การประชุมติดตามคดีระเบิดบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงข่าวการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบสวนที่ สถานีตำรวจนครบาลลุมพินีเมื่อวานนี้ว่าเป็นเพียงความเข้าใจผิดจากการปล่อยข่าวโดยไม่ได้ไตร่ตรอง จากนี้จะเข้มงวดดำเนินคดีผู้ที่ปล่อยข่าวสร้างความเข้าใจผิดและสร้างความตื่นตระหนกอย่างถึงที่สุด นอกจากนี้ ได้ภาพสเก็ตช์คนร้ายเรียบร้อยแล้ว เตรียมออกหมายจับในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาทันทีที่มีหลักฐานครบถ้วน เจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างที่เป็นผู้ส่งผู้ต้องสงสัยจากซอยมหาดเล็กหลวงมายังถนนสีลมแล้ว แต่ต้องหาเบาะแสจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือประชาชนทุกภาคส่วนที่มีข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เกี่ยวกับคนร้ายที่นำไปสู่การจับกุม โดยผ่านช่องทางสายด่วน 1599 พร้อมกับตั้งรางวัลนำจับ ให้แก่บุคคลที่สามารถให้ข้อมูลเบาะแสนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่ปักใจว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มใด และยังไม่ปักใจว่าเป็นการทำร้ายชาวจีนหรือไม่ เพราะผู้เสียชีวิตส่วนมากเป็นคนไทย แต่ยืนยันว่ามุ่งหวังต่อชีวิตแน่นอนเพราะช่วงเวลาสถานที่ และเชื่อว่าในขบวนการที่มีคนไทยเข้าไปมีส่วนร่วม ทำเพื่อให้ประเทศเสียชื่อเสียง เศรษฐกิจเสียหาย และทำให้ชาวต่างชาติไม่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ส่วนเหตุคนร้ายโยนระเบิดบริเวณสะพานตากสิน ไม่มั่นใจว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุที่แยกราชประสงค์หรือไม่ เพราะอาจสวมรอยก่อเหตุได้ เช่นเดียวกับชนิดของระเบิด อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ แต่ถึงแม้ว่าระเบิดจะเป็นชนิดเดียวกันก็ไม่สามารถระบุว่าผู้ลงมือเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากในขั้นตอนของการผลิตสามารถลอกเลียนแบบกันได้และอาจเป็นไปได้เช่นกันที่การก่อเหตุอาจเชื่อมโยงกับการวางระเบิดทางเชื่อมรถไฟฟ้าที่พารากอนเมื่อช่วงต้นปี
ส่วนชายที่ใส่เสื้อสีเหลืองที่ปรากฎในภาพ ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นชาวต่าวชาติและเกี่ยวข้องหรือไม่ เนื่องจากสมัยนี้มีเทคโนโลยีปลอมแปลงใบหน้า ต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้ง และยังไม่สามารถตอบได้ว่าคนร้ายยังอยู่ในไทยหรือไม่ ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี ตั้งข้อสังเกตว่าคนร้ายอาจถูกตามฆ่าปิดปาก อาจเป็นไปได้
นอกจากนี้ กำชับให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ตำรวจภูธรภาค 1 ภาค 2 และภาค 7 ดูแลตามจุดสำคัญตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งสถานทูตหรือสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวหรือประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมตรวจค้นผู้ต้องสงสัย และตรวจตราอย่างเข้มงวดในพื้นที่เสี่ยง
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี