+++ต่างชาติหลายประเทศแสดงความเสียใจและยืนยันที่จะให้กำลังใจประเทศไทย จากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอบคุณนายโทนี แอ็บบอตต์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ที่บอกให้ชาวออสเตรเลียเดินทางมาเที่ยวไทยต่อ ยืนยันเจ้าหน้าที่พยายามคลี่คลายปัญหาอย่างเต็มที่ด้วยการใช้กฎหมายของประเทศไทย พร้อมทั้งขอบคุณและให้กำลังใจกลับไปที่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย เพราะมีชาวมาเลเซียเสียชีวิตด้วย สายการบินแห่งชาติมาเลเซีย ระบุว่า ไม่มีการยกเลิกเที่ยวบินมากรุงเทพฯ ขณะที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ติดต่อมายังพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเข้าใจและเห็นใจ โดยยืนยันว่าจะไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีน ด้านสหรัฐฯ ให้กำลังใจให้ไทยแก้ปัญหา ส่วนกรณีอังกฤษขอส่งเจ้าหน้าที่ร่วมสอบสวนคดี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พร้อมรับคำแนะนำการแก้ปัญหา แต่ไม่สามารถให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องในการสอบสวนคดีได้
+++สื่ออังกฤษ เปิดเผย มุมมองของนักข่าวการท่องเที่ยวอังกฤษต่อกรณีที่เกิดขึ้น นายไซมอน คัลเดอร์ นักข่าวการท่องเที่ยว หนังสือพิมพ์อินดิเพนเดนท์ของอังกฤษ เขียนตอบคำถามผู้อ่านเกี่ยวกับประเทศไทย นายคัลเดอร์ ตอบคำถามเรื่องการเดินทางมาเที่ยวไทยว่า เหตุรุนแรงครั้งล่าสุดในกรุงเทพฯถือว่ารุนแรงกว่าทุกครั้ง แต่จากสถิติโอกาสเสี่ยงที่จะมีนักท่องเที่ยวติดค้างอยู่ท่ามกลางเหตุรุนแรงที่มีคนเสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ถือว่าน้อยมาก ดังนั้นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ในละปีนักท่องเที่ยวอังกฤษราว 9 แสนคนนิยมเดินทางมาที่ประเทศไทยในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากอากาศดี นอกจากบริเวณที่เกิดเหตุระเบิดในกรุงเทพฯแล้ว นักท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ ของไทยยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ส่วนในเมืองหลวง รัฐบาลไทยเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยตามสนามบิน สถานีรถไฟ รถโดยสาร ในกรุงเทพฯ อาจจะมีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงประจำอยู่ตามย่านที่มีนักท่องเที่ยว เช่น ถนนข้าวสาร อาจจะมีการตรวจค้นตัวและกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางโดยรถประจำทางไป-กลับจากแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งมากกว่าปกติในช่วงนี้ เช่น ภูเก็ตและเชียงใหม่
+++ความคืบหน้าคดี เมื่อช่วงเย็นเมื่อวานนี้ ศาลออกหมายจับตามที่พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เสนอ เป็นชายไม่ทราบสัญชาติ ตามภาพสเกตช์ที่ตำรวจได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อมต่างๆ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทำให้เกิดระเบิด ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและมีผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย, ร่วมกันพกพาระเบิดที่ออกใบอนุญาตไม่ได้ไว้ในครอบครอง พกพาอาวุธ (ระเบิด) ไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
+++ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบผู้ต้องสงสัยที่เป็นชาวต่างชาติประมาณ 2-3 คน เนื่องจากมีลักษณะของใบหน้าที่คล้ายกับชายต้องสงสัยในภาพวงจรปิดยืนยันว่าไม่ได้เป็นการจับกุมและผู้ต้องสงสัยที่นำมาตรวจสอบในตอนนี้ยังไม่ใช่คนร้าย พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า นอกจากการติดตามชายเสื้อเหลืองแล้ว จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า มีชายเสื้อแดงลุกขึ้นให้ชายเสื้อเหลืองนั่ง จากนั้นชายเสื้อแดงและชายเสื้อขาวได้ยืนคู่กันคล้ายกับจะช่วยบัง ขณะที่ชายเสื้อเหลืองวางเป้ที่สะพายมาไว้ที่ม้านั่ง จากนั้นทั้งสองคนเดินออกไปในเวลาไล่เลี่ยกับชายเสื้อเหลืองเดินตามออกไป ทั้งนี้ ต้องตามบุคคลทั้งสามมาสอบสวนต่อไป พร้อมสอบปากคำพยานวินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่รับผู้ต้องสงสัย เพื่อหาเบาะแสเส้นทางผู้ต้องสงสัย ส่วนรถตุ๊กตุ๊กที่รับคนร้ายไปส่งบริเวณที่เกิดเหตุ ชุดสืบสวนพบว่ากล้องวงจรปิดบริเวณสี่แยกศาลาแดงสามารถจับภาพคนร้ายขณะนั่งอยู่ในรถสามล้อสาธารณะได้ในเวลา 18.30 น. ของวันที่ 17 ส.ค.เร่งติดตามตัวคนขับรถสามล้อดังกล่าวมาสอบสวน
+++มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณ ได้เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะท้าวมหาพรหมได้ตามปกติแล้ว หลังจากเมื่อคืนวันอังคาร เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมรั้วเหล็กของศาลท้าวมหาพรหมที่ถูกแรงระเบิดจนทำให้รั้วเหล็กด้านหน้าหนาประมาณ 2 นิ้ว สูงประมาณ 1.50 เมตร โค้งงอผิดรูป และบางส่วนขาดออกจากกัน แต่คณะนางรำยังไม่เปิดให้บริการ ทั้งนี้ โดยรอบศาลท้าวมหาพรหมมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ลุมพินี และตำรวจท่องเที่ยว 15 นาย ดูแลความปลอดภัย
+++กรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับรัฐบาล ตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือประชาชนและเยียวยานักท่องเที่ยวบริเวณแยกราชประสงค์ ระหว่างเวลา 08.00-20.00 น. ทุกวัน และในวันพรุ่งนี้ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนา 5 ศาสนาให้แก่ผู้ประสบเหตุด้วย
+++ตำรวจขยายผลหลังจากที่นายพงศ์ภพ บุญสารี เข้าให้ปากคำกับตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. จากกรณีเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ วิชเวช พรหมรักษา โพสต์ข้อความเมื่อกลางดึกวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา เตือนว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ระหว่างวันที่ 14-18 สิงหาคม โดยให้ระวังพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบกลุ่มการเมือง เพื่อสืบหาต้นตอของผู้โพสต์ข้อความคนแรก ยอมรับว่า คัดลอกข้อความมาเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากมีการติดต่อกับตำรวจ และไม่มีเจตนาหลบหนี
+++ส่วนความคืบหน้าการงมหาชิ้นส่วนวัตถุระเบิดที่คนร้ายโยนลงมาจากสะพานตากสิน ใกล้เคียงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสตากสินและท่าเรือสาทร พ.ต.อ.สัญชัย มาตร์คำจันทร์ รอง ผกก.สส.สน.ยานนาวา พร้อม พ.ต.ท.ธรรศพงศ์ พัฒนกิตติสกุล สวป.สน.ยานนาวา นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและสายตรวจเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หาพยานและหลักฐานเพิ่มเติมพร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจำลองสถานการณ์ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตสาทร ช่วยสูบน้ำในจุดที่ระเบิดตกออก เจ้าหน้าที่พบเศษเหล็กจากท่อไปป์บอมบ์ ยาว 7 นิ้ว และชิ้นส่วนลูกปรายจำนวนหนึ่ง จึงมอบให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบต่อไป
+++เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า มีทั้งปรับตำแหน่งเพื่อเอาคนใหม่เข้ามา สลับหมุนเวียนด้วย การปรับไม่ได้ถือว่าบกพร่อง เพราะถือว่าได้เริ่มต้นไว้ให้แล้ว 1 ปี ทำงานหนัก หลายคนก็สูงอายุแล้ว ก็ให้ได้พักผ่อนบ้างและมาช่วยเป็นที่ปรึกษาและทุกคนก็ตอบรับดี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทีมเศรษฐกิจถูกปรับยกชุด เป็นการหมุนเวียน และสภาวะแวดล้อมปัจจัยภายในภายนอกทำให้เศรษฐกิจไทยมีปัญหาหมด
+++พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การทำงานในระยะที่ 1 มีปัญหามาก คนที่ทำงานมาก่อนเขาแก้ปัญหาให้ในการเดินหน้าประเทศในระดับมหภาคเขาทำแล้ว ส่วนการลงรายละเอียดในระยะสองต้องเหน็ดเหนื่อยและเร่งรีบตามเวลารัฐธรรมนูญกำหนดประมาณปีกว่าก็ต้องว่าไปตามนั้น ครม.ชุดใหม่เข้ามาต้องทำงานหนักกว่าชุดแรกด้วยซ้ำ เพราะจะให้ทำเรื่องของการปฏิรูปด้วย โดยนำข้อมูลการปฏิรูปของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มาพิจารณากลั่นกรองว่าเรื่องใดควรทำต่อ เพื่อส่งแผนการปฏิรูปให้กับคณะกรรมการขับเคลื่อนชุดใหม่ถ้าจะต้องมี และก็น่าจะต้องมีเพราะจะต้องอยู่ไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง
+++สำหรับรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่มีการปรับเข้ามาใหม่จำนวน 10 คน ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายอุตตม สาวนายน เป็น รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ หรือบิ๊กโย่ง เป็น รมว.พลังงาน พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เป็น รมว.แรงงาน นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ เป็น รมช.ศึกษาธิการ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็น รมว.สาธารณสุข นางอรรชกา สีบุญเรือง เป็น รมว.อุตสาหกรรม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็น รมช.พาณิชย์
+++ส่วนรายชื่อผู้ที่ปรับสลับตำแหน่ง 9 ตำแหน่ง ประกอบด้วย พล.อ. ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เป็นรองนายกฯ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ เป็นรองนายกฯ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง จาก รมว.คมนาคม เป็นรองนายกฯ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ เป็นรองนายกฯ นายดอน ปรมัตถ์วินัย จาก รมช.ต่างประเทศ เป็น รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ จาก รมว.พาณิชย์ เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ จาก รมช.คมนาคม เป็น รมว.คมนาคม นางอภิรดี ตันตราภรณ์ จาก รมช.พาณิชย์ เป็น รมว.พาณิชย์ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ จาก รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็น รมว.ศึกษาธิการ
+++นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขอฝากทีมเศรษฐกิจและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่สานต่อการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งขณะนี้ศึกษาครอบคลุมแล้วรอเพียงเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา หากรัฐมนตรีคลังคนใหม่จะดึงกลับมาทบทวนใหม่สามารถทำได้
+++นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) หวังว่า ทีมเศรษฐกิจใหม่น่าจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนได้และน่าจะแก้ปัญหาภาคเอสเอ็มอีได้
+++นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล ที่ปรึกษาสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนต้องการให้ทีมเศรษฐกิจของครม.ชุดใหม่พิจารณาการจัดทำแผนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลแต่ละสมัยเน้นการใช้นโยบายหรือการเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในระยะสั้นๆ เป็นหลัก เบื้องต้นควรใช้แผนฯ 20 ปีไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศ, การลงทุน การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตร เป็นต้น ซึ่งจะทำให้เอกชนสามารถทำแผนในการลงทุนระยะยาวในประเทศได้ชัดเจนด้วย