+++การประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พิจารณาญัตติคำถามออกเสียงประชามติประเด็น ขอให้มีการปฏิรูปอีก 2 ปี ก่อนจัดการเลือกตั้ง ที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน และ นายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา สมาชิก สปช. เป็นผู้นำเสนอ โดยก่อนเข้าสู่วาระการพิจารณา นายนิรันดร์ พันทรกิจ สมาชิก สปช.ลุกขึ้น เสนอให้เลื่อนการพิจารณาญัตติดังกล่าวออกไป เป็นวันเดียวกับวันลง มติรับ หรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ สมาชิก สปช. สนับสนุนให้เลื่อนญัตติดังกล่าวออกไป
+++นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า การเปิดประชุม สปช. ในวันที่ 22 ส.ค. เวลา 11.30 น. เพื่อรับร่างรัฐธรรมนูญจาก กมธ.ยกร่างฯ อย่างเป็นทางการ และได้กำหนดวันเปิดประชุม สปช. ในวันที่ 6 ก.ย. เวลา 10.00 น. เพื่อลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นจะเป็นการพิจารณาประเด็นคำถามการทำประชามติ ซึ่งกระบวนการลงมติร่างรัฐธรรมนูญ ใช้วิธีขานชื่อสมาชิกรายบุคคล
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ขอความร่วมมือประชาชนพบเห็นคนผิดสังเกตให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่หลังจากได้รับรายงานเรื่องคนร้ายโยนระเบิดที่ท่าน้ำสาทร ต้องช่วยกันทำความดีให้ประเทศไทยก้าวหน้าไปอีกระดับหนึ่ง ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้เสียใจ ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด อยากฝากให้ทุกคนให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เพราะบ้านเมืองปล่อยไปไม่ได้แล้ว เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน
+++นายธนสิทธิ์ นิลกำแหง ประธานแผนกคดีเลือกตั้ง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าของสำนวน และผู้พิพากษาองค์คณะ รวม 9 คน มีมติ 8 ต่อ 1 เสียง ยกคำร้อง กรณี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และพวก จำเลยที่ 1-4 ขอใช้สิทธิตั้งอัยการเป็นทนายสู้คดี ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณี สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อปี 2551 โดยองค์คณะ ระบุว่า หากพนักงานอัยการ เข้าแก้ต่างคดีให้จำเลย ถือเป็นการปฏิปักษ์ ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการ และได้นัดตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 30 ต.ค. เวลา 09.30 น.
+++ติดตามเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงเหตุระเบิด ทำให้เกิดความวิตกถึงผลกระทบ ทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ภาคการท่องเที่ยวนับเป็นส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยในครึ่งปีแรก มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 14.75 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เหตุการณ์ครั้งนี้อาจทำให้รายได้ท่องเที่ยวต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 2.2 ล้านล้านบาท
+++นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เรียกเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) มาหารือถึงผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ สศค.รายงานว่ายังเร็วไปที่จะประเมินผลกระทบ โดยขอเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อดูสถานการณ์ทั้งจากภาพรวมตลาดหุ้น และการท่องเที่ยว
+++ด้านนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพเชื่อมั่นว่าภาครัฐจะดูแลสถานการณ์อย่างดีที่สุด รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นให้มีความเรียบร้อยและเข้าสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว ในส่วนของการให้บริการของธนาคารยังเป็นไปด้วยความปกติ
+++นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึง ความเชื่อมั่นนักลงทุน ว่าส่งผลกระทบ เพียงระยะสั้น แต่ระยะยาวไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในการประชุมประจำเดือนของสมาคมธนาคารไทยจะนำสถานการณ์ดังกล่าวเข้าร่วมหารือเพื่อเตรียมการรับมือกันต่อไป
+++นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
+++ในส่วนผลกระทบต่อตลาดเงินและตลาดทุนไทยค่อนข้างมาก โดยความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท วานนี้ ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่อง เปิดตลาดที่ระดับ 35.56-35.58 บาทต่อดอลลาร์ โดยเฉพาะในช่วงที่มีเหตุระเบิดอีกครั้งย่านสะพานตากสินได้ปรับตัวอ่อนค่าไปถึงระดับ35.62 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะปิดตลาดที่ 35.61-35.63 บาทต่อดอลลาร์ ถือว่าเป็นการอ่อนค่าสุดในรอบ 6 ปี 4 เดือน
+++เช่นเดียวกับการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย วานนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปรับตัวลดลงทันที หลังเปิดการตลาดหุ้น เกิดแรงเทขายในกลุ่มท่องเที่ยว การบินและโรงแรม โดยดัชนีปิดการซื้อขายที่ 1,372.61 จุด ปรับลดลง 36.13 จุดต่ำสุดในรอบ 1 ปี 5 เดือน มูลค่าการซื้อขาย 78,348.55 ล้านบาท จาก แรงขายของนักลงทุนสถาบันที่ขายสุทธิ 12,030.75 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,908.90 ล้านบาท
+++นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงบ้าง แต่การอ่อนค่าก็ไม่ได้เป็นไปทิศทางเดียว เพราะมีบางช่วงที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงด้วย ซึ่งธปท. กำลังติดตามดูสถานการณ์อยู่ สำหรับผลกระทบ ต่อภาพรวมเศรษฐกิจนั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูสถานการณ์ก่อน ซึ่งขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมิน อย่างไรก็ตามยอมรับว่า เบื้องต้นภาคการท่องเที่ยวคงได้รับผลกระทบบ้าง
+++ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,511.34 จุด ลดลง 33.84 จุด ดัชนี แนสแดค ปิดที่ 5,059.35 จุด ลดลง 32.35 จุด และดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,096.92 จุด ลดลง 5.52 จุด ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีน โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วง 245.50 จุด ปิดที่ 3,748.16 จุดเมื่อวานนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่างวอลมาร์ท โดยหุ้นวอลมาร์ทร่วงลงร้อยละ 3.38 เป็นผลมาจากการปรับขึ้นค่าจ้าง และความผันผวนของค่าเงิน
+++น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ ปิดที่ 42.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ ปิดที่ 48.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,116.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
CR:วรจักร 804