*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++หลังการปรับครม. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน วานนี้ (25 ส.ค.) ว่านายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ ครม.ชุดใหม่ที่เข้ามาทำงานจะต้องไม่มีตำแหน่งเป็นข้าราชการประจำอีกตำแหน่ง โดยให้ดำเนินการภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเคลือบแคลงในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในการทำงาน
++++สำหรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ควบตำแหน่งข้าราชการประจำอีกตำแหน่งในขณะนี้ ได้แก่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ควบตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก นางอรรชกา ศรีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งได้ลาออกจากปลัดกระทรวงแล้ว เช่นเดียวกับ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ได้ลาออกจากปลัดกระทรวงกลาโหมแล้วเช่นกัน
+++ที่ประชุม ครม.ได้มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งและโอนย้ายข้าราชการในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงรวม 12 ตำแหน่งเห็นชอบตั้งปลัดกระทรวงใหม่ 5 คน นายสมชัย สัจจพงษ์ จากอธิบดีกรมศุลกากร เป็นปลัดกระทรวงการคลัง ม.ล.ปุณฑริก สมิติ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นปลัดกระทรวงแรงงาน นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี เป็นปลัดกระทรวงคมนาคมนางสุวณา สุวรรณจูฑะ จากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอาทิตย์ วุฒิคะโร เป็นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
+++มติ ครม. ที่ให้โอนนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรฯไปดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการพิเศษ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ที่เหลืออายุราชการ อีก 2 ปี ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงเกษตรฯมาแล้ว 3 ปี ขณะนี้นายชวลิต อยู่ระหว่างร่วมงานมิลานเอ็กโปร์ ที่ประเทศอิตาลี โดยให้สัมภาษณ์ข้ามประเทศว่า ไม่ได้น้อยใจที่ถูกย้ายออกจากตำแหน่ง ที่ผ่านมาทำงานเต็มที่ เป็นปลัดกระทรวงมาถึง 3 ปีก็เผื่อใจไว้อยู่แล้วว่าจะถูกปรับเปลี่ยน ที่ยืนยันว่าการถูกปรับ ไม่เกี่ยวข้องกับกรณี ทุจริตการดำเนินโครงการแปรรูปและการตลาด
++++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 ว่า ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หาก ผบ.ทบ.คนใหม่ ไม่ใช่ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามทันทีว่า “จะเป็นหรือไม่เป็นก็ไม่เป็นไร ผมไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร"
++++นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) วันที่ 27 ส.ค.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จะปฐกถาพิเศษ เรื่องนโยบายเศรษฐกิจและทิศทางประเทศไทย ซึ่งทาง ส.อ.ท.จะเสนอให้เร่งรัดแก้ปัญหา 3 ข้อ ประกอบด้ายขอให้เร่งแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เพราะส่งผลกระทบต่อการบริโภคลดลง ดังนั้นในระยะสั้นภาครัฐต้องมีมาตรการเข้ามาพยุง หรืออุดหนุนราคา เร่งแก้ปัญหาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างเจาะลึก โดยเฉพาะในเรื่องโครงสร้างภาษี และเร่งแก้ปัญหาภาคส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อภาคประชาชน และเศรษฐกิจในประเทศ สำหรับเรื่องของโครงสร้างภาษีของเอสเอ็มอี ต้องมองแบบครบวงจร โดยเสนอให้ลดอัตราการจัดเก็บภาษีเงินได้แก่เอสเอ็มอีที่มีรายได้ไม่เกิน 200 ล้านบาท แบ่งเป็นกรณีรายได้ไม่เกิน 50 ล้านบาท เสีย 5% รายได้ไม่เกิน 100 ล้านบาท เสีย 10% และรายได้ไม่เกิน 200 ล้านบาท เสีย 15% โดยจะต้องมีการสนับสนุนให้ลงทะเบียนมีการจัดอบรมการทำบัญชี ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันเอสเอ็มอีไทยกว่า 80% ที่เลี่ยงภาษี ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้
+++ดัชนีความเชื่อมั่นในเดือน ก.ค.58 ที่ผ่านมานั้น อยู่ที่ระดับ 83.0 ปรับตัวลดลงจากเดือนมิ.ย.ที่อยู่ที่ระดับ 84.0 ซึ่งถือว่าลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 และต่ำสุดในรอบ 6 ปี 2 เดือน โดยปัจจัยหลักมาจากการชะลอตัวการเติบโตทางเศรษฐกิจ การบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการหดตัวของการส่งออกในช่วงที่ผ่านมา
+++นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า ในเดือน ก.ย.58 จะปรับเป้าผลิตรถยนต์เพื่อขายในประเทศลดลงจากเดิมที่วางไว้ 850,000 คัน เหลือ 750,000-800,000 คัน เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคยังตกต่ำ และหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ 7 เดือนแรกปี 58 (ม.ค.-ก.ค.58) อยู่ที่ 429,972 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.8%
+++หุ้นไทยผันผวน นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศมีการทบทวนการลงทุน ในตลาดหุ้น ยืนยันขณะที่พื้นฐานเศรษฐกิจของไทยยังคงแข็งแกร่ง รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงขยายตัว 6.4% ซึ่งดีกว่าบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอาเซียนที่มีอัตราการขยายตัว 4.5% ตั้งแต่ต้นปี 2558 นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไทยแล้ว 70,000-80,000 ล้านบาท แต่ยังคงมีนักลงทุน ต่างประเทศที่ยังคงถือหุ้นไทยถึง 32% หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของกลุ่มผู้ลงทุนในปัจจุบัน ดังนั้น ในภาวะที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลง จึงเป็นโอกาสของนักลงทุน เช่น กลุ่มพนักงาน ประจำที่จะลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ส่วนผู้ที่ลงทุนในหุ้นอยู่แล้ว ก็ควรที่จะประเมินจากสถานการณ์และเป็นโอกาสที่จะลงทุนยาวได้ เพราะยังมีบริษัทจดทะเบียนที่ยังมีการจ่ายเงินปันผลมากกว่า 5%
+++สถานการณ์น้ำมันที่ปรับตัวลดลง ส่งผลต่อผู้บริโภค ค่าครองชีพลดลงต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่ค่าเอฟที กันยายน-ธันวาคมนี้ ปรับตัวลดลงอีก 3-4 สต.ต่อหน่วย ราคาก๊าซลดลงต่อเนื่อง ในการประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) วันที่ 26 สิงหาคม จะมีการพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือเอฟที งวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2558 ด้วย นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงสำคัญในการผลิตไฟฟ้า ได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ตามราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอีก ซึ่งจะเป็นผลดีต่อค่าเอฟทีที่จะปรับตัวลดลงตามด้วย แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับกกพ.จะพิจารณาอย่างไร เพราะส่วนหนึ่งต้องเก็บเงินคืนกฟผ.จากที่ค้างมาในงวดก่อนๆ ด้วย
+++หลังจากพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (พงส.บก.ป.) รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับขบวนการโกงหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 51 ปี 1 ในนั้นคือ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 52 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนหรือรับของโจร โดยพ.ต.ท.บรรยินเข้ามอบตัว ที่กองปราบปราม ปฎิเสธทุกข้อหาตำรวจนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา ศาลให้ประกันตัวในวงเงิน 5 ล้านบาท ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
+++ นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริพี่สาวนายชูวงษ์ ได้เดินทางมากองปราบปราม เพื่อคัดค้านการประกันตัวพ.ต.ท.บรรยินและผู้ต้องหาที่เหลือหากเข้ามอบตัว พร้อม กล่าวว่า สิ่งที่พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำเอกสารนั้น วันนี้ก็ได้ชี้ชัดแล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทางครอบครัวสงสัยมาตลอดหลังจากพบว่าเอกสารการโอนหุ้นมีพิรุธ ตอนนี้ทางครอบครัวต้องการต่อสู้เพื่อกู้ชื่อเสียงของครอบครัวและตัวนายชูวงษ์ ขอขอบคุณตำรวจ บก.ป. และ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ช่วยติดตามหาข้อเท็จจริง รวมทั้งขอขอบคุณชาวนครสวรรค์ที่ช่วยส่งกำลังใจและข้อมูลต่างๆ อีกด้วย ส่วนกรณีการใช้ปากกาอะไรในการเซ็นเอกสารนั้นเชื่อว่าคนใกล้ชิดและพนักงานในบริษัทรู้ดีอยู่แล้ว เอกสารเก่าๆ สามารถนำมาเปรียบเทียบและยืนยันได้ว่าไม่ได้ใช้ปากกาชนิดที่พ.ต.ท.บรรยินกล่าวอ้างแน่นอน
+++ รายงานข่าวแจ้งว่าในวันที่ 26 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 คน คือ น.ส.อุรชา วชิรกุณฑล เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดบริษัท หลักทรัพย์เออีซี จำกัด (มหาชน) ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 52 ปี แม่ของน.ส.อุรชาข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร และน.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล อายุ 26 ปี พริตตี้สาวข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนหรือรับของโจร