ผบ.ตร.ระบุ พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายจับเพิ่มเติมทั้งชาวไทยและต่างชาติ ฐานร่วมกันก่อเหตุระเบิด

31 สิงหาคม 2558, 11:38น.


ความคืบหน้าคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร หลังมีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง เป็นชายชาวต่างชาติได้ที่ย่านหนองจอก พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงผลการสอบปากคำผู้ต้องหาว่า ผลการสอบปากคำมีประโยชน์มาก ทำให้การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบบุคคลที่เกี่ยวข้องได้อีกไม่น้อย ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ขอให้ศาลอนุมัติหมายจับเพิ่มเติม แต่ต้องรอให้ศาลอนุมัติหมายจับก่อนจึงจะเปิดเผยได้ ซึ่งเชื่อว่าการที่พนักงานสอบสวนออกหมายจับจะต้องมีพยานหลักฐานแน่ชัดแล้ว 


 


โดยกระบวนการนี้มีทั้งคนไทยและต่างชาติ เนื่องจากการที่ชาวต่างชาติจะเข้ามาดำเนินการในไทย จะต้องทราบเส้นทางการเข้าออกประเทศ การหาที่อยู่อาศัย หาอุปกรณ์ประกอบระเบิด และการหาเส้นทางหลบหนีหลังการก่อเหตุ อาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือด้วย โดยกระบวนการนี้มั่นใจว่ามีไม่ต่ำกว่า 10 คน ซึ่งเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทยมานานแล้ว ส่วนที่มีสื่อรายงานว่าเข้ามาตั้งแต่ปี 2557 นั้น คือ ปีที่เข้ามาอยู่ในไทยแบบมีหลักฐานชัดเจน แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าเข้ามาอยู่ในไทยมานานกว่านี้ และขณะนี้สามารถตัดประเด็นต่างๆ ออกได้หลายประเด็น แต่ไม่ขอเปิดเผย


 


ส่วนการเข้ามาอยู่ในย่านหนองจอก คงจะมีเหตุผล อาจจะเป็นความสะดวกในการดำเนินการต่างๆ และการใช้ชีวิตอยู่ เเต่ส่วนตัวมั่นใจว่าไม่ใช่การก่อการร้ายข้ามชาติ เพราะการก่อการร้ายข้ามชาติจะต้องมีกระบวนการมากกว่านี้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าควบคุมชาวปาเลสไตน์ ยืนยันไม่มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด และขณะนี้มีผู้ต้องหาที่จับกุมได้เพียงคนเดียว


 


ส่วนเรื่องหนังสือเดินทางปลอม จำนวนหลายร้อยเล่ม ทางพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะคาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมจะต้องรอสืบสวนสอบสวนต่อไป ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนัก เพราะเกรงว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ส่วนข้อกังวลว่าอาจจะมีการก่อเหตุขึ้นอีกในขณะควบคุมตัวผู้ต้องหา ทางนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และคณะติดตามเรื่องระเบิด ได้มีการประชุมหามาตรการอย่างต่อเนื่อง สามารถมั่นใจได้ว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ 


 


ทั้งนี้ ทางผบ.ตร. ได้นำเงินจำนวน 3 ล้าน มาโชว์กับสื่อ โดยพล.ต.อ. สมยศ กล่าวว่า การดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้เป็นผลงานของเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนแต่เพียงลำพัง เป็นความสามารถล้วนๆ ไม่มีใครโทรมาแจ้งเบาะแสตามที่เป็นข่าว โดยเงินจำนวนนี้ 1 ล้าน มาจากตัวเอง ส่วนอีก 2 ล้าน มาจากเพื่อนที่เป็นนักธุรกิจ ไม่ขอเปิดเผยชื่อ นอกจากนี้ พล.ต.อ สมยศ ยังบอกอีกว่า ตัวเองมั่นใจในทีมงาน เมื่อมอบหมายหน้าที่แล้วตัวเองจะไม่ตามไล่บี้ เพราะเชื่อใจในความสามารถ และต้องการจะปล่อยให้ทีมงานทำงานกันอย่างเต็มที่


 


..ผสข.สมจิตร์ พูลสุข
ข่าวทั้งหมด

X