*นายกฯย้ำต่อไซเตส ยืนยันปราบค้างาช้าง ทำตามกม. เปรยเหมือนใช้อำนาจ ต้องใช้ทางเมตตา*

26 สิงหาคม 2558, 12:21น.


นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีบดทำลายงาช้างของกลาง ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เข้าเป็นประธาน ในพิธีบดทำลายงาช้างของกลางที่สิ้นสุดคดีและตกเป็นของแผ่นดินจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2 ตัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำลายงาช้างครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าไทยมีเจตนารมณ์แน่วแน่ และเพื่อเป็นการควบคุมงาช้าง ดูแลสิ่งผิดกฎหมาย ดังนั้นเมื่อช้างมีปัญหาเราต้องดูแล ไม่ได้ทำตามข้อเรียกร้องของไซเตสอย่างเดียว ต้องให้ความสำคัญช้างด้วย  ในอนาคต อาจต้องมีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนช้าง และ ต้องคำนึงว่า ช้างไม่ได้มีเฉพาะในไทย แต่ต่างประเทศก็มี โดยยืนยันต่อผู้แทนไซเตสว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญทุกเรื่องทั้งคน และสัตว์ รวมทั้งได้ดำเนินการตามพันธสัญญาของทุกประเทศ และสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ให้เหมาะสม เพราะบางครั้งปัญหาค้างาช้างผิดกฎหมายอาจส่งผลถึงการค้าของประเทศนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า การทำลายงาช้างครั้งนี้ก็เสียดาย เราไม่รู้หรอกว่าช้างเสียใจหรือไม่ ช้างพูดไม่ได้ สัตว์พูดไม่ได้ แต่ดูแววตาจะรู้ว่าน่าสงสาร ก็เหมือนการใช้อำนาจเราต้องใช้อำนาจในทางเมตตา เหมือนตัวเองที่ใช้แล้วก็จบไปไม่อาฆาตแค้น ซึ่งการทำโครงการครั้งนี้ต้องทำต่อเนื่องไม่ใช่ทำแล้วหยุดไป  นายกรัฐมนตรี ได้ขอขอบคุณมิตรประเทศขอบคุณไซเตส ที่ให้ความร่วมมือกันมา ทั้งหมดจะประสบผลสำเร็จได้ต้องมี 3 อย่าง คือ กฎหมาย เจ้าหน้าที่ และวิธีการปฏิบัติ และตัวเองยืนยันว่าจะไม่ขัดแย้งกับขบวนการประชาธิปไตยของโลก



สำหรับ ขั้นการทำลายงาช้างน้ำหนัก 2155.17 กิโลกรัมนั้น จะมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพุทธและพรหมณ์เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ช้างแอฟริกากว่า 200 ตัวที่ถูกฆ่าโดยฝีมือมนุษย์ ก่อนจะทำลายโดยใช้วิธีบดด้วยเครื่องบดหิน โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้กดปุ่มเครื่องบดทำลาย ทั้งนี้มีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐผู้แทนทางการทูตและองค์กรอนุรักษ์ร่วมเป็นสักขีพยานในการบดทำลายงาช้างดิบ งาช้างแกะสลัก และผลิตภัณฑ์งาช้าง โดยงาช้างที่ถูกบดทำลายก็จะถูกเคลื่อนย้ายเข้าสู่กระบวนการเผาทำลายด้วยความร้อนสูงกว่า 1,100 องศาเซลเซียส จนกว่างาช้างจะกลายเป็นกากขี้เถ้า ซึ่งกากของงาช้างที่ถูกเผาก็จะนำไปฝังกลบในลำดับต่อไป   หลังจากนี้ จะมีการมอบงาช้างของกลางน้ำหนัก 540.67 กิโลกรัมให้หน่วยงานราชการสถาบันการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ กองบิน 4 ตาคลีกรมศุลกากรนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และศิลปะวัฒนธรรม

ข่าวทั้งหมด

X