*น้ำมันดิบร่วงหลังนักลงทุนขายทำกำไร ไม่มั่นใจทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ*

31 สิงหาคม 2558, 17:32น.


นายดาเนียล อัง นักวิเคราะห์จากบริษัทฟิลิป ฟิวเจอร์ส ของสิงคโปร์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบในเอเชียร่วงในวันนี้เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร หลังราคาขึ้น 2 วันเมื่อสัปดาห์ก่อน ถือว่าปรับขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 ปี ระบุว่า มีแรงขายทำกำไรค่อนข้างมาก อีกทั้งนักลงทุนต้องการจะปรับทิศทางการลงทุนในช่วงนี้ด้วย



สำหรับสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบเบรนท์กรุงลอนดอน อังกฤษ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมร่วงลง 76 เซนต์ อยู่ที่ 49.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 05.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังปรับขึ้น 2.49 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 5 เมื่อวันศุกร์ก่อน



ส่วนราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมร่วง 63 เซนต์ อยู่ที่ 44.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังปิดเพิ่ม 2.66 ดอลลาร์หรือร้อยละ 6.3 เมื่อวันศุกร์ก่อน นายอัง กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณที่สับสนเมื่อสัปดาห์ก่อนในเรื่องทิศทางของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนขายทำกำไรในวันนี้ ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่บางคนของเฟด ระบุว่า เฟดอาจจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยระหว่างการประชุมในเดือนหน้า สวนทางความเห็นของประธานเฟดสาขานิวยอร์ค ซึ่งระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนสำหรับเฟดในระยะนี้ ความเห็นของประธานเฟดสาขานิวยอร์คมีขึ้นหลังเกิดความปั่นป่วนในตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อไม่นานมานี้ หลังการลดค่าเงินหยวนของจีนและความหวั่นวิตกเรื่องการชะลอตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจจีน



นอกจากนั้น นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมที่จะออกมาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ จะช่วยให้ทราบทิศทางว่าเฟดจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยระหว่างการประชุมในวันที่ 16-17 กันยายนนี้หรือไม่ หากเฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภท รวมถึงน้ำมันดิบมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ใช้เงินสกุลอื่นๆ



ทีมต่างประเทศ

ข่าวทั้งหมด

X