เมืองไทยฯ(2):สศช.แถลงจีดีพีไตรมาส2/พาณิชย์เตรียมสรุปการขายข้าวเกรดซี/คำประกาศการบินยุโรปไม่มีผลต่อการบินไทย

17 สิงหาคม 2558, 08:30น.


ในวันนี้ ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ที่มี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน



สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะแถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสที่ 2 (ตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 2558) และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2558



ในวันนี้ กรมประมง จะมีพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือการแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงข้อมูลเรือประมงและแรงงาน ระหว่าง 7 หน่วยงาน ได้แก่ กองทัพเรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมเจ้าท่า กรมการปกครอง กรมการจัดหางาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อเป็นฐานข้อมูลกลางในการสนับสนุนการรับแจ้งเรือประมงเข้าออกท่า ให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหาการกระทำประมงผิดกฎหมาย



นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ยังไม่ได้ผลกระทบจากหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น ซึ่งธนาคารแต่ละแห่งจะมีปัญหาแตกต่างกัน ส่วนใหญ่หนี้เสียของธนาคารพาณิชย์จะมาจากเอสเอ็มอีและรายย่อย ในส่วนกรุงไทยหนี้เสียที่เพิ่มส่วนใหญ่มาจากรายย่อยเท่านั้น โดยแนวโน้มหนี้เสียของธนาคารในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มลดลง



พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาแนวทางการระบายข้าวเกรดซีที่มีอยู่ 4 ล้าน 6 แสนตัน และข้าวเสื่อมสภาพสิ้นเชิง 1 ล้าน 2 แสน 9 หมื่นตัน รวม 5 ล้าน 8 แสน 9 หมื่นตัน ว่าควรจะใช้วิธีการใด หลังจากที่กรมการค้าต่างประเทศไปศึกษาวิธีการระบาย ซึ่งได้ข้อสรุป 2 แนวทางคือ แยกข้าวดี ข้าวเสียออกจากกัน แล้วค่อยระบายข้าว กับวิธีที่ 2 คือระบายแบบยกคลัง ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกัน



ด้านนางจินตนา ชัยยวรรณาการ ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งผลการเก็บหลักฐานข้าวเน่าเสียที่เก็บอยู่ในโกดังที่ อคส. ประมาณ 4 ล้านตัน จากนั้นจะฟ้องร้องคดีทางแพ่งกับเจ้าของโกดังที่เกี่ยวข้อง 125 ราย และผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) อีก 16 ราย โดยคาดว่าจะเรียกเงินค่าเสียหายกรณีข้าวเน่าคืนได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะนำไปชำระหนี้ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร



นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย เปิดเผยว่า ในเดือนพฤศจิกายนนี้ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป หรือเอียซ่า (EASA) จะมาตรวจสอบการกำกับดูแลสายการบินของไทยที่กำกับดูแลโดยกรมการบินพลเรือน (บพ.) แต่หากออกประกาศว่าการกำกับดูแลสายการบินไม่ได้มาตรฐาน และสั่งห้ามสายการบินจากไทยบินเข้าสหภาพยุโรป (อียู) ก็จะไม่มีผลกระทบต่อบริษัทการบินไทย เพราะผลการตรวจสอบมาตรฐานด้านการบินของสายการบินไทยก่อนหน้านี้ เอียซ่าระบุว่าอยู่สูงกว่ามาตรฐาน



นางปาริชาต คชรัตน์ อธิบดี บพ. ยอมรับว่า การแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) ยังคงล่าช้า โดยเฉพาะการขอผู้เชี่ยวชาญด้านการบินจากออสเตรเลียเข้ามาช่วยไทยเริ่มกระบวนการออกใบรับรองผู้เดินอากาศ (AOC) ที่ติดปัญหาว่าการลงนามสัญญาช่วยเหลือจะเข้าข่ายมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่



พรุ่งนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาอัตราค่าโดยสารเรือ ตามที่กรมเจ้าท่า (จท.) จะปรับลดค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือคลองแสนแสบลงระยะละ 1 บาท ซึ่งหากอนุมัติก็จะบังคับใช้ได้ในวันที่ 20 สิงหาคม พร้อมกับรถโดยสารกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด และรถโดยสารระหว่างจังหวัดกับจังหวัดที่ประกาศลดราคาไปก่อนหน้านี้



ส่วน นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. เสนอการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืน (พ.ร.ฎ.) สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรงระยะทาง 30 กม. และสายสีชมพูแครายมีนบุรี ระยะทาง 30.4 กม. โดยส่งเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อให้ยื่นเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน เพื่อเตรียมการก่อสร้าง เนื่องจากจะมีรูปแบบเป็นรถไฟฟ้ารางเดียวหรือโมโนเรล



กรณีองค์กรครูจังหวัดต่างๆ ยื่นร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด (ป.ป.ช.) ทุกจังหวัด ขอให้ตรวจสอบมติคณะกรรมการคุรุสภาที่มี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน ซึ่งเห็นชอบออกหนังสืออนุญาตปฏิบัติการสอนให้แก่บุคคลไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู 130 คน ตามคำขอของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. นั้น นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า เป็นกรณีของการร้องแย้ง ซึ่งไม่ใช่ความผิดของครูทั้ง 130 คน แต่เป็นความผิดจากการตีความของหน่วยงานที่รับผิดชอบ และครูผู้ช่วยทั้ง 130 คนนี้ จะต้องเข้าสู่กระบวนการพัฒนาเพื่อให้ได้ใบประกอบวิชาชีพครูตามขั้นตอนที่กำหนด



ส่วนกรณีที่ สพฐ. วางแผนพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วยระบบ TEPE Online ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ เพื่อเลือกหลักสูตรพัฒนาตนเองได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา โดยที่ไม่ต้องใช้เวลาราชการไปเข้ารับการอบรมนั้น ล่าสุดสพฐ. ประกาศจัดตั้งศูนย์พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วยระบบ TEPE Online จังหวัด และศูนย์พัฒนาข้าราชการครูฯ เพื่อการวิจัยแล้ว 83 ศูนย์ เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 400,000 คน



*-*

ข่าวทั้งหมด

X