*รอบวัน(2):อุตุฯ เผยช่วงนี้ฝนน้อย/ก.ท่องเที่ยว–ททท.เร่งเรียกความเชื่อมั่น/คิกออฟกองทุนการออมแห่งชาติ*

20 สิงหาคม 2558, 09:04น.


+++สภาพอากาศในช่วงนี้ ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศพม่าและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนน้อย เว้นแต่ภาคเหนือมีฝนตกมากกว่าภาคอื่นๆ ในระยะนี้ ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนพายุไต้ฝุ่นโคนี บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวไปทางบริเวณเกาะไต้หวัน ในช่วงวันที่ 22-23 สิงหาคม 2558 ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย พายุนี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย



+++การช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุระเบิด นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในที่ประชุม วอร์รูม ว่า ขณะนี้ข้อมูลอย่างเป็นทางการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต 20 ศพ ในจำนวนนี้สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า เป็นชาวไทย 7 ศพ ต่างชาติ 7 ศพ แบ่งเป็น มาเลเซีย 2 ศพ จีน 2 ศพ ฮ่องกง 2 ศพ สิงคโปร์ 1 ศพ และ ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์ 6 ราย โดยยังไม่สามารถติดต่อญาติได้ เนื่องจากไม่มีเอกสารหลักฐาน ต้องรอการพิสูจน์อัตลักษณ์เทียบกับญาติ ล่าสุด มีรายงานว่า ชิ้นส่วนสองชิ้น เป็นของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่ญาติแจ้งหาย และนักท่องเที่ยวจีน ที่สถานทูตจีนแจ้งหาย เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบแล้ว นอกจากนี้ สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.) กำลังเร่งกระบวนการดังกล่าว สำหรับผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 123 คน  ยังต้องอยู่ ในโรงพยาบาล 68 คน เป็นชาวต่างชาติ 22 คน คนไทย 46 คน ในจำนวนนี้ยังอยู่ในหอผู้ป่วยหนัก 12 คน เป็นชาวต่างชาติ 7 คน คนไทย 5 คน โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยเป็นแผลไหม้ แผลจากชิ้นส่วนระเบิด กระดูกหัก



+++อย่างไรก็ตาม ญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต ทยอยเดินทางมารับศพนำกลับไปบำเพ็ญกุศล ส่วนล่าม ก็ยังชี้แจงเรื่องเอกสารและช่วยสื่อสารเพื่ออำนวยความสะดวก กระทรวงยุติธรรม และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มอบเงินช่วยเหลือ  



+++การเดินหน้าเรียกความเชื่อมั่น นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เตรียมใช้โอกาสที่จะเดินทางร่วมกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ไปร่วมโรดโชว์ในเมืองเฉินตู ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 2-3 ก.ย. เพื่อขอเข้าพบนายหลี่ จินเจา ประธานองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ซีเอ็นทีเอ) ซึ่งเป็นองค์กรใหญ่สุดและเป็นศูนย์กลางดูแลการท่องเที่ยวของจีนทั้งหมด เพื่อยืนยันมาตรการรักษาความปลอดภัยและดูแลนักท่องเที่ยวจีนในไทย  นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปติดต่อขอเข้าพบผู้นำด้านการท่องเที่ยวของจีน เพราะต้องการย้ำเตือนความมั่นใจโดยเร็วที่สุด โดยในปีนี้ตั้งเป้าว่าตลาดจีนจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาราว 7.4-7.5 ล้านคน



+++ด้านนายศุกรีย์ สิทธิวณิช รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า วางมาตรการสร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไว้ 3 ระดับ เริ่มต้น ด้วยการนำเสนอข้อมูลและข้อเท็จจริงจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับถ่ายทอดภาพเหตุการณ์จริงในเชิงบวกที่ยังสะท้อนให้เห็นมุมมองที่ดี เช่น ความมีมิตรไมตรีในการประสานงานช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ  ระดับต่อมา จะเปิดแคมเปญใหญ่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับเข้ามา เช่น แคมเปญไทยแลนด์ เบสต์ เฟรนด์ ฟอร์เอฟเวอร์ (ไทยแลนด์ บีเอฟเอฟ) เพื่อสร้างการรับรู้ความพร้อมรองรับท่องเที่ยวให้ทันในไฮซีซันนี้ ซึ่งกำลังพิจารณาว่าอาจมุ่งเป้าไปที่การกระตุ้นตลาดยุโรปเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังต้องสร้างความเชื่อมั่นระดับรัฐต่อรัฐ



+++นายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ ทิก้า กล่าวว่า จากการประชุมทางไกลของคณะกรรมการสมาคมศัลยแพทย์นานาชาติ ผู้จัดงานประชุมนานาชาติ "เวิลด์ คองเกรส ออฟ เซอร์เจอรี" หรือการประชุมศัลยแพทย์โลกครั้งที่ 43 มีมติยังคงเลือกกรุงเทพฯ เป็นเมืองเจ้าภาพในการจัดงานระหว่างวันที่ 23-27 ส.ค.นี้ ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์  โดยระหว่างการประชุมมีผู้บริหารระดับสูงยืนยันว่า สมาคมฯ ควรตัดสินใจย้ำจุดยืนเดิมเพื่อเป็นผู้นำเป็นตัวอย่างให้เห็น



+++ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เตรียมหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดงาน ไทยแลนด์ โฟกัส ที่กำหนดจะจัดงานวันที่ 26-28 ส.ค. ณ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ตลาดหลักทรัพย์ จะหารือกับผู้ที่ร่วมจัดงาน ทั้ง บล.ภัทร  และ Bank of America Merrill Lynch เพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนการจัดงานอีกครั้ง นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การจัดงานไทยแลนด์ โฟกัส เบื้องต้น ผู้จัดยังยืนยันการจัดงานเช่นเดิม แต่ยอมรับว่า จากปัญหาระเบิดที่เกิดขึ้น ทำให้ต้อง ประเมินสถานการณ์ถึงความเสี่ยงในอนาคตเพิ่มขึ้นด้วย นักลงทุนสถาบันต่างประเทศ มากกว่า 100 รายได้ตอบรับ  นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) BANPU เปิดเผยว่า บริษัทยังยืนยันการเข้าร่วมงานตามเดิม โดยกำหนดการที่จะพบนักลงทุนต่างชาติของบริษัทอยู่ในวันที่ 27 ส.ค. ส่วนตัวมองว่า งานไทยแลนด์ โฟกัส น่าจะเดินหน้าจัดต่อไปเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน เป็นงานที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันและนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จากต่างประเทศทั่วโลก ได้รับฟังนโยบายรวมไปถึงยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ องค์กรธุรกิจที่สำคัญจากหน่วยงานภาครัฐบาลและเอกชน จากสหรัฐฯ แคนาดา ยุโรป และเอเชีย



+++หุ้นไทยรีบาวด์เล็กน้อยขานรับปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปิดตลาด ขยับขึ้น 6.51 จุด ที่ระดับ 1,379.12 จุด มูลค่าซื้อขาย 46,232.53 ล้านบาท



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นการเปิดรับสมัครสมาชิกการออมภาคสมัครใจวันแรก ผ่านทางธนาคารของรัฐ 3 แห่ง เพื่อสร้างความมั่นคงในยามเกษียณให้กับคนไทยที่ประกอบอาชีพอิสระกว่า 24 ล้านคนทั่วประเทศโดยเริ่มคิกออฟอย่างเป็นทางการในวันนี้



+++นายสมพร จิตเป็นทม เลขาธิการกอช. กล่าวว่า กอช.จัดตั้งขึ้นมาจากแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ต้องการส่งเสริมให้คนไทยมีการออมเงินไว้ใช้ยามแก่ชราและไม่มีลูกหลานคอยเลี้ยงดู โดยหลักการของ กอช.ต้องการให้ประชาชนสะสมเงินของตัวเองส่วนหนึ่งกับเงินสมทบของรัฐบาลอีกส่วนหนึ่ง เป็นการช่วยกันออม จะได้สร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองในอนาคต  ทั้งนี้เป้าหมายแรงงานอกระบบที่อยากให้สมัครเป็นสมาชิก กอช. จะเป็นกลุ่มที่ไม่มีการคุ้มครองโดยรัฐ เช่น อาชีพค้าขาย คนขับแท็กซี่ คนขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เกษตรกร  ทนายความ นักบัญชี และรวมไปถึงนักเรียน นักศึกษาที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จนถึงอายุไม่เกิน 60 ปี สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ได้



+++มาที่ความเคลื่อนไหวเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ 19-20  ส.ค. คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.) เชิญตัวแทนจากสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะรัฐมนตรี มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับสุดท้ายที่ได้มีการแก้ไขเสร็จสมบูรณ์วันนี้  นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ เชิญตัวแทนผู้ยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญจาก สปช.และคณะรัฐมนตรี ( ครม.) จำนวน 9 กลุ่ม มารับฟังหลักการและเหตุผลในการปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ



+++ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ที่ปรึกษาและโฆษก กมธ.ยกร่างฯ กล่าวว่า กมธ.ยกร่างฯได้ประสานงานกับ สปช.ว่าหลังจากส่งร่างรัฐธรรมนูญให้ สปช.ได้พิจารณาแล้วในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ กมธ.ยกร่างฯ และ สปช.จะจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญเป็นการภายใน โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมฟังในวันอังคารที่ 25 สิงหาคม ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กทม. ทาง กมธ.ยกร่างฯจะชี้แจงและอธิบายภาพรวมของเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นจะเปิดให้สมาชิก สปช.ซักถามในประเด็นสงสัยอย่างเต็มที่ วันที่ 26 สิงหาคม ทาง กมธ.ยกร่างฯจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญภายหลังได้เห็นเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญทั้งหมดแล้วเช่นกัน



+++ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และนายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ดำเนินรายการ สายล่อฟ้า ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกาย เป็นจำเลยที่ 1-3  ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติงาน นื่องจากมีเนื้อหาหมิ่นประมาทใส่ความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้เสียหาย ทำนองว่าโดดภารกิจการประชุมของรัฐสภา และน่าจะกระทำภารกิจ ว.5 ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น นายชวนนท์และนายเทพไทเดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมทนายความ ส่วนนายศิริโชคไม่ได้เดินทางมาศาล โดยทนายความแถลงต่อศาลว่าติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยที่ 3 มีเหตุขัดข้องไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ให้เลื่อนฟังคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 27 สิงหาคม



+++การเสียชีวิตของนายชูวงษ์  แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน ที่ญาติพี่น้องยังติดใจในสาเหตุการตายในรถยนต์เล็กซัส ที่มี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็น ผู้ขับขี่ และกรณีการโอนหุ้นมูลค่ารวมเกือบ 300 ล้านบาทให้ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล แคดดี้สาว และน.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาวคนสนิทก่อนเสียชีวิต โดยในคดีการโอนหุ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเก็บและตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมสืบพยานไปแล้วหลายปาก รวมทั้งมีการเปิดเผยข้อสงสัยมาเป็นระยะ ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่ได้และเอกสารหลักฐานคำให้การต่างๆ ตลอดจนผลตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน และนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำทั้งหมดมาประมวลผลวิเคราะห์ ทั้งการตรวจสอบเรื่องการโอนหุ้น และผลการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ที่ตรวจยึดมาได้จากบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแตนดาร์ด เพอร์ฟอแมนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของนายชูวงษ์ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)  คาดว่าไม่เกิน 1-2 วัน ก็จะสามารถที่จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนที่จะดำเนินการออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิด โดยพบว่ามีผู้เข้าข่ายกระทำความผิดมากกว่า 2 ราย โดยคดีทั้งหมดคาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X