การดำเนินการต่อเนื่องเกี่ยวกับคดีของธนาคารกรุงไทย ซึ่งศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินไปแล้ว แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่ได้มีการดำเนินคดีกับนายพานทองแท้ ชินวัตร กับพวกรวม 4 คน ในข้อหารับของโจรด้วย
นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล ผู้ตรวจการอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด อธิบายว่า จากคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ที่ตัดสินความผิดคดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย แก่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 27 คน ฐานร่วมกันสนับสนุนในการกระทำอันเข้าข่ายเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ธนาคารกรุงไทย ผู้ถือหุ้น และประชาชน หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตกระทำความผิดจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของธนาคารกรุงไทย ผู้ถือหุ้นและประชาขน ผู้ฝากเงินหรือใช้ความช่วยเหลือให้ความสะดวกในการกระทำผิด แต่ไม่ได้ดำเนินคดี นายพานทองแท้ ชินวัตร นางกาญจนาภา หงษ์เหิน นายวันชัย หงษ์เหิน และรายมานพ ทิวารี ในฐานความผิดรับของโจร
โดยระบุว่า ในการดำเนินคดี ยังมีความไม่สมบูรณ์เกี่ยวกับการแจ้งข้อกล่าวหา และอำนาจการไต่สวนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ในประเด็นการรับของโจรของนายพานทองแท้ กับพวกเห็นว่าไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่จะพิจารณาดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 อีกทั้งนายพานทองแท้ ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือนักการเมือง อัยการสูงสุดจึงไม่สามารถดำเนินคดีภายใต้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ จึงเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนที่จะต้องดำเนินการแยกการสอบสวนไปดำเนินคดีต่างหาก ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
...ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี