้นหรือไม่ และสนองความคาดหวังการปฏิรูปและการปรองดองที่คนไทยเรียกร้องมากว่า10ปี ได้หรือไม่
+++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ระบุว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่ที่ประชุม โดยมีทั้งหมด 3 แพ็กเกจ คือ 1.มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 2.การใช้จ่ายภาครัฐผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดไปยังตำบล และ 3. เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการขนาดเล็กให้จ่ายได้เร็ว ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการในพื้นที่
+++ดัชนีหุ้นไทย เคลื่อนไหวผันผวนในแดนบวกตลอดวัน เหตุนักลงทุนลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่พรุ่งนี้ ปิดตลาดที่ 1,382.41 จุด เพิ่มขึ้น 16.47 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,036.56 ล้านบาท รอลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ นิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ลดลง 245.84 จุด ปิดที่ 18,890.48 จุด ฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 58.19 จุด ปิดที่ 21,670.58 จุด เซี่ยงไฮ้ ตลาดหุ้นจีน ลดลง 26.36 จุด ปิดที่ 3,205.99 จุด
+++สำนักข่าวบีบีซี รายงานอ้างแถลงการณ์ของสหภาพยุโรป(อียู)ว่า อียู นัดประชุมฉุกเฉินของรัฐมนตรีความมั่นคงภายในของอียูในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม ในวันที่ 14 กันยายนนี้ เพื่อหาทางแก้ไขวิกฤติการณ์อพยพถิ่นฐานที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องความร่วมมือภายในกลุ่มฯ การปราบปรามขบวนการลักลอบค้ามนุษย์และนโยบายการส่งตัวผู้อพยพกลับ หลังตำรวจออสเตรียค้นพบศพผู้อพยพซีเรีย 71 ศพในรถบรรทุกคันหนึ่งใกล้พรมแดนฮังการีเมื่อวันศุกร์ก่อน สร้างความตกตะลึงให้กับผู้คนทั่วทั้งยุโรป ปัญหานี้สร้างความตึงเครียดในกลุ่มอียูว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ยูเอ็น ระบุว่าปัญหาขัดแย้งที่ยืดเยื้อในซีเรียเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีผู้อพยพมากขึ้น
+++สหภาพแรงงานอินโดนีเซีย คาดว่า แรงงานจำนวนมากจะออกมาชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ ประท้วงการเลิกจ้างและเรียกร้องขอขึ้นค่าจ้าง อุตสาหกรรมใช้แรงงานในอินโดนีเซียเลิกจ้างคนงานจำนวนมากในช่วงหลายเดือนมานี้ สถิติของทางการระบุว่า อัตราว่างงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ร้อยละ 5.81 แต่นักวิเคราะห์แย้งว่า ตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมแรงงานนอกระบบ ขณะที่ ราคาอาหารราคาแพงขึ้น อัตราเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมสูงที่สุดในภูมิภาคถึงร้อยละ 7.26 เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานอินโดนีเซียซึ่งมีสมาชิก 2 ล้านคน คาดว่า จะมีแรงงานถูกเลิกจ้างมากถึง 100,000 คน ในปีนี้ จึงขอเรียกร้องรัฐบาลให้หาทางหยุดยั้งและออกระเบียบดูแลอำนาจการจับจ่ายของประชาชน
+++ด้านบริษัทที่ปรึกษาในกรุงจาการ์ตา เปิดเผยว่า จะมีแรงงานเข้าร่วมการชุมนุมในกรุงจาการ์ตาไม่ต่ำกว่า 50,000 คน ขณะที่ทางการจะส่งตำรวจมาดูแลความเรียบร้อยประมาณ 8,000 นาย ทางการอินโดนีเซียเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น มาตรการจูงใจทางภาษีให้แก่อุตสาหกรรมกลั่นน้ำมันและโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจอินโดนีเซียไตรมาสสองของปีนี้ขยายตัวลดลงเหลือร้อยละ 4.67 เนื่องจากตลาดโลกมีความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของอินโดนีเซียลดลง
+++สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีน รายงานอ้างสำนักงานพยากรณ์อากาศของจีนว่า จะเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศในวันนี้ และวันพรุ่งนี้ มีการแจ้งเตือนประชาชนในเรื่องนี้แล้ว คาดว่าจะเกิดฝนตกในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ รวมถึงมณฑลกวางสี กวางตุ้ง ไหหนานและยูนนาน เช่นเดียวกับไต้หวันนอกจากนั้น สำนักงานพยากรณ์อากาศคาดว่าจะเกิดฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ รวมถึงกรุงปักกิ่ง มณฑลเทียนจิน เหอเป่ย ซานตงและเหอหนาน ชาวบ้านได้รับการเตือนให้ระวังเรื่องความไม่สดวกในการสัญจรและความเสียหายอื่นๆ