พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่เมื่อช่วง 07.00น. ยอมรับเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเก็บรวบรวมหลักฐานได้มากเท่าที่ควร เนื่องจากระเบิดทำงานได้สมบูรณ์ มีแรงดันสูง และเผาไหม้ทำลายวัตถุพยานแทบทั้งหมด คาดเดาได้เพียงว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง แต่ยังไม่ทราบชนิด ต้องรอผลตรวจจากเครื่องตรวจของหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด( EOD) ให้แน่ชัด ขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และยืนยันการข่าวไม่ได้อ่อนแอ ที่ผ่านมามีการเฝ้าระวังอยู่ตลอด ซึ่งหากใช้กำลังมากก็ทำให้เสียบรรยากาศการท่องเที่ยว ทำให้ไม่สามารถควบคุมพื้นที่ทั้งหมด อีกทั้งคนร้ายยังมีความโหดเหี้ยม เลือกก่อเหตุในช่วงเวลาเร่งด่วน เป็นจุดศูนย์กลาง และเป็นสถานที่ทำบุญสำคัญ หวังผลให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนกรณีกระแสข่าวภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ เบื้องต้นขอตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน ยังไม่ยืนยันผู้ก่อเหตุว่าเป็นคนไทยหรือต่างชาติทั้งสิ้น ซึ่งในเวลา 07.40น. จะประชุมคอนเฟอร์เรนท์รายงานความคืบหน้าแก่นายกรัฐมนตรี ที่ศปก.ตร.
สำหรับที่จุดเกิดเหตุแยกราชประสงค์ เจ้าหน้าที่ยังคงเข้ารวบรวมหลักฐานและพยานวัตถุเท่าที่ตรวจพบ โดยก่อนหน้านี้จะเริ่มจากรั้วศาลพระพรหม และขยายพื้นที่เข้าไปรอบพระพรหรม และล่าสุดเริ่มเดินถึงบริเวณส่วนอาคาร รร.ไฮแอทเอราวัณ นอกจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเดินเก็บพยานวัตถุที่เป็นความเสียหายขนาดเล็กตามพื้น ครอบคลุมพื้นที่รัศมี100เมตร เช่น ด้านถ.พระราม1 พบวัตถุพยานบางประเภทกระเด็นมาจากศาลพระพรหมด้วย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช. สรุปตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุด22ศพ และมีผู้บาดเจ็บ123คน
ผู้สื่อข่าว:อภิสุข เวทย์วิศิษฐ์