การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดการปรับ ครม. ที่มีรายงานข่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบ พร้อมทั้งยังปฏิเสธใบลาออกที่ยื่นให้กับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมายแล้ว ยืนยันว่าส่วนตัวไม่สนใจ ตั้งใจทำงาน และไม่มีสัญญาณการปรับครม. ซึ่งเรื่องนี้ต้องถามนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้ตัดสินใจในการปรับครม. และต้องยอมรับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี
ส่วนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ไตรมาสที่ 2 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สคช. รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจมองว่าปีนี้เกือบทุกประเทศมียอดการส่งออกและนำเข้าลดลง ขณะที่ไทยมีอัตราการส่งออกที่ลดลงเช่นเดียวกัน แต่อยู่ในระดับที่น้อยกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งถือว่าโชคดีที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวที่โตขึ้นถึงร้อยละ 20 มาช่วยชดเชยรายได้การส่งออกที่ลดลง รวมถึงการลงทุนของภาครัฐก็มีส่วนช่วยให้ตัวเลขการเจริญเติบโต หรือ จีดีพี ของไทยโตขึ้นร้อยละ 2.8 ดังนั้นรัฐบาลต้องคงเร่งนโยบายเกี่ยวกับการลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐและภาคเอกชนต่อไป เพราะคงไม่สามารถทำให้สถานการณ์การส่งออกของโลกที่ลดลงนั้นดีขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยได้มอบนโยบายให้สำนักงบประมาณในการพิจารณาหลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ ที่หากมีการของบลงทุนจะต้องมีความชัดเจนและความพร้อมในการดำเนินโครงการได้ทันทีจึงจะได้รับการพิจารณาในระดับต้น อย่างไรก็ตามยืนยันว่าไม่กังวลต่อสถานการณ์การส่งออกของไทย
สำหรับ การแก้ไขปัญหา รายได้เกษตรกรลดลง หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร ระบุว่า มาตรการการดูแลจะต้องไปดูในเรื่องของต้นทุนการผลิต ส่วนข้าวนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งระบายข้าวในสต๊อก และต้องดูสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นเพื่อหามาตราการช่วยเหลือโดยเฉพาะฤดูกาลผลิตข้าวนาปีเป็นกรณีไป