*รอบโลก:ยอดตายระเบิดเทียนจินพุ่ง /อินโดฯยึดเรือประมงไทยล่วงล้ำจับปลา*

14 สิงหาคม 2558, 05:38น.


+++ความคืบหน้าเหตุระเบิดใหญ่บริเวณคลังสินค้าที่ท่าเรือในเมืองเทียนจิน  เขตท่าเรือและอุตสาหกรรมสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจีน สื่อทางการจีน รายงานว่า ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 50 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 700 คน มากกว่า 60 คน มีอาการสาหัส เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายอย่างมาก ต่ออุตสาหกรรมหลักทั้งอุตสาหกรรมการบิน พลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ฯลฯ ซึ่งมีทั้งกิจการท้องถิ่นและกิจการจากต่างประเทศเนื่องจากแม้ไม่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากแรงระเบิด แต่ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการดำเนินการของท่าเรือที่กลายเป็นอัมพาต หลายบริษัทจึงตัดสินใจระงับการดำเนินการชั่วคราวเพื่อประเมินสถานการณ์ เขตอุตสาหกรรมแห่งนี้เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ โรงงานประกอบเครื่องบิน โรงกลั่นน้ำมัน และศูนย์บริการและการผลิตอื่นๆ อีกมากมาย



+++เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการส่งนักผจญเพลิงเข้าไปกว่า 1,000 คน ขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องระดมกำลังนำร่างผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหลายแห่ง ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 50 คน ซึ่งรวมทั้งนักผจญเพลิง 12 ศพ จุดเริ่มต้นของระเบิดเกิดขึ้นจากตู้คอนเทนเนอร์ที่มีวัตถุอันตรายอยู่ภายใน เป็นของบริษัท รุ่ยไห่ โลจิสติกส์ ขณะที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้บริหารของบริษัท รุ่ยไห่ โลจิสติกส์ เอาไว้แล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุของเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ทางการจีนได้ส่งหน่วยรบพิเศษต่อต้านสงครามเคมีลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแล้วว่ามีสารอันตรายอยู่หรือไม่



+++ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า มีนักเรียนไทยอยู่ในเทียนจินราว 500 คน ได้รับแจ้งว่าสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีคนไทยในพื้นที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว



+++ธนาคารกลางมาเลเซีย แถลงว่า ยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการพิเศษ เช่น ผูกค่าเงินไว้กับสกุลอื่น หรือควบคุมเงินทุนเพื่อสกัดไม่ให้ค่าเงินริงกิตร่วงหนักไปมากกว่านี้ หลังจากค่าเงินริงกิตมาเลเซียดิ่งลงร้อยละ 20 นับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว และร่วงลงต่ำกว่า 4 ริงกิตต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากจีนปรับลดค่าเงินหยวน นางเซตี อัคตาร์ อาซิส ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย กล่าวว่า ความผันผวนของค่าเงินริงกิตเป็นเพราะปัจจัยภายนอกบวกกับปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอน ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียแถลงว่า ระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่น และระบบการเงินที่มีความแข็งแกร่งถือว่าเพียงพอต่อการรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ คาดว่าเศรษฐกิจมาเลเซียจะยังคงเติบโตอย่างมั่นคงต่อไประหว่างร้อยละ 4-6



+++เศรษฐกิจของกรีซ กลับมาเจริญเติบโตอย่างน่าประหลาดใจในช่วงไตรมาส 2 แม้ต้องเผชิญกับความยุ่งเหยิงทางการเมืองและวิกฤตหนี้สินที่เกือบทำให้เกือบต้องออกจากประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร(ยูโรโซน) สำนักงานสถิติแห่งชาติของกรีซ (ELSTAT) เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศจากเดือนเมษายนจนถึงเดือนมิถุนายน ขยายตัวร้อยละ 0.8 เหนือกว่าความคาดหมายของนักเวิคราะห์อย่างมาก



+++กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็นขนาดใหญ่ลำหนึ่งของไทยและลากเข้าสู่ฝั่ง  เจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า เรือลำดังกล่าวล่วงล้ำจับปลาในน่านน้ำอินโดนีเซีย และปาปัวนิวกินี โดยลูกเรือถูกบังคับใช้แรงงานทาส สำนักข่าวเอพี รายงานว่าเรือซิลเวอร์ ซี 2 ซึ่งมีเจ้าของเป็นคนไทย ถูกตรวจพบเมื่อช่วงค่ำวันพุธ และลากมายังฐานทัพเรือแห่งหนึ่งในเมืองซาบัง บนแหลมทางตะวันตกเฉียงเหนือของหมู่เกาะอินโดนีเซีย ที่อยู่ห่างจากจุดดังกล่าว 130 กิโลเมตร



+++นางซูซี ปุดจีอัสตูตี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการประมงอินโดนีเซีย กล่าวว่า จากรายงานของเอพี ระบุว่า เรือลำนี้เป็นเรือลำเดียวกับเรือขนาด 2,000 ตันที่ปรากฎอยู่ในภาพถ่ายดาวเทียมรายละเอียดสูงเมื่อเดือนที่แล้ว ที่กำลังล่องอยู่ในน่านน้ำปาปัวนิวกินี โดยในภาพแสดงให้เห็นห้องเย็นของเรือเปิดกว้าง และมีเรือลากอวน 2 ลำขนาบอยู่ด้านข้าง กำลังลำเลียงปลาขึ้นเรือใหญ่ ทั้งนี้เรือไม้ลากอวน 2 ลำดังกล่าว ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในเหล่าเรือที่เคยหนีออกจากเกาะห่างไกลแห่งหนึ่งของอินโดนีเซียเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังถูกพบว่าใช้ลูกเรือแรงงานทาสจากหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคนเหล่านั้นถูกทุบตีเป็นประจำและบังคับให้ทำงานแบบไม่ได้หยุดพัก ด้วยได้รับค่าจ้างเพียงเล็กน้อยหรือกระทั่งไม่ได้รับเลย 



+++ กองกำลังสหรัฐฯในญี่ปุ่น (ยูเอสเอฟเจ) แถลงเรื่องเฮลิคอปเตอร์ เอช-60 ของกองทัพสหรัฐฯ ประสบอุบัติเหตุ ขณะลงจอดบนเรือรบ ยูเอสเอ็นเอส เรด คลาวด์ ห่างชายชายฝั่งเกาะโอกินาวา ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ประมาณ 30 กิโลเมตร ระหว่างการฝึกซ้อม มีรายงานเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนเครื่องได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บ



+++ไปที่อียิปต์ มีการเผยแพร่คลิปเสียงที่ระบุว่าเป็นของนายไอมาน อัล-ซาวาห์รี ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ถูกส่งต่ออย่างแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาสรรเสริญนายมุลเลาะห์ โมฮัมหมัด โอมาร์ อดีตผู้นำกลุ่มตอลีบัน และประกาศตัวเป็นพันธมิตรกับตอลีบันภายใต้การนำของนายมุลเลาะห์ อัคตาร์ มานซูร์ ผู้นำคนใหม่ คลิปเสียงความยาว 10 นาที เป็นการตัดต่อคลิปเสียงจำนวนมากเข้าด้วยกัน นายอัล-ซาวาห์รี เรียกร้องให้นายมานซูร์ เดินตามรอยของผู้นำกลุ่มคนก่อน แม้กลุ่มอัลกออิดะห์ และตอลีบัน จะเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดมาตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษปี 1990 แต่ทั้ง 2 กลุ่มก็มีเป้าหมายที่ต่างกัน โดยตอลีบันมุ่งมั่นจะใช้กฎที่เข้มงวดตามหลักศาสนาในการปกครองอัฟกานิสถาน ขณะที่อัลกออิดะห์ มีเป้าหมายระดับโลกและมุ่งโจมตีกลุ่มประเทศตะวันตก



+++เหตุยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่รถขนนักโทษที่แออัดจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ 37 คน เมื่อเดือน ส.ค. 2556 เหตุเกิดระหว่างกลุ่มนักโทษที่ถูกกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี กำลังจะถูกเคลื่อนย้ายไปยังเรือนจำอาบูซาบัลใกล้กรุงไคโร ของอียิปต์ ศาลอียิปต์ มีคำพิพากษาจำคุก 5 ปี รองผู้บังคับบัญชาประจำสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า รถบรรทุกนักโทษคันดังกล่าวสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้เพียง 24 คน แต่ในวันเกิดเหตุมีการบรรทุกนักโทษมากถึง 45 คน  

+++กรณีการบุกโจมตีโรงเรียนในเมืองเปชวาร์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศปากีสถาน ใกล้พรมแดนปากีสถาน เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 151 ศพ ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน ศาลทหารปากีสถาน ตัดสินประหารชีวิตสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรง 6 คน และจำคุกตลอดชีวิต 1 คน เว็บไซต์ของกองทัพ รายงานว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมภายใต้ระเบียบวิธีการทางกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการจัดหาความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่จำเลยด้วย นับตั้งแต่เดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว นอกจากนี้ ยังแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้อำนาจศาลทหารในการสอบสวนผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย จากเดิมที่จำเป็นต้องพิจารณาในศาลก่อการร้ายที่จัดตั้งขึ้นพิเศษ ที่ดำเนินไปอย่างล่าช้านานหลายปี ผู้ต้องสงสัยส่วนใหญ่อาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายหลบหนีไปได้ ขณะที่พยานก็ตกอยู่ในความหวาดกลัวจนไม่สามารถขึ้นให้การในศาลในศาลได้

+++เลอโนโว บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่จากจีน ประกาศแผนตัดลดรายจ่าย 1,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 47,659 ล้านบาท ต่อปี ปลดพนักงาน 3,200 ตำแหน่งในภาคส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 5 ของพนักงานทั้งหมด และเตรียมปรับโครงสร้างใหม่ในส่วนของธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ผลกำไรสุทธิของเลอโนโวในช่วง 3 เดือนนับจนถึง 30 มิ.ย. ลดลงร้อยละ 51 มาอยู่ที่ 105 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3,706 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 214 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 7,554 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ความต้องการในตลาดคอมพิวเตอร์ทั่วโลกของเลอโนโวลดลงมาก โดยมีสัดส่วนรายได้ลดลงร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับปีก่อน



+++ด้าน เอชทีซี ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือจากไต้หวัน ประกาศแผนปลดพนักงานร้อยละ 15 หรือประมาณ 2,300 คน หลังขาดทุน 8,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว 9,059 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเติบโต และปรับปรุงรูปแบบการดำเนินงาน



+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ กล่าวว่า  นางมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ฮู) แถลงต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกจะยุติลงได้ภายในสิ้นปีนี้ หากยังสามารถรักษาระดับการรับมืออย่างเข้มงวดนี้ไว้ได้ แม้จะมีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไลบีเรียอีก 6 คนเมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งที่มีการประกาศสถานะการปลอดจากเชื้อไปตั้งแต่เดือน พ.ค. นางชาน กล่าวว่า ปัจจุบัน ผู้รอดชีวิตราว 13,000 คน จากการระบาดครั้งนี้ที่เริ่มมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2556 ยังคงต้องเผชิญกับอาการแทรกซ้อน ทั้งการปวดข้อรุนแรง และความบกพร่องทางการมองเห็นที่ในบางคนรุนแรงถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นเลย



CR:BBC

ข่าวทั้งหมด

X