+++รัฐสภาเยอรมนี ลงมติอย่างท่วมท้น 454-113 เสียง สนับสนุนแผนการช่วยกอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจครั้งที่ 3 ช่วยเหลือกรีซ มีส.ส.งดออกเสียง 18 คน ในการอนุมัติเงินกู้ครั้งใหม่สำหรับกรีซ ช่วยให้กรีซไม่ผิดนัดชำระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระ 3,200 ล้านยูโร ให้กับธนาคารกลางแห่งยุโรปในวันนี้ การลงมติครั้งนี้สวนทางกับกระแสคาดการณ์ที่ว่า นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล อาจจะพบความยากลำบากในการโน้มน้าวส.ส.60 คนในพรรคคริสเตียน เดโมแครต ที่คัดค้านเรื่องนี้ ให้ยอมลงมติสนับสนุนการช่วยเหลือกรีซเป็นครั้งที่ 3 กรีซจะต้องปรับลดค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก ปรับขึ้นภาษีและผลักดันมาตรการปฏิรูปครั้งใหญ่เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตในระยะยาว
+++ธนาคารกลางเวียดนาม ประกาศลดค่าเงินด่องเป็นครั้งที่ 3 ของปี ธนาคารกลางเวียดนามปรับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงลงร้อยละ 1 อยู่ที่ 21,890 ด่องต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ และขยายกรอบการดูแลค่าเงิน (trading band) จากร้อยละ 2 เป็นร้อยละ 3 หลังจากธนาคารประชาชนจีน หรือธนาคารแห่งชาติ ในกรุงปักกิ่ง ประกาศปรับลดค่าเงินหยวนลงอย่างมากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เวียดนามต้องรักษาเสถียรภาพของเงินด่อง และศักยภาพการแข่งขันของสินค้าเวียดนาม
+++เกิดเหตุเรือผู้อพยพชาวซีเรีย พลิกคว่ำในทะเลอีเจียน ระหว่างเดินทางจากตุรกีเพื่อข้ามไปยังเกาะคอสของกรีซ เมื่อวันอังคาร มีผู้เสียชีวิต 6 ศพรวมถึงทารก 1 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้ 3 คน เป็นเด็ก 1 คน และผู้ชาย 2 คน ซึ่งอาศัยหายใจจากช่องอากาศใต้เรือที่พลิกคว่ำอยู่นานหลายชั่วโมงกว่านักประดาน้ำและทีมกู้ภัยจะไปถึง ทีมกู้ภัยตุรกียังช่วยเหลือผู้อพยพอีกกลุ่มจำนวน 20 คน
+++จำนวนผู้อพยพชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่เยอรมนี เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในปีนี้ และผู้อพยพที่ยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัย เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปี ท่ามกลางความวิตกมากขึ้นของทางการเยอรมนี เกี่ยวกับความสามารถของประเทศ ในการรับมือกับการหลั่งไหลของชาวต่างด้าวที่มากเป็นประวัติการณ์ แถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทยเยอรมนี ระบุว่า ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.ค. ปีนี้ มีผู้อพยพที่เดินทางเข้าสู่เยอรมนีประมาณ 3 แสน 6 หมื่นคน ในจำนวนนี้ยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัย 2 แสน 18,221 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 125 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และการยื่นขอลี้ภัยเพิ่มขึ้นทุกเดือน โดยเฉลี่ยร้อยละ 5 ต่อเดือน นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.
+++ขณะที่นายโธมัส เดอ มายซีร์ รมว.มหาดไทยเยอรมนี กล่าวว่า ผู้อพยพเข้าประเทศในเดือน ก.ค. เดือนเดียวสูงเป็นสถิติใหม่ถึง 83,000 คน คาดว่าตัวเลขตลอดทั้งปี 2558 อาจสูงถึง 8 แสนคน มากกว่าปีที่แล้ว 4 เท่า เยอรมนีเป็นจุดหมายปลายทางมากที่สุด ของผู้อพยพที่แสวงหาที่ลี้ภัย ในบรรดา 28 ประเทศเครือข่ายสหภาพยุโรป (อียู)
+++ทีมค้นหาและช่วยเหลืออินโดนีเซีย ทยอยเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 54 ศพ จากจุดตกของเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กของสายการบินตริกานา แอร์ ในป่าลึก โดยยังคงมีสภาพอากาศทั้งฝนและหมอก รวมถึงสภาพภูมิประเทศ เป็นอุปสรรคสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ ร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดจะถูกส่งไปยังเมืองจายาปุระ เมืองเอกของจังหวัดปาปัว เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลต่อไป ในการค้นหาเครื่องบินรุ่น เอทีอาร์ 42-300 ที่ขาดการติดต่อระหว่างเดินทางจากเมืองจายาปุระไปยังเมืองออกซิบิลที่อยู่ห่างไปเพียง 42 นาที พร้อมผู้โดยสาร 49 คน และลูกเรือ 5 คน เมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเกือบ 2 วันเพื่อเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ สภาพเครื่องบินที่พบอยู่พังเสียหายรุนแรง ชิ้นส่วนถูกเผาไหม้กระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้กล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินและกล่องบันทึกข้อมูลการบินหรือกล่องดำได้แล้ว จากนี้ต้องรอผลการตรวจวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น คาดว่าน่าจะมีปัจจัยหลักจากสภาพอากาศ
+++ผู้นำเมียนมาร์ สั่งต่อเวลาประกาศภาวะฉุกเฉิน และการควบคุมของกองทัพ ในพื้นที่ปกครองตนเองโกก้าง ทางเหนือของรัฐฉาน ติดเขตแดนมณฑลยูนนานของจีน ออกไปอีกจนถึงกลางเดือน พ.ย. หลังจากการประกาศภาวะฉุกเฉินถึงกำหนดไปแล้วเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากสถานการณ์สู้รบระหว่างทหารกองทัพรัฐบาลเมียนมาร์ กับนักรบกบฎโกก้าง ซึ่งเป็นกลุ่มคนเชื้อสายจีน ยังไม่คลี่คลาย การสู้รบดุเดือดระหว่างทหารเมียนมาร์กับกบฏโกก้าง ปะทุขึ้นเมื่อเดือน ก.พ. ส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพหลบหนีภัยออกจากถิ่นฐานที่อยู่อาศัย และทำให้รัฐบาลจีนโกรธ เมื่อเครื่องบินรบกองทัพอากาศเมียนมาร์ทิ้งระเบิด หล่นลงในเขตแดนจีนหลายลูก ทำให้พลเรือนเสียชีวิต การสู้รบในเขตโกก้างส่งผลกระทบต่อการเจรจาสันติภาพ ระหว่างรัฐบาลเมียนมาร์กับตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 10 กลุ่ม ซึ่งรัฐบาลต้องการบรรลุความตกลงก่อนถึงการเลือกตั้ง 8 พ.ย.
+++ผู้บัญชาการหน่วยรบประจำเกาะโจโล ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เปิดเผยถึงปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันจากกลุ่มก่อการร้ายอาบูเซยาฟ เมื่อวันพุธ ใกล้ฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธในเมืองอินดานัน กองกำลังรัฐบาลยิงปืนใหญ่เข้าใส่กลุ่มก่อการร้ายหลายนัด จากนั้นกองกำลังคอมมานโดที่ได้รับการฝึกจากกองทัพสหรัฐฯ จะเข้าปะทะกับกลุ่มอาบูเซยาฟราว 100 คน มีรายงานกลุ่มคนร้ายเสียชีวิตอย่างน้อย 15 ศพ บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ก่อนจะถอยร่นหลบเข้าไปในป่าลึก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งกำลังเสริมติดตามเข้าไปอย่างกระชั้นชิด และขณะนี้ยังคงอยู่ในระหว่างปฏิบัติการ
+++ การเลือกตั้งทั่วไปของศรีลังกา เมื่อวันจันทร์ พรรคยูไนเต็ด เนชันแนล (ยูเอ็นพี) ของนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงห์ ได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรไป 106 ที่นั่ง จากทั้งหมด 225 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากการเลือกตั้งครั้งก่อนที่ได้ไป 40 ที่นั่ง ส่วนพรรคกลุ่มพันธมิตรเสรีภาพประชาชนรวม (ยูพีเอฟเอ) ของนายมหินทรา ราชปักษา ได้ไป 95 ที่นั่ง และพรรคแนวร่วมทมิฬแห่งชาติ (ทีเอ็นเอ) ได้ไป 16 ที่นั่ง ทำให้นายวิกรมสิงห์ อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งนายราชปักษาก็ออกมายอมรับต่อความพ่ายแพ้แล้ว
+++นายเจสัน พอล สมิธ ชาวอเมริกันวัย 42 ปี แห่งรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ถูกตำรวจจับที่เมืองลุบบ็อค รัฐเท็กซัส เมื่อวันพุธ และตั้งข้อหาแจ้งความเท็จ จากการแจ้งลวงเจ้าหน้าที่ว่าจะมีการระเบิดโจมตีอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ บนเกาะลิเบอร์ตี ในอ่าวนิวยอร์ก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนที่เข้าเยี่ยมชม 3,230 คน ออกนอกเขตอนุสาวรีย์ เจ้าหน้าที่อัยการ เปิดเผยว่า นายสมิธแจ้งเหตุร้ายต่อเจ้าหน้าที่ ทางฮ็อตไลน์สายด่วน 911 เมื่อวันที่ 24 เม.ย. จากไอแพดส่วนตัว โดยใช้บริการที่ช่วยเหลือผู้พิการทางการได้ยิน โดยระบุว่าตัวเขาชื่อ อับดุล ยาซิน เป็นผู้ก่อการร้ายกลุ่ม ไอเอสไอ (ISI) กำลังเตรียมการกับเพื่อน เพื่อลงมือระเบิดโจมตีอนุสาวรีย์ กฎหมายกำหนดโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี หากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง และจากแฟ้มทะเบียนประวัติพบว่านายสมิธเคยถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด 2 ครั้ง ในรัฐเวอร์จิเนีย ในปี 2544 และปี 2549 จากการขู่ฆ่าและขู่ทำร้ายร่างกาย และอีกคดีในปี 2549 ถูกศาลตัดสินความผิดฐานขู่โจมตีด้วยระเบิด หรือเผาอาคาร และโทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินโดยไม่มีเหตุสมควร
+++โรงพยาบาลคิง อับดุลลาซิส เมดิคอล ซิตี้ ในกรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย สั่งปิดทำการแผนกหนึ่งในโรงพยาบาลทั้งแผนกเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังพบผู้ติดเชื้อกลุ่มโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือเมอร์ส 46 คน ดร.ฮานัน บัลคี จากแผนกโรคติดเชื้อ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในจำนวนนี้ 15 คน เป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีอีก 20 คน ที่แสดงอาการป่วยและยังอยู่ในระหว่างการตรวจวิเคราะห์หาการติดเชื้อ โดยผู้ป่วยคนอื่นได้ถูกส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลใกล้เคียง การติดเชื้อเมอร์สพบครั้งแรกในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยส่วนใหญ่พบในซาอุดีอาระเบีย ผู้ติดเชื้อจะมีอาการไข้ มีปัญหาในระบบทางเดินหายใจ ปอดอักเสบ รวมถึงไตล้มเหลว