ในวันนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แต่เมื่อวานนี้รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีใหม่ก็เริ่มต้นการทำงานกันแล้ว โดยการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ มีวาระที่น่าสนใจคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะแบ่งงานให้กับรองนายกรัฐมนตรี และจัดลำดับในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ขณะที่วาระสำคัญคือการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับปลัดกระทรวงหลายกระทรวง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการจัดทำบัญชีรายชื่อนายทหารระดับชั้นนายพลประจำปี 2558 ว่า ขณะนี้ได้ส่งบัญชีรายชื่อรวมถึงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้านพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่าการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 เป็นระยะเวลาปกติตามฤดูกาลที่จะต้องพิจารณา
ด้านนายเตช บุนนาค อดีตรัฐมนตรีการต่างประเทศแสดงความเห็นว่า การต่างประเทศของไทยนั้นถูกบังคับโดยเหตุการณ์ระหว่างประเทศมาโดยตลอด ซึ่งไทยก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะรักษาท่าที รักษาพื้นที่ของประเทศไทยในอาเซียนและในวงการระหว่างประเทศ และ ที่สำคัญคือจะต้องทำให้ต่างประเทศเข้าใจไทยให้มากขึ้น
ส่วนในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ เป็นประธานในที่ประชุมมีวาระพิจารณาบันทึกเจตนารมณ์รายมาตราจำนวน 285 มาตรา ให้แล้วเสร็จ เพื่อให้สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้อ่านประกอบกับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญทั้ง 285 มาตรา ให้เกิดความเข้าใจมากกว่าการอ่านตัวบทบัญญัติเพียงอย่างเดียว ขณะนี้ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง
ส่วนในการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง และคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สปช. เพื่อหารือและวิเคราะห์ร่างรัฐธรรมนูญที่ สปช.ได้รับจาก กมธ.ยกร่างฯ จากนั้นนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธาน กมธ.ปฏิรูปการเมือง แถลงว่า เป็นการหารือนอกรอบเพื่อวิเคราะห์ร่างรัฐธรรมนูญที่ได้รับมา พบว่ามีปัญหาอยู่ 3 เรื่องคือไม่มีคำปรารภ กรณีการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและ การปรองดองแห่งชาติ (คปป.) มาตรา 260 และเรื่องระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม และที่มา ส.ว.
นายมานิจ สุขสมจิตร รองประธาน กมธ.ยกร่างฯ คนที่ 2 เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 สิงหาคม เวลา 14.00 น. ตัวแทนกมธ.ยกร่างฯ จำนวน 4 คน จะไปร่วมประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พร้อมตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อหารือเรื่องการทำประชามติ เพราะหากที่ประชุม สปช.ลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 6 กันยายน กกต.จะต้องเดินหน้าทำประชามติทันที
และที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช.จะพ้นวาระการทำงานในวันที่ 21 กันยายนนี้ เช่นเดียวกับนายประสาท พงษ์ศิวาภัย นายภักดี โพธิศิริ นายวิชา มหาคุณ และ นายวิชัย วิวิตเสวี แต่ตามกฎหมายต้องทำงานต่อจนกว่าจะมีกรรมการใหม่ดำรงตำแหน่งแทน จึงพยายามเร่งรัดคดีสำคัญหลายคดีรวมถึงคดีสลายการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ขณะนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนได้นัดสอบพยานกับนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ประธานคณะกรรมการเพื่อติดตามสถานการณ์บ้านเมืองซึ่งแต่งตั้งโดยวุฒิสภา เป็นพยานที่ นพ.เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) อ้างเพิ่มเติม คงสามารถสรุปคดีได้ก่อนวันที่ 21 กันยายน
ส่วนคดีระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ และเหตุระเบิดที่ท่าเรือสาทร เมื่อวันที่ 17 และ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่าการสืบสวนสอบสวนคดีมีความคืบหน้าและขอขอบคุณพลเมืองดีที่แจ้งข้อมูลอันเป็นประโยชน์ แต่ก็ประณามผู้ที่แจ้งข้อมูลเท็จ
ส่วน พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่ามีการสอบปากคำพยานไปแล้ว 133 ปาก รอสอบปากคำผู้บาดเจ็บอีก 54 คน ในจำนวนนี้มี 3 คนที่เป็นชาวต่างชาติและได้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อใช้ช่องทางทางการทูตเชิญตัวผู้เสียหายเหล่านี้มาให้ปากคำ ส่วนที่เหลืออีก 21 คน ยังไม่สามารถให้การได้เพราะอยู่ระหว่างรักษาตัวในห้องไอซียู
การติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุที่ท่าเรือสาทร แนวทางการสืบสวนเชื่อว่า เหตุระเบิดที่ราชประสงศ์และท่าเรือสาทรมีความเชื่อมโยงกัน เนื่องจากระเบิดที่พบเป็นชนิดเดียวกัน
ยังมีกรณีของเว็บไซด์จังหวัด และส่วนราชการถูกแฮ็กเกอร์เจาะระบบนับสิบแห่ง ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม เช่น เว็บไซต์จังหวัดลำพูน , เว็บไซต์จังหวัดอุบลราชธานี , เว็บไซต์จังหวัดตาก , เว็บไซต์จังหวัดสิงห์บุรี , เว็บไซด์จังหวัดสระแก้ว , เเว็บไซต์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม , เว็บไซต์โรงพยาบาลลำลูกกา โดยมีการประกาศชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นฝีมือของกลุ่มมุสลิมจากตูนิเซีย ใช้ชื่อว่า Fallag Gassrini & DR Lamouchi พร้อมโพสต์ภาพชะตากรรมของชาวโรฮีนจา และว่านี่คือสารที่เป็นต้นเหตุของปฏิบัติการ ทั้งบอกว่า แอดมินผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่ต้องกังวล เพราะนี่เป็นเพียงการส่งสารเท่านั้น และแอดมินสามารถรีเซตเว็บไซต์เพื่อใช้งานใหม่ได้หลังจากนี้
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช.กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว และให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ตรวจสอบแล้ว
สำหรับกลุ่ม Fallaga Team ตั้งชื่อตามกลุ่มติดอาวุธต่อสู้กับเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส ผู้ยึดครองตูนิเซียโดยแฮกเกอร์กลุ่มนี้มีประวัติเคยแฮกเว็บไซต์ของฝรั่งเศสมากว่า 19,000 เว็บไซต์ หลังเหตุก่อการร้ายกราดยิงภายใน สำนักพิมพ์ ชาร์ลี แอบโด ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
*-*