ข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยและนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้ปรับเนื้อหาในส่วนของร่างรัฐธรรมนูญในบทเฉพาะกาล มาตรา 260 ที่ให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูป และการปรองดองแห่งชาติ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยว่า คงจะไม่ทันเพราะในวันที่ 19-20 สิงหาคม สภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. จะต้องนำร่างรัฐธรรมนูญให้ผู้ขอแก้ไขรับทราบ ซึ่งจะไม่มีการแก้ไข พร้อมยืนยันว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์จะต้องมีไว้ในช่วงที่ประเทศกำลังเปลี่ยนผ่าน ในช่วงที่รัฐบาลหมดหนทางในการบริหารประเทศจนอาจจะเกิดรัฐล้มเหลวถึงจะเข้ามาได้ แต่ในภาวะวิกฤติที่กำหนดไว้ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องทางการเมือง แต่อาจจะเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย หรือสถานการณ์โลกที่รัฐบาลและทหารไม่สามารถรับมือได้ ทั้งนี้หากในสถานการณ์ปกติคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูป และการปรองดองแห่งชาติ ไม่สามารถเข้ามาเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินได้ พร้อมปฏิเสธการเข้ารับตำแหน่งหนึ่งในคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูป และการปรองดองแห่งชาติเนื่องจากมองว่ามีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถจำนวนมาก
นายวิษณุ ยังกล่าวปฏิเสธว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูป และการปรองดองแห่งชาติ เป็นการรัฐประหารซ่อนรูป เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ทำได้ ซึ่ง 22 พ.ค.ถือเป็นการยึดอำนาจเพราะไม่ได้มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งต่างกับการใช้กฎอัยการศึกที่อาจมีความรุนแรงแต่เพราะมีบัญญัติไว้ตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามในอดีตการใช้กฎอัยการศึกไม่ได้ผลจึงต้องตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯขึ้นมา
นายวิษณุ ระบุว่า ส่วนตัวไม่ขอตอบกรณีหาก สปช.ไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญแล้วจะทำให้การทำงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ล้มเหลวหรือไม่ เพราะอาจจะเป็นการตำหนิการทำงานของ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ตนเป็นรัฐบาลจึงไม่ควรตอบ และยืนยันว่าคำถามในการประชามติไม่ควรซ้ำกัน แต่รัฐบาลไม่สามารถปรับแต่งคำถามให้ผิดความหมายเดิมได้ รวมถึงคำถามต้องทำให้ประชาชนเข้าใจง่าย