*รอบวัน:ลดหยวนกระทบส่งออกไทย/ลดค่าโดยสารสาธารณะ/นกแอร์ชดเชยผดส./ตร.หาตัวพริตตี้ท้อง7เดือนคดีชูวงษ์

13 สิงหาคม 2558, 08:20น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30น.



+++ต้องติดตามผลกระทบหลัง  จีนลดค่าเงินหยวน 2 ครั้งติดหวังกระตุ้นการส่งออก ตลาดหุ้นโลกผวาสร้างแรงสั่นสะเทือน           นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล ที่ปรึกษาสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า การที่จีนลดค่าเงินหยวนจะสร้างปัญหาให้แก่ภาคการแข่งขันด้านการส่งออกมากขึ้น แม้ไทยจะสามารถซื้อสินค้าจากจีนได้ถูกลงก็ตาม เพราะขณะนี้ถือว่าจีนนำเข้าจากไทยมากที่สุดเช่นกัน หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 10  จากมูลค่านำเข้าของจีนทั้งหมด การลดค่าเงินหยวนจะทำให้สินค้าของไทยที่ส่งไปขายจีนแพงขึ้น และอาจกระทบต่อยอดสินค้าส่งออกของประเทศไทยได้ เพราะจะมีการแข่งขันกันมากขึ้นของประเทศต่างๆ ในการนำสินค้าเข้าไปขายที่จีน และเชื่อว่าจะสร้างผลกระทบต่อภาคการส่งออกของประเทศไทยให้แย่ลงไปอีกอย่างน้อย 1 ปี



++++นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า การค้าขายของซีพีเอฟในจีนยังเป็นปกติ ไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินหยวนที่ลดลง เนื่องจากธุรกิจซีพีเอฟในจีนเป็นการผลิตภายในและขายภายใน จึงใช้เงินหยวนซื้อขายกันภายในจีนอยู่แล้ว เชื่อว่าการที่จีนลดค่าเงินหยวนมีเป้าหมายเน้นส่งเสริมการส่งออกให้ขับเคลื่อนและแข่งขันได้ ส่วนผลจากการลดค่าเงินหยวนจะเป็นอย่างไรต้องติดตามกันอีกระยะหนึ่ง



+++นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานงานส่งเสริมการค้าการลงทุนและสภาธุรกิจ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประเมินการลงทุนของภาคเอกชนในปีนี้ว่า จะอยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 2 ปี และคาดว่าจะฟื้นตัวในปี 2560 ตามภาวะเศรษฐกิจโลก ปัจจัยส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนมาจาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนประมาณ 80% และผลจากปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองของไทยประมาณ 20% โดยปัจจัยจากการเมืองพบว่านักลงทุนมีความกังวลเรื่องกรอบระยะเวลาการเลือกตั้ง หากยิ่งยืดเวลาออกไป จะกระทบต่อการเจรจาเขตการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป และการลงนามเขตการค้าเสรีในประเทศอื่นๆ ทำให้การส่งออกของไทยเสียเปรียบคู่แข่ง



++++ราคาสินค้าอาหารปรุงสำเร็จหรือจานด่วนทั่วประเทศ โดยกรมการค้าภายในพบว่าราคาปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 5-10 บาท ต่อจาน/ชาม โดยภาคใต้มีราคาแพงสุดและแพงกว่าภาคอื่นๆ เฉลี่ย 5-20 บาท/จาน เนื่องจากราคาอาหารเคยปรับขึ้นสูงในช่วงราคายางพาราแพง แต่เมื่อราคายางลดลง 4-5 เท่าตัว ร้านค้าไม่ได้ปรับราคาอาหารลงตาม  ขณะที่อาหารกลางวันข้าวราดแกง กับข้าว 2 อย่าง ราคา 25-50 บาท/จาน เพิ่มขึ้น 5-10 บาท โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือราคาสูงสุด 30-50 บาท/จาน ภาคกลางและภาคเหนือราคาต่ำสุด 25-35 บาท/จาน,   นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมได้หารือกับห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยขอให้ดำเนินโครงการ "หนูณิชย์พาชิม" ในพื้นที่ของศูนย์อาหารไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน เพื่อดูแลราคาอาหารจานด่วนให้กับประชาชนได้มีทางเลือกในการรับประทาน



++++สถานการณ์ท่องเที่ยว  พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยังสดใสต่อเนื่อง โดยนับจากเดือนมกราคมถึง 31 กรกฎาคม 2558 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 17.5 ล้านคน นำเงินตราเข้าประเทศ 818,439 ล้านบาท มั่นใจว่าทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ 29-30 ล้านคน มากกว่าเป้าหมายที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตั้งไว้ 28.8 ล้านคน และสร้างรายได้เข้าประเทศ 1.6-1.8 ล้านล้านบาท สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1.4 ล้านล้านบาท



+++วันนี้ จะมีกการประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางพิจารณาอัตราค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะ หลังจากราคาน้ำมันดีเซลได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถสาธารณะที่ใช้น้ำมันดีเซลแล้ว โดยในส่วนรถของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) รถร่วมบขส. รถตู้บขส.และรถตู้ร่วมบขส. จะต้องปรับลดค่าโดยสารลงกิโลเมตรละ 2-3 สตางค์ หากเห็นชอบ จะมีการบังคับใช้ ภายในวันที่ 20 ส.ค.นี้ เป็นต้นไป ด้านนางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถร่วมโดยสาร พร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และรัฐบาล ในการลดราคาค่าโดยสารรถร่วมลง เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลงมาก โดยภายในสัปดาห์หน้าจะทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก รวมถึงบขส. เพื่อให้ช่วยเหลือดังนี้ ให้บขส.ยกเลิกการจัดเก็บค่าขาผู้ประกอบการ ขอให้รถที่ผู้ประกอบการรถโดยสารที่วิ่งให้บริการ สามารถฝากรถที่ไม่ได้วิ่งขณะนี้กว่า 70-80% ให้หยุดวิ่งรถ



+++ น.ต.เจริญพร เจริญธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด กล่าวว่า ในวันที่ 13 สิงหาคม ผู้ประกอบการเรือโดยสารจะหารือกับกรมเจ้าท่าเกี่ยวกับการปรับลดค่าโดยสาร อันเป็นผลจากราคาน้ำมันดีเซลลดลง     หากมีการปรับลดค่าโดยสารเรือ คาดว่าจะเริ่มปรับค่าโดยสารของเรือที่มีผลต่อผู้โดยสารจำนวนมาก อาทิ เรือประจำทาง ส่วนเรือด่วนซึ่งเป็นทางเลือกเสริมของผู้โดยสาร อาจจะปรับลดค่าโดยสารในภายหลังก็ส่วนอัตราราคาที่ปรับคาดว่าจะลดไม่มาก เป็นหลักบาท หากใช้หลักสตางค์จะเกิดความยากลำบากในทางปฏิบัติ" น.ต.เจริญพรกล่าว



--+++ระบบเช็กอินตั๋วอัตโนมัติของสายการบินนกแอร์เกิดเหตุขัดข้อง ทำให้เคาน์เตอร์สายการบินนกแอร์ทั่วประเทศไม่สามารถเช็กอิน อัตโนมัติได้ระหว่างเวลา 04.00-08.30 น. ต้องเช็กอินโดยระบบแมนวล หรือใช้เจ้าหน้าที่สายการบินดำเนินการแทน ทำให้การเช็กอินผู้โดยสารล่าช้า (ดีเลย์) ประมาณ 2 ชั่วโมง ส่งผลให้เที่ยวบินของนกแอร์ทุกเที่ยวบินต้องดีเลย์ออกไปราว 2 ชั่วโมงเช่นกัน ทำให้ผู้โดยสารตกค้างที่สนามบินจำนวนมาก โดยเฉพาะสนามบินดอนเมืองซึ่งเป็นสนามบินต้นทางสำหรับเดินทางไปยังปลายทางอื่นๆ นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ โพสต์ข้อความขออภัยผ่านสื่อโซเชียล  บื้องต้นจะเยียวยาด้วยการให้ตั๋วโดยสารฟรีเส้นทางบินในประเทศแก่ผู้โดยสารที่เดินทางกับสายการบิน นกแอร์จากสนามบินดอนเมืองของวันที่ 12 สิงหาคม ในเที่ยวบินตั้งแต่เวลา 04.00-10.00 น. ทุกเที่ยวบิน โดยจะให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปเร็วที่สุด



+++การเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เชื่อมโยงการโอนหุ้นผิดปกติ ล่าสุด ตำรวจติดต่อพริตตี้สาวท้อง 7 เดือนไม่ได้ เร่งส่งชุดสืบสวนกองปราบออกตามหา เพราะขาดการติดต่อไป 1 สัปดาห์แล้ว เกรงว่าจะได้รับอันตรายพบพิรุธเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้โอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ในส่วนของบริษัทอาร์เอชบีฯ ตรวจสอบพบจดทะเบียนโดยบริษัทของคนใกล้ชิด พ.ต.ท.บรรยิน ขณะที่พนักงานสอบสวนได้เอกสารการโอนหุ้นของพริตตี้ครบแล้ว ส่วนของโบรกเกอร์สาวคนสนิทเหลือบางส่วน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวว่า เรื่องการสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน สภาพศพผู้เสียชีวิตและพยานหลักฐานที่ญาติบอกมีบาดแผลอย่างนั้นอย่างนี้ต้องถามว่าได้รายละเอียดมาจากไหน ต้องให้ได้ผลพิสูจน์ตามพยานหลักฐานยึดหลักนิติวิทยาศาสตร์ ได้สั่งสอบสวนเพิ่มเติมในทุกประเด็นที่สงสัย ไม่นานคงได้ผลสรุปสาเหตุการเสียชีวิต



+++ วันนี้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม จะส่งรายงานกระบวนการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพิจารณา



+++9.00 น. คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานหลายปมปัญหาด้านพลังงานคาดว่าจะมีการหารือภาพรวมถึงทิศทางพลังงานและทิศทางค่าบริการรถสาธารณะ ยังมีวาระพิจารณาอีกหลายเรื่องที่สำคัญ เช่น การทบทวนหลักเกณฑ์การกำหนดโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าปี 2558-2560 ให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน การยกเลิกสิทธิพิเศษในการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม จำนวนตั้งแต่ 1 หมื่นลิตรขึ้นไป ระหว่างบริษัท ปตท. กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)การเสนอการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อลดต้นทุนการขนส่งน้ำมันในต่างจังหวัดลง เนื่องจากการขนรถบรรทุกในปัจจุบันมีต้นทุนสูง โดยจะเปิดให้เอกชนที่สนใจดำเนินการโครงการ



+++นายอดินันท์ ปากบารา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) นัดหารือ สมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สวอท.) หลัง มีมติลงสัตยาบันจะไม่รับนักศึกษาที่มีรอยสัก และระเบิดหูในปี 2559 นั้น  ด้าน รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวณิช นายก สวอท. กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้เวลานี้ว่าจะยกเลิกหรือไม่อย่างไร เพราะมติดังกล่าวเป็น การหารือกันในกลุ่มวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน 19 สถาบันที่เปิดสอนด้านช่างอุตสาหกรรม เป็นการขอความ ร่วมมือเพื่อจะร่วมกันดูแลความประพฤติของนักเรียน นักศึกษากันอย่างใกล้ชิด ให้อยู่ในกรอบมีการแต่งกายที่ถูกระเบียบเหมาะสม ไม่พกพาอาวุธ ยาเสพติด ซึ่งไม่ได้เป็นการบังคับในภาพกว้างไปถึงวิทยาลัยอาชีวะเอกชนอื่นๆ หรือบังคับว่าทุกวิทยาลัยห้ามรับเด็ดขาด เพราะที่สุดแล้วการตัดสินใจใดๆ ก็ตาม ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละวิทยาลัยเอง

ข่าวทั้งหมด

X