*ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
+++น้ำมันร่วงลงแตะระดับต่ำสุดรอบ6ปีในวันอังคาร หลังจีนประกาศลดค่าเงินหยวน เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจทรุดตัว น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2009 ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ธนาคารกลาง จีน (พีบีโอซี) ประกาศลดค่าเงินหยวนลงมาเกือบร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในวันอังคาร(11ส.ค.) ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี
+++ความเคลื่อนไหวลดค่าเงินหยวนของจีน ก็ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(11ส.ค.) ร่วงลงแรงเช่นกัน ขณะที่ยักษ์ใหญ่อย่าง แอปเปิล, จีเอ็ม และบริษัทอื่นๆ ซึ่งพึ่งพิงตลาดจีนอย่างมาก ต่างปิดลบกันถ้วนหน้า ดัชนีอุตสาหกรรม ดาวโจนส์ ลดลง 212.33 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,402.84 จุด สวนทางกับราคาทองคำ ที่ปรับตัวขึ้น ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,107.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
++++รัฐบาลรัสเซียอาจปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ หลังผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ดิ่งลงอย่างมากในไตรมาส 2 สำนักงานสถิติแห่งชาติของรัสเซียรายงานวานนี้ว่า เศรษฐกิจรัสเซียหดตัวลง 4.6% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยย่ำแย่กว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ว่าจะหดตัว 4.4% ขณะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลง 2.2% ในไตรมาสแรก เศรษฐกิจรัสเซียประสบภาวะถดถอยเป็นครั้งที่ 2 ภายใต้การบริหารประเทศเป็นเวลา 15 ปีของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน โดยได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของราคาน้ำมัน และการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก
+++บีบีซี รายงานอ้างคณะผู้สอบสวนร่วมที่มีชาวดัตช์เป็นแกนนำว่า คณะผู้สอบสวนได้พบซากชิ้นส่วนต้องสงสัยของจรวดบุ๊คแบบยิงจากภาคพื้นดินสู่อากาศของรัสเซียในจุดที่เที่ยวบินเอมเอช 17 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ ตกทางภาคตะวันออกของยูเครน ระบุว่าคณะผู้สอบสวนสามารถเก็บกู้ชิ้นส่วนดังกล่าวในจุดเกิดเหตุ และเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการสอบสวนคดีอาญาต่อไป คณะผู้สอบสวนร่วมชุดดังกล่าวประกอบด้วยตัวแทนจากเนเธอร์แลนด์ ยูเครน มาเลเซีย ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐฯและรัสเซีย ขณะนี้พวกเขาประชุมกันอยู่ที่นครเฮกของเนเธอร์แลนด์ เพื่อหารือการจัดทำร่างรายงานเกี่ยวกับสาเหตุการตกของเที่ยวบินนั้น คาดว่าจะสามารถพิมพ์เผยแพร่รายงานฉบับสมบูรณ์ได้ในเดือนตุลาคมนี้ แถลงการณ์เรื่องนี้มีขึ้น 2 สัปดาห์หลังรัสเซียคัดค้านร่างมติของมาเลเซียเรื่องการเสนอให้มีการเสนอคดีให้ศาลระหว่างประเทศพิจารณา
+++กลุ่มก่อการร้ายไอเอสในซีเรียปล่อยตัวประกันชาวคริสเตียน 22 คน เมื่อวันอังคาร หลังการเจรจาโดยมีหัวหน้าชนเผ่าท้องถิ่นเป็นผู้ประสานงาน กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย (เอสโอเอชอาร์) เผยว่า ตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มชาวคริสเตียนอัสซีเรียนกว่า 220 คนที่ถูกจับตัวไปเมื่อเดือน ก.พ. ขณะเดียวกัน กลุ่มอะฮาร์ราร์ อัล-ชาม กลุ่มหัวรุนแรงในซีเรียแถลงสนับสนุนแนวคิดของสหรัฐและตุรกีในการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัย ปลอดจากการรุกรานของไอเอส ในพื้นที่ทางเหนือติดพรมแดนตุรกี โดยเสนอตัวเป็นหลักในการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ด้านการคุ้มครองพลเรือนและเปิดโอกาสให้ผู้ลี้ภัยเดินทางกลับประเทศได้ แม้กลุ่มอัล-ชาม จะพยายามปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ แต่ในมุมมองของสหรัฐ อัล-ชามก็ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นหุ้นส่วนที่มีประสิทธิภาพพอที่จะร่วมงานกันได้.
+++ด้านกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) กลุ่มหัวรุนแรงชาวมุสลิมสุหนี่ในอิรักได้อ้างความรับผิดชอบว่า อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดรถยนต์ 2 แห่งในจังหวัดดิยาลา ทางตะวันออกของอิรักเมื่อวันจันทร์ มีคนเสียชีวิต 60 ศพ ในเหตุปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกองกำลังความมั่นคงของอิรักและกลุ่มไอเอส ซึ่งขณะนี้สามารถยึดครองพื้นที่บางส่วนใกล้ชายแดนอิรักและซีเรีย
+++ทางการเมียนมาดำเนินการส่งตัวผู้อพยพชาวบังกลาเทศ 159 คน กลับไปยังบังกลาเทศ เมื่อวันจันทร์ หลังก่อนหน้านี้มีการส่งตัวผู้อพยพบางส่วนไปแล้วเมื่อเดือน มิ.ย. และ ก.ค. ส่วนที่เหลืออีก 230 คน จะถูกส่งตัวกลับทันทีหลังกระบวนการตรวจพิสูจน์สัญชาติเสร็จสิ้น โดยความล่าช้าที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของเมียนมา ผู้ลี้ภัยดังกล่าวเป็นกลุ่มที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้จากเรือผู้อพยพในอ่าวเบงกอล เนื่องจากพวกเขาถูกนายหน้าปล่อยทิ้งลอยลำกลางทะเล หลังไทยซึ่งเป็นหนึ่งในทางผ่านสำคัญยกระดับมาตรการปราบปรามการค้ามนุษย์ นายชาหิดุล ฮาคี รมว.กระทรวงการต่างประเทศบังกลาเทศ แถลงต่อเจ้าหน้าที่ทางการทูตในกรุงธากาเมื่อวันอังคารว่า ทางการบังกลาเทศมีแผนจัดทำสำมะโนประชากรขึ้นทะเบียนผู้อพยพชาวโรฮิงญาที่ลี้ภัยข้ามพรมแดนจากเมียนมามาตั้งแต่ช่วงต้นคริสต์ทศวรรษปี 1990 ตัวเลขผู้อพยพที่มีการลงทะเบียนแล้วมีประมาณ 32,000 คน อาศัยอยู่ในค่ายพักพิง 2 แห่งที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ ขณะที่ชาวโรฮีนจาที่ไม่มีเอกสารอยู่ที่ราว 200,000 - 500,000 คน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการขึ้นทะเบียนได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
++++ศาลอินโดนีเซียสั่งให้กองทุนแห่งหนึ่งซึ่งก่อตั้งโดยนายซูฮาร์โต อดีตประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย จ่ายเงินคืนจำนวน 325 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว11,000ล้านบาท) ที่ฉ้อโกงกองทุนรัฐไป นายพลซูฮาร์โต ปกครองอินโดนีเซีย ด้วยระบบเผด็จการเบ็ดเสร็จยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ จนกระทั่งเขาถูกโค่นล้มจากการประท้วงของประชาชนในปี 1998 คำพิพากษาของศาลซึ่งมีคำตัดสินตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่เพิ่งเปิดเผยต่อสาธารณชนในสัปดาห์นี้ เกี่ยวข้องกับกองทุนซูเปอร์เซมา โดยกองทุนแห่งนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อมอบทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยแก่เด็กที่มาจากครอบครัวยากจน แต่ในคำฟ้องทางแพ่งที่ยื่นโดยอัยการสูงสุดกล่าวหาว่าครอบครัวของนายซูฮาร์โต ใช้กองทุนดังกล่าวยักยอกเงินรัฐคำพิพากษาล่าสุดนี้ถือเป็นการกลับคำตัดสินเมื่อปี 2010 ที่ศาลเคยมีคำสั่งให้กองเงินจ่ายเงินคืนแก่รัฐเพียงเล็กน้อย แค่ 320,000 ดอลลาร์(ราว 11 ล้านบาท) ฮวน เฟลิกซ์ ทัมบูโพโลน ทนายความครอบครัวซูฮาร์โต บอกว่าทีมกฎหมายยังไม่ได้รับคำพิพากษาของศาลฎีกาอย่างเป็นทางการ และจะตัดสินใจอีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหลังจากได้เห็นเอกสารคำตัดสินแล้ว
+++ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างกองทัพอากาศสหรัฐฯว่า นักบินคนหนึ่งสามารถดีดตัวขึ้นจากเครื่องบินเอฟ-16 ของสหรัฐฯ ก่อนที่จะตกลงพื้นดินในบริเวณป่าดงดิบแห่งหนึ่งของเมืองไบรอยท์ แคว้นบาวาเรีย ทางภาคใต้ของเยอรมนีเมื่อเช้าวานนี้ นักบินปลอดภัย สำนักข่าวเอพี อ้างฝูงบินรบ 52 ของเยอรมนีว่า นักบินได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง เครื่องบินรบดังกล่าวทะยานขึ้นจากฐานทัพอากาศสหรัฐฯในเมืองสปังดาห์เลม ทางภาคตะวันตกของเยอรมนี ห่างจากเมืองแฟรงค์เฟิร์ตไปทางตะวันตกกว่า 140 กิโลเมตร เพื่อทำการฝึกบินใกล้ฐานทัพกราเฟนเวอร์ นักบินได้เทน้ำมันทิ้งในย่านที่ไม่มีประชากรอาศัยอยู่ก่อนที่เครื่องบินจะร่วงลงถึงพื้นดิน สำหรับรายละเอียดอุบัติเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
+++เว็บไซต์ข่าวจีน “ซีซีทีวี”รายงานจากเขตหมินเหอ มณฑลชิงไห่ เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ว่า ทางการจีนขุดพบโครงกระดูกแม่ลูกกอดกันอายุราว 4,000 ปี ที่บริเวณแหล่งทางโบราณคดีของประเทศ “หล่าเจีย” ในเขตหมินเหอ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลชิงไห่ โดยพื้นที่ดังกล่าวมีความเก่าแก่ตั้งแต่ยุคสัมฤทธิ์ และยังคงมีนักโบราณคดีค้นพบศิลปะวัตถุต่างๆเรื่อยมา ทั้งนี้ โครงกระดูกสองแม่ลูกคาดว่า เกิดขึ้นตอนแผ่นดินไหวในเขตดังกล่าวเมื่อช่วงก่อนคริสตกาลราว 2,000 ปี ทำให้แม่ลูกคู่นี้กอดกันมาเป็นเวลาราว 4,000 ปีแล้ว โดยนักโบราณคดีคาดว่า แม่อาจเป็นฝ่ายปกป้องลูกจากแผ่นดินไหว จนทั้งสองเสียชีวิตโดยใช้ช่วงนาทีสุดท้ายด้วยกัน ภาพการค้นพบโครงกระดูกครั้งนี้ โดยเฉพาะภาพโครงกระดูกแม่ลูกสร้างความประทับใจให้แก่ชาวเน็ตจีนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังมีโบราณวัตถุอื่นๆถูกขุดพบ รวมทั้งก๋วยเตี๋ยวจานแรกของโลกด้วย“
CR:Chinanews