เมืองไทยฯ(2):ผู้ต้องหานัดมอบตัวคดีนายชูวงษ์/หลายปัจจัยรุมหุ้นไทย/พลังงานพิจารณาราคาเอ็นจีวี

25 สิงหาคม 2558, 08:26น.


วันนี้ยังมีความคืบหน้าคดีนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจก่อสร้าง ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งญาติของผู้ตายมีข้อสงสัยสาเหตุการตายในหลายประเด็น รวมถึงการโอนหุ้นมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ให้กับหญิงสาว 2 คน จากนั้นศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ทั้งหมด 4 ราย คือ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 52 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.560/2558 ลงวันที่ 24 ส.ค. ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือ รับของโจร น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 52 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.561/2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุณฑล อายุ 26 ปี ตามหมายจับอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.562/2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน และน.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล ศิวาธนพล อายุ 26 ปี ตามหมายจับอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.563/2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อ ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือรับของโจร



โดยในช่วงเช้านี้ พ.ต.ท.บรรยิน จะเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนที่กองปราบปราม พร้อมเตรียมหลักทรัพย์ไปยื่นขอประกันตัวด้วย ซึ่ง พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า การถูกออกหมายจับไม่ได้หมายความว่ากระทำความผิด เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบพยานเพียงด้านเดียว



เมื่อวานนี้ ศาลอาญา รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีดำ อ.639/2558 ที่อัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักย์ศิริ อายุ 69 ปี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีต ส.หส.เพื่อไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง และพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ตามที่ บริษัท บี.พี.ซี.เทรดดิ้ง จำกัด (ประเทศกัมพูชา) สั่งซื้อปูนซีเมนต์ในลักษณะจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเว็บไซต์ และบริษัทออกหลักฐานใบเก็บเงินเป็นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน แต่จำเลยกับพวกร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่สร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้ได้รับความเสียหาย หลังการพิเคราะห์แล้ว ศาลให้นัดสืบพยานโจทก์ ครั้งแรกวันที่ 4 มีนาคม ปีหน้า ซึ่งในขณะนี้ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ถูกจำคุก 1 ปี ในคดีฉ้อโกงประชาชนกรณีดำเนินการจัดสร้างองค์จตุคามรามเทพ เมื่อปี 2550



ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ มีแรงเทขายอย่างหนักตั้งแต่ตลาดเปิดทำการซื้อขาย โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง เนื่องจากกังวลภาวะเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัว ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่องตลอดวันทำการ และปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 1,301.06 จุด ลดลง 64.55 จุด หรือลดลงร้อยละ 4.73 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 1 ปี 6 เดือน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 60,491.34 ล้านบาท ทั้งนี้แรงขายสุทธิเป็นของนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,775.20 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,508.97 ล้านบาท ขณะที่ตลาดเงินทั่วโลกก็ค่อนข้างผันผวน โดยค่าเงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางค่าเงินในภูมิภาคด้วยเช่นกัน



นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงรุนแรงน่าจะมาจากหลายเหตุผล โดยมีปัจจัยหลักมาจากต่างประเทศ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในการลงทุนคล้ายกับเหตุการณ์แบล็กมันเดย์ ดังนั้น แม้ตลาดหุ้นไทยจะมีพื้นฐานดี แต่ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลงแรงมาก ก็คงหลีกเลี่ยงผลกระทบไม่ได้ แต่เชื่อว่าหลังจากรัฐบาลผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาสถานการณ์น่าจะดีขึ้น



นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับลงรุนแรงทิศทางเดียวกับตลาดอื่นๆ ทั่วโลก ดังนั้นการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจควรพิจารณาด้วยความระมัดระวัง ต้องคำนึงถึงผลกระทบระยะสั้น ระยะยาว และจะไม่ให้น้ำหนักกับปัจจัยใดมากเกินไป โดยเฉพาะตลาดหุ้น ซึ่งอาจเป็นการผันผวนในระยะสั้นเท่านั้น ส่วนทางด้านตลาดการเงินในประเทศยังคงเคลื่อนไหวสอดคล้องกับตลาดการเงินอื่นในภูมิภาค



นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์แถลงภาวะสังคมไทยไตรมาสที่ 2/2558 ซึ่งมีความเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญ ประกอบด้วย อัตราการว่างงานต่ำ ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นช้า และคาดว่าจะมีผู้ว่างงานในไตรมาสสอง 3 แสนคน อัตราการว่างงานร้อยละ 0.88 ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันจากปีก่อน นอกจากนี้ประเด็นที่ต้องติดตามคือรายได้ของแรงงาน และการเฝ้าระวังการเลิกจ้างแรงงานจากผลกระทบส่งออกที่ยังมีแนวโน้มลดลง และการย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยไปยังประเทศ เพื่อนบ้าน



ขณะที่หนี้สินครัวเรือนยังต้องเฝ้าระวังอย่างมาก โดยในไตรมาสแรกเท่ากับ 10 ล้าน 5 แสน 7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 คิดเป็นร้อยละ 79.9 ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แนวโน้มหนี้สินครัวเรือนชะลอตัวลง โดย ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2558 ยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.7 ในไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว โดยหนี้สินที่ก่อให้เกิดสินทรัพย์ และกึ่งสินทรัพย์ (ที่ดิน ที่อยู่อาศัย รถยนต์และรถจักรยานยนต์) เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 ในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว



ส่วนเรื่องของพลังงาน พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ราคาเอ็นจีวีที่ขณะนี้ต่ำกว่าต้นทุนที่ประมาณ 14 บาท/กก. ในขณะที่ราคาขายปลีกอยู่ที่ 13 บาท/กก. ดังนั้น หากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบให้ราคาสะท้อนต้นทุน ก็คงจะต้องปรับไปตามนั้น ส่วนที่กลุ่มรถบรรทุกเสนอว่าให้ลดราคาลงมาโดยอ้างเรื่องภาวะเศรษฐกิจ ก็คงจะต้องไปดูว่าที่ผ่านมาราคาดีเซลลดลงมา แล้วผู้ประกอบการขนส่งได้ลดค่าขนส่งตามต้นทุนหรือไม่ ส่วนเรื่องภาษีแอลพีจีภาคขนส่ง ยังมีเวลาพิจารณาเพราะกฎหมายเรื่องภาษีอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง ซึ่งก็ต้องพิจารณาเรื่องความเป็นธรรม รถควรจะจ่ายภาษีในอัตราเท่าเทียมกัน แต่ก็ต้องพิจารณาถึงว่าประชาชนจะเดือดร้อนหรือไม่



นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน สั่งการให้ตรวจสอบกรณีผู้ผลิตบางรายที่ได้ใช้วิธีการปรับลดขนาดบรรจุภัณฑ์ ทั้งแบบขวด แบบถุง แบบซอง แล้วจำหน่ายสินค้าในราคาเดิมซึ่งเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค เพราะผู้บริโภคจะได้รับปริมาณสินค้าลดลงในราคาเดิม โดยสินค้าที่ได้รับทราบข้อมูลว่ามีการใช้วิธีการปรับลดขนาด เช่น น้ำยาซักฟอก ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม สบู่เหลว แชมพู น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ เป็นต้น



และนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ (ธพส.) เปิดเผยว่า ธพส.ได้รับความเห็นชอบจากกรมราชทัณฑ์ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ศึกษาเพิ่มเติม เรื่องการทำแผนระดมทุน เพื่อเสริมสภาพคล่อง ด้วยการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (ซีเคียวริไทเซชั่น) ระดมเงิน 17,000-20,000 ล้านบาท นำมาสร้างเรือนจำใหม่ 17 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะเรือนจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เช่น ขอนแก่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชุมพร เพื่อแก้ปัญหานักโทษล้นเรือนจำ ประกอบกับบางแห่งกลายเป็นแหล่งชุมชน โดยในขณะนี้กระทรวงการคลัง เห็นชอบในหลักการแล้ว และกำลังสรุปขั้นตอนการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค เช่น ผังเมือง แผนก่อสร้างทั้งหมด เพื่อเสนอให้ ครม.ใน 6-8 เดือนหลังจากนี้



*-*

ข่าวทั้งหมด

X