*รอบวัน:นายกฯตักบาตรถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯบรมราชินีนาถ/พาคุณแม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อ/ถอดยศทักษิณ*

12 สิงหาคม 2558, 08:22น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30.



+++ตั้งแต่เวลา 07.00 น.พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและภริยาเป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรทางเรือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษา 83 พรรษา เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ริมคลองผดุงกรุงเกษม (ฝั่งทำเนียบรัฐบาล) จากนั้น ในเวลา  09.00 น. นายกรัฐมนตรีและภริยาลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2558 ณ ห้องแดง ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง



+++คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม จัดโครงการ “รณรงค์เผยแพร่ความรู้ด้านวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ”เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในโอกาสวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558 และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ 3 โรคติดเชื้อยอดฮิต ในผู้สูงอายุได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม และโรคงูสวัด พร้อมกระตุ้นให้ลูกกตัญญูแสดงความห่วงใยและป้องกันโรคติดเชื้อของบุพการี ด้วยการพาคุณแม่ไปฉีดวัคซีนเป็นของขวัญวันแม่



+++ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประเสริฐ อัสสันตชัย หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม และหัวหน้าสาขาวิชาเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า “ปัจจุบันโรคติดเชื้อในผู้สูงอายุถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยเฉียบพลัน เกิดภาวะพึ่งพา การสูญเสียคุณภาพชีวิตที่ดี ตลอดจนการเสียชีวิตได้บ่อยในผู้สูงอายุ  โรคงูสวัด เป็นหนึ่งในสามโรคติดเชื้อที่สำคัญ อุบัติการณ์ตลอดช่วงชีวิต ของการเกิดโรคงูสวัดประมาณร้อยละ 20-30 ในประชากรทั่วไป แต่จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50ในผู้ที่มีอายุถึง 85 ปี โรคงูสวัดทำให้มีการอักเสบของเส้นประสาท ทำให้มีอาการปวดแสบร้อน และมีผื่นขึ้นตามแนวเส้นประสาท ซึ่งจะสามารถหายเองได้ภายใน2 สัปดาห์ แต่หากเป็นผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง การแพร่กระจายและความรุนแรงของโรคจะมีมากขึ้น และอาจพบภาวะแทรกซ้อนที่เรียกว่า อาการปวดตามแนวเส้นประสาทเรื้อรัง ซึ่งอาจจะปวดได้อีกหลายเดือนถึงเป็นปี จากการศึกษาการใช้วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด พบว่าสามารถลดอุบัติการณ์ของโรคงูสวัดได้ร้อยละ 51.3โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่อายุระหว่าง 60-70 ปี และยังช่วยลดอุบัติการณ์ของอาการปวดตามแนวเส้นประสาทเรื้อรัง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่อายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป และยังสามารถให้วัคซีนป้องกันโรคงูสวัดร่วมกับวัคซีนอื่นๆ ได้ในเวลาเดียวกัน โดยฉีดวัคซีนคนละข้างของต้นแขน แม้จะเคยเป็นงูสวัดแล้ว



+++เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมปีนี้ เป็นไปอย่างคึกคักทั่วประเทศ โดยเฉพาะประชาชน ยังออกหาซื้อเสื้อสีฟ้า และเสื้อสีฟ้า” ปั่นเพื่อแม่” ไว้สวมใส่ ในโอกาสมหามงคลปีนี้กันอย่างคึกคักนอกจากนี้วันแม่แห่งชาติยังทำให้บรรยากาศจำหน่ายดอกมะลิในหลายจังหวัดขายดิบขายดีเพื่อทำเป็นพวงมาลัยมอบให้คุณแม่ ส่งผลให้ดอกมะลิปรับราคาพุ่งขึ้นกว่า 3 เท่าตัวจากเดิมราคา    กิโลกรัมละประมาณ 150-200 บาท ปรับขึ้นอยู่ที่ 700-1,000 บาท ถึงกระนั้นก็ยังไม่พอขายแม้ว่าช่วงนี้ฝนตกลงมาติดต่อหลายวันทำให้มะลิออกดอกจำนวนมากก็



++++นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)กล่าวว่า สำหรับกิจกรรม”Bike For Momปั่นเพื่อแม่”วันที่ 16 สิงหาคมนี้ ได้จัดส่งชุดแพทย์ลงไปดูแลแบ่งเป็น3 จุด คือจุดที่ 1จากลานพระราชวังดุสิตหรือลานพระบรมรูปทรงม้าถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยกทม.จะดูแล จุดที่ 2 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะดูแลโดยศูนย์ประสานงาน รพ.ราชวิถีและจุดที่3 ตั้งแต่มหาวิทยาลัยเกษตรฯ ถึงกรมทหารราบที่11รักษาพระองค์ จะมีรพ.ภูมิพล ดูแล



++++ขณะนี้มีผู้ปฏิบัติงานทั้งหมด ที่เราเตรียมไว้ทั้งแพทย์ พยาบาล อาสาสมัครทั้งหมด ประมาณ723 คน ตลอดเส้นทาง 42 กิโลเมตร เราได้รับความร่วมมือจากรพ.ราชวิถี รพ.เลิศสิน รพ.นพรัตน์ รพ.พระมงกุฎ รพ.ภูมิพล รพ.ตำรวจรวมถึง รพ.รามาธิบดี รพ.ศิริราชและรพ.เอกชนตลอดเส้นทาง และยังมีมูลนิธิร่วมกตัญญู ปอเต๊กตึ๊ง โดยคาดการณ์สถานการณ์สุขภาพ มีตั้งแต่ระดับเบาสุดคือเป็นลม บาดเจ็บเล็กน้อยจนถึงขั้นรุนแรงคือเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ



+++ประเด็นร้อนวันนี้ ต้องติดตาม หลังคณะกรรมการที่มีพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน มีมติว่า สามารถถอดยศ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้   มีรายงานว่า นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ความเห็นต่อกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ขอความเห็นเกี่ยวกับการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มายังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า ที่ผ่านมา สตช.เคยมีการขอความเห็นเรื่องดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง เป็นสิ่งที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบว่า “สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีอำนาจดำเนินการได้



+++พล.อ.ไพบูลย์กล่าวถึงประเด็นที่ว่าระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศ พ.ศ.2547 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วหรือไม่ คำตอบคือ ไม่จำเป็นเพราะเป็นเรื่องภายในราชการตำรวจ และประเด็นนี้ ตร.เคยสอบสวนเมื่อปี 2552, 2553 และ 2554 และใช้ระเบียบนี้ลงมติถอดยศมาแล้ว อีกประเด็น คือ เมื่อระเบียบดังกล่าวยังไม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะขัดต่อมาตรา 8 พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ศ.2540 หรือไม่ กฤษฎีกาตอบในที่ประชุมในวันนี้ว่าประกาศดังกล่าวไม่ต้องประกาศในราชกิจจาฯ เพราะเป็นเรื่องภายใน เป็นการประกาศใช้ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น ทั้งนี้ ตร.ได้ถอดยศตำรวจตั้งแต่ปี 2547 จำนวน 632 คน ส่วนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณเคยมีมติของคณะกรรมการพิจารณาเรื่องนี้ให้ถอดยศมาแล้วตั้งแต่ปี 2552-2558



+++พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เชื่อว่าผลที่ออกมาตอบคำถามของสังคมได้ ส่วนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการได้เฉพาะเครื่องราชฯที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้มาขณะยังเป็นตำรวจเท่านั้น ส่วนที่ออกจากตำรวจแล้วไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นหน้าที่ของรัฐบาล



+++++การพิจารณางบประมาณประจำปี 2559 พล.ท.ชาตอุดม ติตถะสิริ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) แถลงว่า กมธ. งบประมาณฯ ได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว โดย กมธ. ได้มีมติปรับลดงบประมาณส่วนราชการต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 20,582 ล้านบาท และได้นำไปจัดสรรให้กับหน่วยงานที่ขอแปรญัตติเพิ่ม จากการพิจารณาปรับลดทั้งหมด กระทรวงศึกษาธิการ ได้ถูกปรับลดมากที่สุด จำนวน 3,055 ล้านบาท รองลงมาคือ กระทรวงคมนาคม ที่ถูกปรับลด จำนวน 2,784 ล้านบาท กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถูกปรับลด จำนวน 2,554 ล้านบาท ส่วน กระทรวงกลาโหม ถูกปรับลดไปทั้งสิ้น 1,257 ล้านบาท จากนี้ไปจะเป็นการจัดพิมพ์เอกสารเพื่อใช้ประกอบการอภิปรายของ สนช. ในวาระ 2 และ 3 ซึ่งจะเข้าสู่ที่ประชุม สนช. ในวันที่ 27 ส.ค. นี้หากผ่านความเห็นชอบ จะถูกนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันที่ 4 ก.ย. นี้ ซึ่งคาดว่าจะประกาศใช้ได้ทันต้นปีงบประมาณ ส่วนกรณีที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของบไปจ่ายให้เอกชน “โครงการคลองด่าน” พล.ท.ชาตอุดม กล่าวว่า กมธ. ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของทางรัฐบาล       



+++สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงประธาน กกต. หลังตรวจสอบพบเบิกงบจัดเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 ส่อทุจริตหลายจุด ตั้งงบไม่ถูกต้อง-เกินจริงกว่า 282 ล้านบาท สั่งให้เรียกเงินคืนแล้วรายงานผลการเดำเนินการกลับมาภายใน 60 วันนายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ที่ ตผ 0040/0831 วันที่ 24 กรกฎาคม ส่งถึงนายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องการตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการควบคุมและดำเนินการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป (กรณียุบสภา) เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557    ที่น่าสนใจ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินพบว่า การเบิกจ่ายเงินไม่ถูกต้อง และการเบิกจ่ายเงินโดยเจ้าหน้าที่มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าอาจมีการทุจริตรวมมูลค่าความเสียหายจำนวน 17,219,580 บาท และการคิดค่าบริการของรัฐวิสาหกิจที่ร่วมดำเนินการจัดการเลือกตั้งมีความแตกต่างกัน คือบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และการไฟฟ้านครหลวง คิดค่าบริการในอัตราเดียวกับที่ให้บริการบุคคลทั่วไป ซึ่งได้รวมกำไรไว้ด้วย แต่สำหรับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คิดค่าบริการตามค่าใช้จ่ายจริงโดยไม่รวมกำไร ทั้งยังพบว่าไม่มีการจัดทำรายงานผลการใช้จ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งในภาพรวมสำหรับการเลือกตั้งแต่ละครั้ง

ข่าวทั้งหมด

X