วันที่สองของการมาติดตามสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนบน ของคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ กรมชลประทาน มาที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง หรือ เขื่อนห้วยหลวง ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี นายวิลาศ อิงคนินันท์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง เปิดเผยว่า เขื่อนห้วยหลวงแห่งนี้เป็นเขื่อนที่อยู่ตอนบนของลุ่มน้ำห้วยหลวง โดยมีความจุเต็มที่อยู่ที่ 135 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนห้วยหลวงมีปริมาณน้ำอยู่เพียง 26ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ร้อยละ 19ของความจุ ซึ่งถือว่าตอนนี้สถานการณ์น้ำในเขื่อนห้วยหลวงยังต่ำกว่าเกณฑ์ คาดว่า ภายในช่วงฤดูฝนที่เหลืออีก 2เดือนปริมาณน้ำฝนจะตกลงมาเติม ปริมาณน้ำในเขื่อนเพื่อให้สามารถใช้อุปโภค บริโภค ได้อย่างเพียงพอจนถึงฤดูแล้งหน้า ส่วนน้ำที่ส่งเสริมทางด้านการเกษตรในพื้นที่ชลประทานขณะนี้เราก็ยังสนับสนุนอยู่แต่ถ้าจะมีการชะลอหรือหยุดส่งก็จะต้องรอประเมินสถานการณ์น้ำภายหลังช่วงสิ้นฤดูฝนก่อน ขณะที่ การแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน ถ้าหากฝนไม่ตกตามที่คาดการณ์ไว้ ก็จะมีการขุดแหล่งน้ำในพื้นที่เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำฝน รวมถึงอาจจะขุดน้ำใต้ดินนำขึ้นมาใช้ และก็อาจจะมีการขอฝนหลวงให้มาลงในพื้นที่
ส่วนแผนงานเพื่อสร้างความมั่นคงของระบบชลประทานในพื้นที่ ภายใต้โครงการแผนพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวง ที่จะมีการสูบน้ำจากแม่น้ำโขงขึ้นมาใช้ ภายในลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนกลาง ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง ก็ได้ทำเรื่องเสนอคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ขอเพิ่มเติม โครงการให้มีการก่อสร้างระบบสูบน้ำ และสร้างจุดกักเก็บน้ำแบบขั้นบันได ส่งขึ้นมาที่เขื่อนห้วยหลวงตอนบนเพิ่มเติมด้วย ซึ่งถ้าโครงการนี้ผ่านการอนุมัติ และเริ่มดำเนินการ ก็จะเป็นการสร้างความมั่นคงทางระบบชลประทานของลุ่มน้ำห้วยหลวงทั้งระบบ เพื่อหล่อเลี้ยงชาวจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย
ด้านนายสัมองค์ อินขันธ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่4 ตำบลน้ำพ่น อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้ๆกับเขื่อนห้วยหลวง เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนห้วยหลวงในปีนี้มีปริมาณน้อยกว่าทุกปี เพราะปีนี้มีฝนตกน้อย แต่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆเขื่อนก็สูบน้ำขึ้นมาใช้บ้าง แต่พื้นที่ห่างไกลก็ใช้น้ำฝนทำการเกษตร ซึ่งขณะนี้ยังพอทำได้แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรอน้ำฝนที่จะตกลงมาเช่นกัน
ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด